• Idea&Inspiration

3 เทคนิคเลือกประตูบ้านให้เหมาะกับห้อง หมดปัญหาตามมาทีหลัง

  • โดย NocNoc Writer

  • 60

NocNoc สรุปให้ 

  • ประตูบ้านมีให้เลือกหลายประเภททั้งไม้จริง, ไม้ WPC, ไม้อัด HDF, ไม้เอนจิเนียร์, ไฟเบอร์ซีเมนต์, พีวีซี, ยูพีวีซี, และอลูมิเนียม ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบ้าน
  • การจะเลือกประตูบ้านสวย ๆ สักบาน ต้องดูที่ตำแหน่งและห้องที่จะติดตั้ง ไปจนถึงความต้องการด้านอื่น ๆ ที่จำเป็นด้วย เพื่อให้เลือกประเภทได้เหมาะสม ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวมากที่สุด
  • เทคนิคเลือกประตูบ้านสวยให้ตอบโจทย์การใช้งาน ต้องเลือกจากการใช้งานว่าอยู่ภายในหรือภายนอกบ้าน ห้องไหนของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ หรือห้องนอน และดูเรื่องความสวยงาม สภาพแวดล้อม และความปลอดภัยด้วย

ประตูบ้านเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ นอกจากจะทำหน้าที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้านแล้ว ก็ยังป้องกันอันตราย ลม ฝน ความร้อน หรือแม้แต่เสียงเข้ามาในบ้าน เรื่องดีไซน์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเลือกไม่เข้ากับสไตล์การตกแต่งแล้ว บ้านสวย ๆ อาจดูดรอปลงไปได้เลย สำหรับใครที่อยากจะรู้จักการเลือกประตูบ้านให้มากกว่านี้ วันนี้ NocNoc มีความรู้ดี ๆ มาฝากทุกคนแล้ว!

ทำความรู้จักวัสดุของประตูก่อน

1. ประตูไม้จริง

ภาพ: ประตูไม้จริง

“แข็งแรง ทนทาน เลือกใช้ให้เข้ากับบ้านได้”

ประตูไม้จริงเป็นประตูที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรูปแบบบ้านได้หลากหลายสไตล์ จากโทนสีของไม้ที่แตกต่างกัน สำหรับไม้ที่นิยมนำมาทำประตูคือ ไม้แดง ไม้โอ๊ค ไม้เต็ง เพราะเป็นไม้เนื้อแข็งจึงแข็งแรงทนทาน เหมาะกับการใช้งานในบ้าน

 

ข้อดี: แข็งแรง ทนทาน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากลวดลายของไม้ 

ข้อเสีย: ประตูไม้จริงจะหดและขยายออก หากได้รับความชื้น มีโอกาสเกิดปลวกได้

2. ประตูไม้ WPC

ภาพ: ประตูไม้ WPC

“ทนความชื้น ไม่ดูดซึมน้ำ”

ประตูไม้ WPC (Wood Plastic Composite) ทำมาจากไม้ผสมกับโพลีเมอร์หลากชนิด ซึ่งไม้มีโครงสร้างเส้นใยที่แข็งแรง ส่วนโพลีเมอร์ มีคุณสมบัติกันความชื้น ไม่ดูดซึมน้ำ ซึ่งจากการผสมผสานจุดเด่นของแต่ละส่วนประกอบจึงทำให้ได้ประตูที่มีความแข็งแรงและกันความชื้น

 

ข้อดี: ปลวกไม่ขึ้น หมดปัญหาเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปลวก วัสดุไม่ไวไฟ ลดความเสี่ยงเรื่องไฟไหม แข็งแรงทนทาน ทนความชื้นได้ดีไม่บวมเมื่อโดนน้ำ 

ข้อเสีย: ดัดแปลงปรับใช้ในส่วนอื่นทำได้ยาก เพราะรูปแบบของประตูที่ขึ้นรูปมาโดยเฉพาะ ทำให้ไม่สามารถปรับแต่งได้

3. ประตูไม้อัด HDF

ภาพ: ประตูไม้ HDF

“น้ำหนักเบา ใช้กับห้องน้ำได้”

