• House Keeping

เปลี่ยนพื้นที่สุดรกให้กลายเป็นที่สุดรักด้วย การจัดบ้านในครั้งเดียว

  • โดย NocNoc Writer

  • 68

จัดบ้าน ยังไงไม่ให้กลับมารกเหมือนเดิม?

นี้คือปัญหากวนใจของใครหลายคน เมื่อการจัดบ้านทำได้แค่เพียงทำความสะอาด หลังจากนั้นเผลอตัวอีกที บ้านก็กลับมารกอีกแล้ว ในวันนี้เราจึงนำเสนอวิธีจัดบ้าน ยังไงไม่ให้กลับมารกอีกครั้ง โดยเทคนิคจากมาริเอะ คนโดะ (Marie Kondo) ผู้เขียนหนังสือทฤษฎีจัดบ้านชื่อดัง  ผสานกับการจัดบ้านรูปแบบอื่นๆ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

1. คำนึงว่าการจัดบ้านให้เป็นระเบียบไม่ใช่แค่การสลับตำแหน่ง

หลายครั้งที่ใครหลายคนลงมือจัดบ้าน แล้วพบว่าตัวเองแค่สลับตำแหน่งของสิ่งของ ทำความสะอาดนิดหน่อย แล้วก็เอาของไว้ที่เดิม การทำแบบนี้ถึงจะได้ความสะอาดแต่อีกไม่นานก็ต้องรกแน่ ซึ่งสาเหตุของเหตุการณ์นี้ไม่ได้มาจากสิ่งของแต่เกิดขึ้นจากวิธีการจัดการต่างหาก

2. ‘จัดบ้าน’ ให้โล่งต้องเอาของมากองรวมกัน

การเริ่มต้น ‘จัดบ้าน’ ที่แท้จริงคือ การเปิดพื้นที่ให้กับบ้าน โดยนำสิ่งของต่างๆ ออกมากองรวมกัน ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้คุณเห็นพื้นที่ว่างภายในบ้าน รวมถึงได้เห็นจำนวนสิ่งของที่คุณมีทั้งหมด และในการจัดบ้านกับจัดการสิ่งของจะสะดวกมากยิ่งขึ้น

3. จินตนาการถึงห้องที่อยากได้

เมื่อไม่มีสิ่งของมาบดบัดทัศนียภาพในห้องแล้ว ถึงเวลาที่คุณจะเริ่มจินตนาการว่า ห้องใหม่ หลังการจัดบ้านแล้วจะออกมาในรูปแบบไหน เป็นสไตล์อะไร หลังจากนั้นจึงไปจัดของต่อ พยายามเลือกของให้เข้ากับสไตล์และความต้องการในการจัดบ้านของคุณ

4. หยิบสิ่งของทีละชิ้น อันไหนไม่ Spark Joy ก็ทิ้ง

เมื่อจินตนาการได้คร่าวๆ แล้วว่า อยากได้ห้องประมาณไหน ก็ถึงเวลาจัดการกับสิ่งของที่กองรวมกันแล้ว โดยในการจัดการกับสิ่งของ  มาริเอะ คนโดะ แนะนำว่า ให้ลองสัมผัสสิ่งของทีละชิ้น ถ้าหากยังรู้สึกชื่นชอบมัน (Spark Joy) ก็ให้เก็บไว้ แต่หากไม่รู้สึกอะไรก็ทิ้งเวลาโบกมืออำลา จัดการทิ้งได้เลย

5. เลือกสิ่งของเฉพาะที่มีประโยชน์

ในกรณีที่จับอะไรก็รู้สึก Spark Joy ไปหมด ให้ลองเลือกจากประโยชน์การใช้งานก่อน พิจารณาดูว่าคุณจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ไหม ถ้าหากไม่มีจะส่งผลกระทบอะไรรึเปล่า โดยทางเรามีตัวอย่างในการเลือกของคร่าวๆ ดังนี้

เลือกเสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย 

ข้อนี้สังเกตได้จากความจำเป็น เช่น ทุกวันนี้ยังใส่อยู่ไหม, เก่ารึยัง, ยังใส่เสื้อผ้าตัวนี้ได้ไหมขนาดเล็กหรือใหญ่ไปรึเปล่า ถ้าหากพิจารณาจนรู้แล้วว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ไม่จำเป็นอีกต่อ ให้ลองเก็บไปบริจาคหรือจะหารายได้เสริมจากการขายเสื้อผ้าเก่าก็ดีเหมือนกันนะ

เลือกเครื่องสำอาง 

บนโต๊ะเครื่องแป้งมีแบบเดียวกันไหม, สีเดียวกันแต่คนละยี่ห้อ, ดูวันหมดอายุ ถ้ามีตามนี้ถึงเวลาโบกมือลาได้เลย หรือถ้าหากเสียดายควรจัดการให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น เช่น หาโต๊ะเครื่องแป้งที่มีลิ้นชัก มีช่องแบ่งเก็บเป็นสัดส่วน เปลี่ยนจากตั้งเครื่องสำอางไว้บนโต๊ะ มาเก็บเป็นสัดส่วนในลิ้นชักแทนเพื่อจัดการพื้นที่บนโต๊ะให้โล่งจะได้ไม่กลับมารกอีกครั้ง

เลือกหนังสือและเอกสาร 

ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและความจำเป็นในการใช้งาน โดยเอกสารส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ใช้แล้ว มักจะเป็นเอกสารเกี่ยวกับงานที่เสร็จสิ้นไปแล้ว ส่วนหนังสือที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้แต่มีติดไว้ทุกบ้านคือ คู่มือเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งหากพิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้งานแล้ว ไม่มีความจำเป็นและไม่ได้ใช้อีกแล้ว สิ่งของพวกนี้ก็สามารถทิ้งได้

