• Tips&Tricks

มัดรวม 5 ปัญหาเรื่องที่นอน รู้ไว รีบแก้ไข ห่างไกลโรค

  • โดย NocNoc Writer

  • 13

ปัญหาใกล้ตัว ที่หลาย ๆ บ้าน ไม่เคยสังเกต หรือบางครั้งมองข้ามไปอย่างปัญหาบน ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่สัมผัสกับร่างกายของของสมาชิกในครอบครัวโดยตรง แม้ว่าจะให้ความสบายในการพักผ่อนหลังจากเหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน แต่รู้หรือไม่ว่า เจ้าที่นอน ก็เป็นตัวสร้างปัญหา โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะไรฝุ่นที่นอน ให้กับคนในครอบครัวได้มากเช่นกัน แต่จะมีปัญหาอะไรบ้างนั้น NocNoc.com ได้มัดรวมทุกปัญหาเรื่องที่นอน และวิธีแก้ไข พร้อม 5 รุ่นที่นอน นอนสบายมาฝากทุกบ้านกัน 

มัดรวม 5 ปัญหาเรื่องที่นอน รู้ไว้ แก้ไขตามได้ง่าย ๆ

1.ปัญหาไรฝุ่นที่นอนสะสม

ภาพ: ตัวไรฝุ่น บนที่นอน

ไรฝุ่นที่นอน คือ ปัญหาอันดับต้น ๆ ที่อยู่คู่กับที่นอน หมอน ผ้าปูที่นอน และผ้าห่มมาโดยตลอด แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะไรฝุ่น คือ แมง ชนิดหนึ่ง ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ชอบอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีความอับชื้น และบนที่นอน เพราะมีเส้นใยเป็นปริมาณมาก 

อุจจาระของมันมีฤทธิ์เป็นสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เมื่อร่างกายสูดดมเข้าไป โดยเฉพาะกับผู้ที่แพ้ง่าย โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจอย่างโรคภูมิแพ้ ได้ทันที

วิธีการกำจัดไรฝุ่น และตัวไรฝุ่น

วิธีการกำจัดไรฝุ่น และตัวไรฝุ่น ที่ทุกบ้านสามารถทำเองได้ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ การหมั่นซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม อย่างสม่ำเสมอ แล้วนำไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค และเชื้อแบคทีเรีย หรือหากต้องการความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่มากขึ้น อาจเลือกใช้เครื่องดูดไรฝุ่น หรือ กำจัดไรฝุ่น เพื่อลด ไรฝุ่นบนที่นอน ให้น้อยลงได้ 

2. ปัญหาปวดเมื่อยระหว่างการนอน

ภาพ: ปัญหาปวดเมื่อยระหว่างการนอน

อาการปวดเมื่อยระหว่างการนอน โดยเฉพาะบริเวณหลัง และเอว เป็นปัญหาอันดับสองรองจากไรฝุ่นบนที่นอน ที่อาจเกิดจากที่นอนที่ใช้งานอยู่ไม่รองรับสรีระ แข็ง หรือนุ่มจนเกินไป หรือบางครั้งหากใช้ที่นอนมาเป็นระยะเวลานาน ที่นอนอาจเกิดการยุบ หรือเป็นแอ่งได้

วิธีลดอาการปวดเมื่อย

วิธีการจัดการคือ ลองสลับกลับด้านที่นอน เพื่อป้องกันการยุบตัว แต่ถ้าหากลองสลับดูแล้วแต่ยังรู้สึกนอนไม่สบายตัว และมีอาการปวดเมื่อยระหว่างนอนอยู่บ้าง แนะนำให้ลองหาตัวช่วยเสริม อย่าง ท็อปเปอร์ มาวางปู ก็จะช่วยคลายอาการปวดเมื่อยได้เช่นกัน

3. ปัญหาคราบเลอะสกปรกบนที่นอน

ภาพ: คราบเลอะสกปรกบนที่นอน

คราบเลอะสกปรกบนที่นอน บางครั้งเกิดขึ้นได้โดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่สามารถควบคุมได้โดยเฉพาะกับผู้หญิง หรือบ้านที่มีเด็กเล็ก มักพบปัญหาคราบประจำเดือน หรือคราบปัสสาวะของเด็ก ๆ เลอะบนที่นอน วิธีจัดการเบื้องต้นคือ การซับด้วยผ้าเปียก ห้ามถู เพราะจะทำให้คราบเลอะกระจายวงกว้างขึ้น แต่การซับด้วยผ้าจะใช้ได้ในกรณีที่เพิ่งเลอะบนที่นอนไม่นานเท่านั้น