ประตูไม้อัด HDF (High Density Fiber) ทำมาจากการนำเศษไม้ขนาดเล็กมาผสมกับเรซิน จากนั้นจึงอัดด้วยความร้อนสูง จากส่วนผสมที่ทำจากเศษไม้ทำให้ประตูไม้อัดมีลักษณะเฉพาะตัว คือ ความเบาแต่ความหนาแน่นของประตูต่ำจึงเกิดความเสียหายจากแรงกระแทกได้ง่าย

 

ข้อดี: ปลวกไม่ขึ้นไม้ ทนความชื้นได้ในระดับหนึ่ง นำไปเป็นประตูห้องน้ำได้

ข้อเสีย: ถึงแม้จะทนความชื้นได้ แต่ไม่ควรนำไปถูกฝนและแดดโดยตรงเพราะจะทำให้เสื่อมสภาพเร็ว

4. ประตูไม้เอนจิเนียร์

ภาพ: ประตูไม้เอนจิเนียร์

“มีส่วนผสมของไม้จริง”

สำหรับประตูไม้เอนจิเนียร์ คือ ประตูที่ทำมาจากการขึ้นโครงสร้างไม้จริงผสมกับไม้อัด จากนั้นจึงนำไม้วีเนียร์ในการฉาบหน้าประตู โดยไม้วีเนียร์คือเยื่อไม้แผ่นบาง ๆ นิยมนำมาใช้ตกแต่ง ซึ่งการผสมระหว่างไม้จริง ไม้อัดและไม้วีเนียร์ ทำให้ประตูไม้เอนจิเนียร์ มีความแข็งแรงและสวยงามในคราวเดียวกัน

 

ข้อดี: แข็งแรงใกล้เคียงไม้จริง ลวดลายสวยงามเฉพาะ เพราะไม้วีเนียร์ทำมาจากท่อนซุง ทำให้ลวดลายและผิวสัมผัสคล้ายกับไม้จริง

ข้อเสีย: ยืดหดตัวเมื่อโดนความชื้น เช่นเดียวกันกับไม้จริง

5. ประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์

ภาพ: ประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์

“ทนความชื้นได้ดีมาก ยืดหยุ่นสูง”

ประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement ) ทำมาจากแผ่นซีเมนต์บอร์ดผสมกับเยื่อของต้นไม้และทรายซิลิกา โดยแผ่นซีเมนต์บอดร์ดมีคุณสมบัติกันความชื้น ทำให้ประตูไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ทนทานต่อความชื้น แต่ด้วยความหนาแน่นของแผ่นซีเมนต์ที่ต่ำทำให้ประตูแตกหักง่ายหากได้รับแรงกระแทกจำนวนมาก

 

ข้อดี: ยืดหยุ่น ทนทานความชื้นได้ดี ไม่ยืดหดตัวเมื่อได้รับความชื้น 

ข้อเสีย: ไม่ทนต่อแรงกระแทก แตกหักง่าย

6. ประตูพีวีซี (PVC)

ภาพ: ประตูห้องน้ำแบบ PVC

“เบา ทนความชื้นได้ดีเยี่ยม”

เป็นประตูที่ทำมาจากวัสดุสังเคราะห์อย่างพลาสติก โดยมีโครงสร้างภายในแตกต่างกันตามแต่ละผู้ผลิต แต่ส่วนใหญ่นิยมใช้เหล็กหรืออลูมิเนียมเป็นหลัก ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทำให้ประตูพีวีซีสามารถเคลื่อนย้ายติดตั้งได้ง่าย แต่ด้วยโครงสร้างที่กลวงจึงส่งผลให้เปราะบางและรับน้ำหนักได้น้อย

 

ข้อดี: มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อความชื้นได้ดี 

ข้อเสีย: แตกหักง่าย หากได้รับแดดในปริมาณที่มากจะทำให้ประตูกรอบ

7. ประตูยูพีวีซี (UPVC)

ภาพ: ประตูไม้ UPVC

“อีกขั้นของพีวีซี แข็งแรงยิ่งกว่าเดิม”