ส่วนที่ยากที่สุดสำหรับข้อนี้คือ หนังสือ เนื่องจากคนรักหนังสือส่วนใหญ่อยากเก็บไว้อ่านเองทั้งนั้น ดังนั้นต้องลองถามตัวเองว่า มีเล่มไหนบ้างที่ไม่จำเป็นแล้ว เล่มไหนที่ส่งต่อความรู้ให้กับคนอื่นน่าจะดีกว่า หรือลองเปลี่ยนจากสะสมหนังสือเป็นเล่มมาเก็บหนังสือใน E-book แทน แต่หากตัดใจทิ้งไม่ลงต้องลองเปลี่ยนการจัดใหม่ หาตู้หนังสือที่ใหญ่ขึ้นหรือจัดมุมหนังสือโดยเฉพาะ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและถือเป็นการแต่งบ้านไปในคราวเดียวกัน

6. จัดบ้านให้สิ่งของอยู่เป็นหมวดหมู่ อย่ากระจายสถานที่

หลายคนประสบปัญหากับการที่สิ่งของอยู่กระจัดกระจายตามสถานที่ในบ้าน เช่น เสื้อผ้า อยู่ในตู้เสื้อผ้า แต่เข็มขัดอยู่โต๊ะเครื่องแป้ง หรือก  างเกงยีนส์ที่พาดอยู่บนเก้าอี้ห้องรับแขก ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ต้องจัดการให้สิ่งของอยู่ในสถานที่ที่ถูกต้องตามหมวดหมู่ของมัน

จัดการลิ้นชัก/ชั้นวางของ 

หากรู้แล้วว่าสิ่งของไหนบ้างที่ไม่ Spark Joy อย่าพยายามกองของในลิ้นชัก หรือชั้นวางของ ให้ลองจัดระเบียบก่อน ถ้าหากการกับของจัดไม่ไหวให้หากล่องมาเก็บแทน  หลีกเลี่ยงการใช้กล่องธรรมดาแล้วซุกกล่องไว้ใต้ตู้ ใต้โต๊ะ จะทำให้บ้านดูรกมากขึ้น โดยการเลือกใช้กล่องเราแนะนำให้ใช้กล่องที่มีสไตล์เพื่อเป็นการแต่งบ้านไปในตัวทั้งเรียบร้อยและสวยงามในครั้งเดียว

การจัดโต๊ะทำงาน 

โต๊ะทำงาน คือแหล่งรวมเอกสารที่ไม่ได้ใช้งานชั้นดี ดังนั้นการจัดการโต๊ะทำงานให้โล่งสบาย ควรเริ่มจากการเอกประเภทเอกสารก่อน อันนั้นที่ไม่จำเป็นแล้วก็ทิ้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับโต๊ะทำงาน และสำหรับคนที่ของเยอะการเปลี่ยนโต๊ะทำงานเป็นแบบที่มีลิ้นชักเก็บของสามารถช่วยลดของที่กองบนโต๊ะได้ แต่ทั้งนี้ควรจัดของในลิ้นชักให้เป็นระเบียบ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่ความรกจะมาอยู่ในลิ้นชักแทนบนโต๊ะทำงาน

กล่องใสใส่ของ Spark Joy 

ในกรณีที่จัดหมวดหมู่แล้วของที่ Spark Joy มีเยอะเกินไป กล่องใส่สามารถช่วยคุณได้ โดยให้คุณนำสิ่งของที่ Spark Joy เก็บไว้ในกล่องใส ซึ่งสาเหตุที่ต้องเป็นกล่องใสเพื่อป้องกันการซื้อซ้ำ แต่ทั้งนี้ตำแหน่งการจัดวางตำแหน่งของกล่องใสเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรนำกล่องใสไปกองไว้ใต้ตู้ ใต้โต๊ะ เพราะจะสั่งสมนิสัยการหมกข้าวของ ทำให้การจัดบ้านต้องเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ดังนั้นอาจจะลองหาตำแหน่งที่เหมาะกับกล่องใสดู หรือเปลี่ยนจากกล่องใสเป็นกล่องที่มีสไตล์มากขึ้นเพื่อเสริมสไตล์ของบ้าน

สรุป

การจัดบ้านให้สวยงามสามารถทำได้ด้วยการเข้าใจการทำงานของพื้นที่และสิ่งของ เพียงแค่บางครั้งคุณอาจจะต้องทิ้งความทรงจำ ทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตเพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาแทนที่ แต่หากตัดใจทิ้งไม่ได้ก็ต้องลองเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านแทน เพื่อรองรับกับสิ่งของเหล่านี้ เช่น โต๊ะทำงานกับโต๊ะเครื่องแป้ง ที่สามารถเลือกแบบที่มีลิ้นชักเก็บของได้ เป็นต้น ทั้งนีการจัดบ้านสิ่งที่ควรคำนึงมากที่สุด ไม่ใช่เรื่องการทิ้งหรือไม่ทิ้ง หรือเรื่องการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ แต่คือความสบายใจของผู้อยู่ หากคุณสบายใจที่จะมีบ้านแบบไหน ก็ให้ทำแบบนั้นต่อไป เพียงแค่จัดบ้านให้ถูกใจก็พอแล้ว

 

สำหรับใครที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์มาเป็นตัวช่วยในการจัดบ้าน ทาง NocNoc.com  ได้รวบรวมเฟอร์นิเจอร์มาให้คุณแล้ว สามารถดูได้ที่ NocNoc.com เราพร้อมเป็นตัวช่วยเปลี่ยนความฝันเรื่องบ้านให้เป็นความจริง!

แต่งบ้านได้สุดอย่างฝัน ที่ NocNoc.com

บทความที่เกี่ยวข้อง