ภาพ: เช็ดซับทำความสะอาดคราบเลอะบนที่นอน

วิธีทำความสะอาดคราบเละบนที่นอน

  1. ใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำ แล้วใช้แปรงขัดบริเวณที่มีคราบเลอะเบา ๆ แล้วซับด้วยผ้าชุบน้ำ และผ้าแห้ง ก็จะช่วยลดรอยคราบเลอะบนที่นอนได้ หลังจากนั้นควรรอให้ที่นอนแห้งสนิทแล้วถึงใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราบนที่นอน 
  2. ใช้เบกกิ้งโซดาที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้า ผสมกับน้ำเย็น แล้วนำผ้ามาชุบในน้ำที่ผสมไว้ แล้วนำไปวางซับบริเวณคราบเลอะทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเย็นมาซับอีกรอบเพื่อทำความสะอาดคราบ แล้วปล่อยให้แห้ง หรือหาผ้าแห้งมาซับบริเวณที่เปียกอีกครั้ง
  3. วัตถุดิบในครัวอย่าง เกลือ และน้ำมะนาว ก็ช่วยขจัดคราบได้ดีเช่นกัน เพียงผสมน้ำมะนาว และเกลือในสัดส่วน 1:1 แล้วป้ายลงบนคราบเลอะบนที่นอน พร้อมเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาซับออก รอให้แห้งหรือหาผ้าแห้งมาซับ ก็จะช่วยให้คราบเลอะจางลง โดยวิธีธรรมชาติ

4. ปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ ชวนปวดหัว

ภาพ: ที่นอนมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

เมื่อใช้ที่นอนไปได้สักระยะหนึ่ง หากไม่ได้ดูแลรักษาและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ นอกจากไรฝุ่นที่นอน คราบเลอะแล้ว ปัญหาที่จะตามมาด้วย คือ เรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์บนที่นอน ที่เกิดขึ้นจากเหงื่อ เชื้อราบนที่นอน และสภาพแวดล้อมภายในห้อง 

ภาพ: เปิดหน้าต่างเพื่อระบายกลิ่นอับ

วิธีกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

วิธีการจัดการที่ง่ายและดีที่สุด คือ การหมั่นนำเตียงนอนไปตากแดด หรือคอยเปิดหน้าต่างห้องนอนเพื่อช่วยระบายกลิ่นอับภายในห้อง แล้วอย่าลืมหาตัวช่วยอย่างเครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ มาวางตั้งเพื่อช่วยลดความชื้น และกลิ่นอับบนที่นอน และภายในห้องให้หมดไป

5. ปัญหาเชื้อราบนที่นอน

ภาพ: เชื้อราบนที่นอน

เชื้อราบนที่นอน หรือรอยจุดด่างดำที่เกิดขึ้นบนที่นอน เมื่อสังเกตเห็นต้องรีบจำกัดโดยทันที เพราะอาจส่งผลเรื้อรัง และที่นอนเกิดความเสียหายได้ 

ภาพ: ทำความสะอาดเชื้อราบนที่นอน 

วิธีกำจัดเชื้อราบนที่นอน

วิธีจัดการเบื้องต้น ส่วนใหญ่แล้วหลาย ๆ บ้านมักจะนำที่นอนออกไปตากแดดเพื่อกำจัด เชื้อราบนที่นอน แต่ก่อนนำไปตากแดดแนะนำให้ หาน้ำยาฆ่าเชื้อมาฉีดให้ทั่วที่นอน หรือใช้ผ้า ฟองน้ำชุบบนแอลกอฮอลล์ ที่ผสมกับน้ำอุ่น เช็ดซับบริเวณที่เกิดเชื้อรา  เพื่อป้องกันไม่ให้ เชื้อราบนที่นอน เกิดขึ้นซ้ำได้อีก

ปัญหาเรื่องที่นอนแท้จริงแล้วเป็นปัญหาที่สามารถป้องกัน และแก้ไขได้ด้วยตนเองไม่ยาก แต่เบื้องต้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ การเลือกที่นอนนอนสบาย เพื่อช่วยให้การพักผ่อนในแต่ละวันมีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพที่จะตามมาภายหลัง ซึ่งจะมีที่นอนนอนสบาย รุ่นไหนที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูกัน

5 ที่นอน นอนหลับสบาย มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยลดไรฝุ่นบนที่นอน

1. ที่นอน Slumberland รุ่น Oscars แถมชุดเครื่องนอน 11ชิ้น 5' สีน้ำตาล

เพื่อการพักผ่อนที่สบายตลอดทั้งคืน ที่นอน Slumberland รุ่น Oscars คือ หนึ่งในทางเลือกใหม่ของทุกคนในครอบครัว เพราะนอกจากจะช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพแล้ว ตัวที่นอนยังเคลือบสารกัน ไรฝุ่นที่นอน เชื้อแบคทีเรีย เชื้อราบนที่นอน  และที่สำคัญคือระบายอากาศได้ดี จึงช่วยลดความกังวลเรื่องกลิ่นอับ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ไปได้