ประตูยูพีวีซีเป็นประตูที่พัฒนามาจากประตูพีวีซี แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบของโครงสร้าง โดยประตูยูพีวีซีใช้ไม้ WPC มาใช้เป็นโครงสร้างหลักทำให้เพิ่มความแข็งแรงได้มากกว่าประตูพีวีซี และยังทนต่อความชื้นและน้ำได้เป็นอย่างดี

 

ข้อดี: เก็บเสียง สามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอก ไม่เป็นวัสดุไวไฟ ทนต่อสภาพอากาศ กันน้ำและความชื้นได้ดี

ข้อเสีย: ไม่ทนต่อแรงกระแทกมากเท่าไรนัก

8. ประตูอลูมิเนียม

ภาพ: การใช้ประตูอลูมิเนียมเชื่อมต่อกับพื้นที่บริเวรณนอกบ้าน

“แข็งแรง ใช้ทำประตูกระจกได้”

ประตูอลูมิเนียมทำมาจากการขึ้นรูปโครงประตูด้วยอลูมิเนียม จากนั้นจึงนำกระจกมาติดบริเวณช่องว่างของโครงประตูกลายเพื่อประกอบเป็นประตู จากส่วนประกอบของประตูที่ทำจากกระจกทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองทะลุประตูเชื่อมเข้ากับส่วนต่าง ๆ ของภายในบ้านได้ เหมาะกับบ้านที่ต้องการความโปร่ง โล่งสบาย

 

ข้อดี: น้ำหนักเบา ทนทานต่อสภาพอากาศ ดูแลรักษาง่าย สามาถปรับเปลี่ยนประตูได้ตามโครงสร้างบ้าน

ข้อเสีย: ถ้าไม่ออกแบบให้ดีอาจจะไม่เข้ากับดีไซน์การตกแต่งบ้าน

ต่อไปตาม NocNoc ไปดูกันต่อว่า ประเภทของประตูบ้านจะมีอะไรให้เลือกบ้าง แบบไหนที่น่านำมาใช้กับบ้านเราบ้าง พร้อมแล้วไปดูกันได้เลย!

ประเภทของประตูบ้านมีแบบไหนให้เลือกบ้าง?

1. ประตูบานเปิด

ภาพ: ประตูบานเปิด

“ใช้ได้แทบทุกตำแหน่งของบ้าน ติดตั้งง่าย”

ประตูบานเปิดเป็นประตูที่มีลักษณะการเปิดเข้าหรือออกทางฝั่งเดียว โดยประตูบานเปิด เป็นประตูที่นิยมใช้ทั่วไปสามารถติดตั้งได้ในทุกเกือบตำแหน่งของบ้าน เพราะติดตั้งได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างของบ้านมากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้ประตูบานเปิดไม่เหมาะกับบ้านที่พื้นที่น้อย เพราะลักษณะการเปิดประตูที่ต้องใช้พื้นที่ด้านหน้าเยอะ ทำให้เสียพื้นที่ในการจัดวางหรือทำกิจกรรมอื่นภายในห้อง

2.ประตูบานเลื่อน

ภาพ: บ้านที่ใช้ประตูบานเลื่อนเพื่อเชื่อมพื้นภายนอก

“ประหยัดพื้นที่ได้ดีกว่าเดิม”

ลักษณะของประตูบานเลื่อน คือ การเลื่อนไปทางด้านข้าง ซึ่งจะติดตั้งรางสำหรับเลื่อนไว้ด้านบนหรือด้านล่างบานประตู โดยประตูบานเลื่อนเหมาะสำหรับบ้านหรือคอนโดที่ไม่มีพื้นที่มากนัก ยกตัวอย่างเช่น ห้องนอนในคอนโด หากใช้ประตูบานเปิดจะทำให้เสียพื้นที่จำนวนมาก เช่น พื้นที่การวางโต๊ะหรือพื้นที่ทางเดิน ดังนั้นการเลือกใช้ประตูบานเลื่อนจะทำให้มีพื้นที่เหลือมากพอสำหรับการใช้อย่างประเภทอื่น

3. ประตูบานสวิง

ภาพ: ประตูบานสวิง

“ผลักเข้าออกได้สะดวก”

คือประตูที่สามารถผลักเข้าออกได้ทั้งสองฝั่ง โดยลักษณะการเปิดเหมือนกับประตูบานเปิด สำหรับประตูบานสวิงเหมาะสำหรับห้องที่มีคนเข้าออกประจำ เช่น ห้องนั่งเล่นหรือประตูบาน เช่นเดียวกับประตูบานเปิด ประตูบานสวิงเป็นประตูที่ต้องใช้พื้นที่มากในการเปิด-ปิดประตู ดังนั้นประตูบานสวิงจึงไม่เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่น้อย

4.ประตูบานเฟี๊ยม

ภาพ: ประตูบานเฟี๊ยม

“ดีไซน์แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร”

เป็นประตูที่นำประตูบานเล็กมาต่อกันเป็นบานพับ โดยลักษณะการเปิดคือการทบไปที่ด้านใดด้านหนึง จุดเด่นของประตูบานเฟี๊ยมคือการขยายและเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างห้อง ทำให้ห้องนั้นกว้างมากขึ้น หรือถ้าหากบ้านไหนที่อยากเชื่อมพื้นที่แต่งบประมาณหรือพื้นที่มีอยู่จำกัดสามารถเลือกใช้ฉากกั้นห้องแทนการใช้ประตูบานเฟี๊ยมได้

เทคนิคการเลือกประตูบ้านให้เหมาะกับห้อง ควรดูที่อะไรบ้าง?

1.ตำแหน่งการใช้งาน ภายนอกหรือภายในบ้าน

ภาพ: การใช้ประตูบานเฟี๊ยมเชื่อมพื้นที่ระหว่างภายในกับภายนอกบ้าน

สำหรับการเลือกซื้อประตู ต้องสำรวจความต้องการก่อนว่าต้องการใช้ประตูบริเวณภายนอกหรือภายในบ้าน หลังจากทราบความต้องการแล้วจึงนำคุณสมบัติของประตูแต่ละประเภทมาเปรียบเทียบกัน ยกตัวอย่างเช่น

  • ถ้าหากเป็นประตูภายนอก ควรเลือกแบบที่ทนความชื้น ทนทานต่อแสงแดดและความแข็งแรง ดังนั้นไม่ควรเลือกใช้แบบที่ทนความชื้นได้น้อยอย่างประตูไม้จริง แต่ควรใช้ประตูที่ทนทานต่อสภาพอากาศอย่างประตู WPC
  • ส่วนประตูภายในบ้าน สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือความสวยงาม และความต้องการของคนในบ้าน เช่น หากต้องการประหยัดพื้นที่ ควรเลือกใช้ประตูบานเลื่อน หรือต้องการเปิดพื้นที่ในบ้านเชื่อมติดต่อกัน ประตูที่เหมาะกับการใช้งานลักษณะนี้คือ ประตูบานเฟี๊ยมเป็นต้น

2.เลือกจากประเภทของห้อง

  • ประตูหน้าบ้าน

ภาพ: ประตูบ้าน

สำหรับประตูบ้านในที่นี้คือประตูที่เชื่อมจากภายนอก เช่น โรงจอดรถ สวน เข้าสู่ภายในบ้าน สำหรับประตูบ้านถือว่าเป็นหน้าตาของบ้าน เวลาเลือกจึงควรคิดถึงความสวยงาม เข้ากับดีไซน์บ้านเป็นหลัก นอกจากเรื่องความสวยแล้ว การเลือกประตูบ้านควรคำนึงถึงตำแหน่ง เพราะประตูบ้านเป็นประตูที่ต้องรับกับสภาพอากาศทั้งแดดและฝนอยู่เสมอ หากบ้านไหนไม่ได้ติดตั้งระแนงไม้เพื่อลดแดด ก็ควรเลือกประตูที่ทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น ประตู WPC

  • ประตูห้องนั่งเล่น

ภาพ: ห้องนั่งเล่นที่ใช้ประตูบานเลื่อนแบบใส

ลักษณะประตูห้องนั่งเล่นสามารถปรับเลือกตามความต้องการของผู้อาศัย เช่น บ้านไหนที่ยังมีเด็กเล็กอยู่ ประตูห้องรับแขกก็ควรเป็นแบบบานเฟี๊ยมหรือประตูบานเลื่อนแบบใส เพื่อเปิดพื้นที่เชื่อมทำให้ผู้ปกครองสามารถสอดส่องดูแลเด็กได้ หรือบ้านไหนที่มีแขกผู้ใหญ่มาเยี่ยมบ่อยครั้ง ประตูสำหรับห้องนั่งก็ควรเป็นประตูแบบปิด เพื่อสร้างบรรยากาศความเป็นส่วนตัว เป็นต้น

  • ประตูห้องน้ำ

ภาพ: ประตูห้องน้ำ

การเลือกประตูห้องน้ำควรนึกถึงการใช้งานเป็นหลักมากกว่าความสวยงาม เนื่องจากห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่ต้องถูกความชื้นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ประตูนั้นเสื่อมสภาพได้ง่าย จึงควรเลือกประตูที่เหมาะกับห้องน้ำเช่น ประตู UPVC หรือประตู PVC เนื่องจากประตูเหล่านี้มีคุณสมบัติกันความชื้นได้ดี ทำให้ลดปัญหาการซ่อมแซมประตูห้องน้ำ

  • ประตูห้องนอน

ภาพ: ห้องนอนที่ใช้ประตูไม้

สำหรับประตูห้องนอน ควรเลือกประตูที่มีอายุการใช้งานในระยะยาว มีความแข็งแรง ทนทาน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้นอน

  •  ประตูไม้จริง หรือประตู WPC จะมีความสวยงามและแข็งแรง แต่ไม่ทนต่อความชื้น 
  •  ประตู WPC แม้จะแข็งแรงไม่เท่าไม้จริง แต่ทนทานต่อความชื้น ไม่ยืดหดตัว เหมาะกับการใช้งานระยะยาว

3.เลือกจากวัตถุประสงค์การใช้งาน

  • เลือกจากความสวยงาม

ภาพ: ประตูบานเลื่อนสไตล์ญี่ปุ่น

สำหรับใครที่อยากได้ประตูที่เน้นความสวยงาม ควรเลือกประตูไม้จริง เนื่องจากมีลวดลายที่เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร แต่ด้วยไม้จริงมีราคาที่สูง การเลือกใช้ประตูไม้ WPC ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่นอกจากลายไม้แล้ว รูปทรงของประตูก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น การเลือกใช้ประตูบานเลื่อนสไตล์ญี่ปุ่น ก็เป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามได้เช่นเดียวกัน

  • เลือกจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ

ภาพ: ประตูบานเลื่อนช่วยเพิ่มพื้นที่ในห้องนอนขนาดเล็ก

อีกหนึ่งปัจจัยที่จะนำมาใช้เลือกประตูบ้าน คือ พื้นที่และสภาพแวดล้อม เพราะจะต้องดูพื้นที่ที่จะติดตั้ง หากเป็นห้องขนาดเล็กพื้นที่ไม่เยอะพอ ประตูบานเปิดก็อาจจะทำให้ห้องแคบลง ควรจะใช้เป็นบานเลื่อนดีกว่า และต้องดูด้วยว่ารอบ ๆ จุดที่จะติดตั้งประตูนั้น มีอะไรที่จะมาสร้างความเสียหายได้หรือเปล่า เช่น ความร้อนจากแสงแดด ความชื้นจากห้องน้ำ จะได้เลือกวัสดุทำประตูได้เหมาะสมที่สุด ป้องกันความเสียหายที่ต้องคอยซ่อม หรือเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ

  • เลือกจากความปลอดภัย

ภาพ: ประตูบ้านที่ใช้ประตูที่ทำจากไม้จริง

ความปลอดภัย คือ หนึ่งในหน้าที่ของประตูบ้าน โดยการเลือกประตูจากความปลอดภัยนั้น ขั้นแรกควรพิจารณาจากความหนาแน่นและความแข็งแรงของประตู โดยประตูที่มีความแข็งแรง เช่น ประตูไม้จริง ประตูไม้ WPC และประตูไม้เอนจิเนียร์ นอกจากความแข็งแรงแล้ว ความปลอดภัยสามารถเพิ่มได้จากการติดตั้งกลอนประตูแบบดิจิตอล โดยการตั้งรหัสผ่าน ทำให้คนที่เข้าห้องได้มีเฉพาะคนที่รู้รหัสผ่านเท่านั้น

สำหรับใครที่กำลังมองหาประตูบ้านสวย ๆ มาใช้ที่บ้าน วันนี้ NocNoc มีแบบประตูมาให้เลือกกันแบบจุใจถึง 10 แบบ จะมีแบรนด์ไหนสไตล์ไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันต่อได้เลย!

10 แบบประตูสวย ๆ อยากแต่งบ้านแนวไหน ก็เลือกได้ตามใจ!

1. ประตูไม้จริง สวยเนียนเป็นธรรมชาติ ต้อง V&S WOOD INTERTRADE

ใครมองหาประตูบ้านสวย ๆ ลายไม้เหมือนไม้จากธรรมชาติ ลองมาดู V&S WOOD INTERTRADE ประตูไม้อัดยางภายนอก เกรด AAA ที่ผ่านการอบ เพื่อให้ยืด หด ขยายตัวน้อยลง สีสม่ำเสมอทั้งบาน ผลิตมาให้หนาพอจะใส่ลูกบิดได้ทุกชนิดเข้ากับวงกบประตูไม้ได้อย่างลงตัว ยิ่งถ้าแมทช์กับพื้นไม้ด้วยแล้วยิ่งเข้ากันได้ดีแบบสุด ๆ

 

ราคา 880 บาท*

2. ประตูสีขาว โมเดิร์น ไม่น่าเบื่อ ต้อง PROUD รุ่น YG

ประตูสีขาวถือเป็นแบบประตูบ้านสวย ๆ สุดเบสิก ที่เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์นได้ดีมาก ใครที่กำลังมองหาอยู่ ลองมาดู PROUD รุ่น YG ประตู UPVC สำหรับใช้ภายใน บุด้วยโฟมโพลิสสไตรีนขึ้นรูป ช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอก ดีไซน์เรียบง่าย ยิ่งถ้าแมทช์กับลูกบิดสไตล์โมเดิร์นด้วยแล้ว มิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างลงตัว

 

ราคา 1,852 บาท*

3. ดีไซน์โมเดิร์นแบบเรียบง่าย ต้อง City idyl รุ่น MAX

อีกหนึ่งดีไซน์ง่าย ๆ ของประตูสีขาว คือ ลายเซาะร่องสี่เหลี่ยมเรียบ ๆ ที่ช่วยให้ประตูบ้านน่าสนใจขึ้นได้เป็นเท่าตัว สำหรับใครที่กำลังหาประตูแบบนี้อยู่ ลองมาดู City idyl รุ่น MAX ผลิตจาก WPC แท้ ขึ้นบานเป็นชิ้นเดียว ไม่มีรอยต่อ ไม่มีช่องให้น้ำซึมเข้าไปได้ หนาถึง 38 มม. แถมยังพ่นสีเพิ่มเติมหรือติดลามิเนตก็ได้เหมือนกัน

 

ราคา 3,600.5 บาท*

4. ลายสวยเนียน ทนน้ำ ทนปลวกต้อง LEOWOOD รุ่น UDoor สี Tango

ใครกำลังมองหาประตูบ้านสวย ๆ สไตล์มินิมอลใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน ลองให้ LEOWOOD รุ่น UDoor เป็นทางเลือก เพราะเป็นประตู uPVC พื้นผิวเรียบเนียน โครงสร้างแข็งแรงแบบบานตัน มาพร้อมสี Tango ที่ดูเหมือนสีน้ำตาลอ่อนแบบไม้โอ๊ค เหมาะกับบ้านสไตล์มินิมอลแบบสุด ๆ จะใช้ห้องไหนก็เลือกได้

 

ราคา 2,890 บาท*

5. ฟีลโมเดิร์นลอฟต์แม้อยู่ในห้องน้ำ ต้อง LEOWOOD รุ่น UDoor สี Cinereo Oak

หาประตูบ้านสวย ๆ มาตกแต่งห้องน้ำ ลองมาดู LEOWOOD รุ่น UDoor สี Cinereo Oak ประตู uPVC ที่เหมาะจะใช้กับห้องน้ำสุด ๆ เพราะทนน้ำ ทนความชื้นได้ดี หน้าบานเป็น uPVC หนา 2 มม. แข็งแรงทนทาน ตอบโจทย์การใช้งานในห้องน้ำ แถมยังดีไซน์แปลกใหม่ เซาะร่องโค้งมน พร้อมโทนสีน้ำตาลเข้ม ตอบโจทย์สายโมเดิร์นลอฟต์ได้แบบลงตัว

 

ราคา 3,390 บาท*

6. บานเฟี้ยมเก๋ ๆ เปลี่ยนบ้านให้เป็นสัดส่วนด้วย ศิริรัฐ ประตูบานเฟี้ยม

ประตูกั้นห้องแบบเก๋ ๆ เน้นความโล่งโปร่งสบายตา ลองเลือก ศิริรัฐ ประตูบานเฟี้ยมที่เหมาะจะใช้กั้นห้อง ผลิตจากไม้สะเดาอบแห้ง พับเก็บง่ายถ้าต้องการปรับห้องให้ดูโล่งกว้าง มีพื้นที่ให้ใช้งานมากยิ่งขึ้น หรือจะกั้นให้เป็นสัดส่วนก็สบายตา ไม่ทึบจนเกินไป ตอบโจทย์คนชอบปรับเปลี่ยนมุมต่าง ๆ ของบ้านได้เป็นอย่างดี

 

ราคา 2,100 บาท*

7. บานโค้งสุดมินิมอลไม่เหมือนใครต้อง ศิริรัฐ ประตูบานโค้งโมเดิร์น

ประตูนอกบ้านขอฟีลมินิมอลเหมือนหลุดออกมาจากซีรีส์ ลองเลือกประตูบานโค้งโมเดิร์นกระจกผสมทึบจากแบรนด์ศิริรัฐ ที่ผลิตจากไม้สะเดาอบแห้ง ทำให้ได้ลวดลายไม้ธรรมชาติ ออกแบบมาให้เป็นแนวตั้งโค้งมน หน้าบานแข็งแรง เหมาะสำหรับการใช้งานภายนอกแบบสุด ๆ

 

ราคา 7,700 บาท*

8. เรียบหรูได้ฟีลยุโรป ต้อง City idy รุ่น HER's2 PLASTWOOD

มองหาประตูทนแดด ทนฝน มาเป็นประตูสวย ๆ หน้าบ้านสักบาน ลองมาดู City idy รุ่น HER’s2 PLASTWOOD ผลิตจากไม้สังเคราะห์พลาสวูด (Plastwood) มาพร้อมดีไซน์สไตล์ยุโรป เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์นสุดหรูหราได้เป็นอย่างดี แถมยังมาพร้อมสี Green Shadow ที่เรียกได้ว่าเรียบหรูแบบลงตัว

 

ราคา 6,831 บาท*

9. ดีไซน์เป๊ะ กันเสียงได้ดี ต้อง City idyl รุ่น H1 FLOATING FOG

ใครที่อยากได้ประตูหน้าบ้านสวย ๆ กันเสียงจากภายนอกได้ดี ลองมาดู City idyl รุ่น H1 FLOATING FOG ประตูพลาสวูดหนา 38 มม. กรุฉนวนโฟมเต็มบานป้องกันเสียงรบกวนเข้ามาในบ้าน แถมยังกันเสียงสะท้อนได้ดีด้วย ทำให้บ้านสงบเหมาะกับการพักผ่อนมากขึ้น ส่วนเรื่องดีไซน์ไม่ต้องห่วงเป็นประตูบานใหญ่พร้อมสีเขียว Woodland Spring ที่เรียบง่าย สบายตา เหมาะกับใช้ที่บ้านได้เป็นอย่างดี

ราคา 6,831 บาท*

10. อลูมิเนียมทนทาน ไม่เหมือนใคร ต้อง Phoenix Reseach Asia รุ่น EXHIDO

สำหรับครอบครัวที่อยากเน้นเรื่องความแข็งแรง ทนทานเป็นหลัก ลองเลือก Phoenix Reseach Asia ประตูอลูมิเนียม EXHIDO ที่ออกแบบมาสำหรับป้องกันแมลงเข้าบ้าน ผลิตจากอลูมิเนียมมาตรฐานสากล จึงใช้งานได้ยาวนาน ไม่กลัวเรื่องสนิมหรือความเสียหาย ดีไซน์เรียบง่ายแฝงด้วยความหรูหรา ผสมผสานให้เข้ากับบ้านได้อย่างลงตัว

 

ราคา 92,000 บาท*

ประตูบ้านหรือส่วนไหนของบ้าน ก็เลือกได้ครบจบที่ NocNoc

ก่อนการเลือกประตูบ้านควรศึกษาถึงวัสดุและลักษณะของประตู เพื่อนำไปติดตั้งให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะประตูแต่ละประเภทมีจุดเด่นและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกัน ควรเลือกใช้ให้เหมาะสม จะได้ไม่ต้องคอยปวดหัวซ่อมกันบ่อย ๆ สำหรับใครที่กำลังสนใจตกแต่งบ้านใหม่ คลิกเข้ามาได้เลยที่ NocNoc เพราะเราได้รวบรวมไอเดียและของตกแต่งบ้านคุณภาพดี มีให้เลือกหลากหลาย ถ้าอยากจะรีโนเวทบ้านก็สบาย เพราะทีมช่างที่มีประสบการณ์ พร้อมให้เปลี่ยนบ้านให้เป็นบ้านในฝัน เรื่องบ้านเลือกจนกว่าจะชอบ

 

  • สินค้าเรื่องบ้านให้เลือกเยอะกว่า 700,000 รายการ จากหลากหลายร้านค้าชั้นนำ
  • มี AI ช่วยเลือกสินค้าตามสไตล์ที่ทุกคนชื่นชอบ
  • ช้อปง่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดส่งทั่วไทย
  • บริการงานช่างครบวงจร ไว้ใจได้ ทั้งบริการทำความสะอาด ซ่อมบำรุง ติดตั้ง และตกแต่ง

และสำหรับใครที่อยากปรับปรุงบ้านหรือสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง มองหาที่ปรึกษาเรื่องบ้านและธุรกิจแบบครบวงจร ลองให้ NocNoc Home Solution เป็นตัวช่วย เพราะเรามีบริการครบจบในที่เดียว ทั้งเรื่องสินค้าและช่างผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้าน  ให้เรื่องการทำบ้านกลายเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็น

 

  • ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางพร้อมตอบทุกคำถาม พร้อมแนะนำสินค้าและบริการ
  • ผู้ช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์และของแต่บ้านที่ตรงใจ สำหรับทุกไลฟ์สไตล์
  • ตามหาแบบที่ใช่ด้วยบริการออกแบบ 3D โดย NocNoc Designer
  • ศูนย์รวมช่างที่มีประสบการณ์ ควบคุมคุณภาพโดย NocNoc
  • รับประกันงานนานสูงสุด 12 เดือน*

 

สามารถติดต่อเพื่อใช้บริการงานทุกเรื่องบ้าน และบริการงานช่างได้ที่ Line@  https://lin.ee/uJ0trEO

เรื่องบ้าน…เลือกจนกว่าจะชอบ NocNoc

*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

ติดตามโปรโมชั่นเด็ดและสาระดี ๆ เรื่องบ้านได้ที่

💚LINE: lin.ee/27iSjiz

💙Facebook : facebook.com/nocnocth

🖤TikTok: tiktok.com/@nocnocth

💜Instagram: instagram.com/nocnocth/

💙Twitter: twitter.com/NocNocTH

❤️Youtube: youtube.com/nocnocth

NocNoc Writer

บทความที่เกี่ยวข้อง