ตัวเตียงเป็น Pocketed Barrel Spring (สปริงแบบนุ่ม) จึงให้ความรู้สึกนุ่มเด้ง ยืดหยุ่นสูง รองรับน้ำหนักได้ดี ช่วยให้การนอนนุ่มสบายมากยิ่งขึ้น

2. ที่นอนสปริง Slumberland Presia พร้อมเตียง Enliven ขนาด 6 ฟุต ความหนา 11 นิ้ว สีขาว

ที่นอนสปริง Slumberland Presia  รุ่นนี้ เป็นอีกหนึ่งรุ่นเตียงนอนที่ได้รับความนิยม เพราะนอกจากตัวที่นอนจะเคลือบกันไรฝุ่นที่นอน เชื้อราบนที่นอน และเชื้อแบคทีเรียแล้ว ตัวที่นอนยังมีความนุ่มและแน่น กระจายน้ำหนักได้ดี เมื่อนอนจึงรู้สึกถึงความสบายไม่ว่าจะนอนในท่าไหนก็ตาม

3. ที่นอนพ็อกเก็ตสปริง SleepHappy รุ่น MOCHA

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่นอนเพื่อสุขภาพ เพราะประสบปัญหาอาการปวดเมื่อยระหว่างการนอน ที่นอนพ็อกเก็ตสปริง SleepHappy รุ่น MOCHA ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว เพราะด้วยระบบระบบพ็อกเก็ตสปริง ที่มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับแรงกดทับและน้ำหนักที่แตกต่างของสรีระร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลังจึงช่วยลดอาการปวดเมื่อยบริเวณหลังในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

และนอกจากปัญหาปวดเมื่อยแล้ว ที่นอนรุ่นนี้ยังช่วยลดความกังวลเรื่องปัญหาสุขภาพด้านระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคภูมิไปได้อีกด้วย เพราะตัวที่นอน เคลือบด้วย Anti-Mite ช่วยป้องกัน ไรฝุ่นบนที่นอน เชื้อราบนที่นอน และเชื้อแบคทีเรีย

4. ที่นอน Lotus รุ่น Precise ที่นอนกันไรฝุ่นหนา 9 นิ้ว ขนาด 6 ฟุต สีขาว

คุณสมบัติพิเศษของที่นอน Lotus รุ่น Precise ที่ทำให้กลายเป็นที่นอนที่ได้รับความนิยม คือ เป็นที่นอนกันไรฝุ่น ตัวที่นอนมีสารช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของ ไรฝุ่นที่นอน อย่างถาวร เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพอย่างโรคภูมิแพ้

ตัวที่นอนมีความแน่นสบาย แต่นุ่มนวลในทุกการเคลื่อนไหว เพราะ มีระบบ Hybrid Spring เสริมด้วยโฟม HD Comfort จึงช่วยสร้างความสมดุล และความลงตัว เมื่อนอนพักผ่อน 

5. ที่นอน Slumberland StarryNite รุ่น Nebula 5 ฟุต

ที่นอน Starrynite รุ่น Nebula โดดเด่นในเรื่องดีไซน์ ที่เน้นคอนเซปต์ นอนสบายทุกสัมผัสเหมือนนอนในอวกาศ ด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำทะเลา ในราคาที่คุ้มค่า 

ตัวที่นอนมีความยืดหยุ่นช่วยรองรับทุกสรีระ และทุกไลฟ์สไตล์ในการนอน ผ่อนคลายทุกจุดที่กดทับ และหมดกังวลเรื่องปัญหาไรฝุ่นที่นอน เพราะที่นอนเคลือบด้วยสารจากธรรมชาติ Aniti – Dust Mite ปกป้อง ตัวไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ตามธรรมชาติ

ไม่เพียงแต่การเลือกที่นอนที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับสรีระ และไลฟ์สไตล์การนอนของแต่ละคนเท่านั้นที่ควรให้ความสำคัญ เรื่องการดูแลรักษาเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องที่นอน และยืดอายุการใช้งานของที่นอนให้ยาวนาน ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องใส่ใจ และให้ควาสำคัญไม่แพ้กัน

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องที่นอน และ ที่นอนคุณภาพดี เพื่อช่วยให้การพักผ่อนมีประสิทธิภาพ หมดปัญหาสุขภาพ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม และ บริการเรื่องบ้าน จาก ช่างผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ NocNoc.com ผู้ช่วยเติมเต็มให้การตกแต่งบ้านเป็นเรื่องง่าย ครบ จบ ในที่เดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง