• Tips&Tricks

วิธีปูกระเบื้องด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ พื้นบ้านสวยปัง ไม่ต้องง้อช่าง

  • โดย NocNoc Writer

  • 597

NocNoc สรุปให้

  • วิธีปูกระเบื้องที่ช่างนิยมเอามาใช้นั้นมีหลายแบบด้วยกัน ทั้งวิธีการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา, วิธีปูกระเบื้องแบบเปียก และวิธีการปูกระเบื้องแบบใช้กาวซีเมนต์ โดยแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป
  • การปูกระเบื้องด้วยตัวเองจะต้องทำตามขั้นตอนดังนี้ เคลียร์พื้นผิวให้สะอาดและเรียบเนียน, ทำความสะอาดแผ่นกระเบื้อง, ผสมปูนกาวซีเมนต์, ทากาวซีเมนต์ลงบนพื้นผิวและกระเบื้อง ตามด้วยการวางกระเบื้องลงบนพื้นผิวให้สวยงาม

อยากจะได้วิธีปูกระเบื้องดี ๆ สักวิธีที่จะมาช่วยให้พื้นบ้านของเราสวยปังเหมือนข้างบ้านเขาบ้าง เพราะตอนนี้พื้นกระเบื้องที่บ้านคือไม่ไหวแล้ว นอกจากลวดลายจะเอ้าท์แล้ว ยังมีรอยแตกร้าวเต็มไปหมด ไหนจะร่องยาแนวที่แทบจะไม่มียาแนวหลงเหลืออยู่แล้ว วันนี้ NocNoc เลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธีการปูกระเบื้องแบบปัง ๆ จึ้ง ๆ ที่ทั้งง่ายและอึดถึกทน ช่วยให้พื้นกระเบื้องใหม่นี้อยู่กับบ้านเราไปนานแสนนาน

วิธีปูกระเบื้องที่ช่างนิยมใช้ มีทั้งหมดกี่แบบ?

ภาพ: การปูกระเบื้อง

“ ใช้วิธีปูกระเบื้องดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ”

หลายคนที่เคยเจอปัญหาพื้นกระเบื้องแตกง่าย เวลาเคาะแล้วมีเสียงดังแบบก้อง ๆ แปลก ๆ ยังไงไม่รู้ชอบกล เลยอาจจะเกิดข้อสงสัยว่าทำไมพื้นกระเบื้องบ้านเรามันไม่แข็งแรงเหมือนบ้านคนอื่นเขาเลย และที่มันไม่ดีแบบนี้ มันอยู่ที่คุณภาพของกระเบื้องหรือวิธีการปูกระเบื้องกันแน่

เพื่อให้คลายสงสัยเราเลยรวบรวมวิธีปูกระเบื้องที่ช่างทั่วไปชอบใช้มาให้ทุกคนดูกัน เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นความแตกต่างว่าทำไมพื้นกระเบื้องบ้านเราเจ๊งง่ายมาก ๆ ในขณะที่พื้นเพื่อนบ้านยังคงสวยทนสวยนานแบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น

1. วิธีปูกระเบื้องแบบซาลาเปา

ภาพ: การปูกระเบื้องแบบซาลาเปา

“ เน้นเร็วเน้นไว ไม่เน้นคุณภาพ ”

วิธีสุดฮิตของช่างมักง่ายที่ไม่นึกถึงผลกระทบในระยะยาวที่อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้าของบ้าน แต่ต้องการแค่ทำให้งานจบได้ไวที่สุดและเหนื่อยน้อยที่สุด โดยช่างจะเอาปูนซีเมนต์ที่ผสมน้ำเรียบร้อยแล้ว มาแปะเป็นก้อนกลม ๆ เหมือนซาลาเปาบนหลังกระเบื้อง แล้วเอาไปแปะตามพื้นหรือกำแพง แล้วค่อยใช้ค้อนยางเคาะไปที่กระเบื้อง เพื่อให้ปูนซีเมนต์กระจายตัวออก

ข้อดี: ถือเป็นวิธีการปูกระเบื้องที่ง่ายดาย สะดวก และรวดเร็ว สำหรับช่าง ใช้เวลาปูไม่นานเท่าวิธีปูกระเบื้องแบบอื่น ๆ

ข้อเสีย: ปูนซีเมนต์ไม่สม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น และทำให้เกิดช่องว่างเป็นโพรงด้านหลังแผ่นกระเบื้อง ซึ่งอาจจะทำให้น้ำหรือความชื้นเข้าไปสะสม ทำให้กระเบื้องหลุดล่อนเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แถมยังเกิดรอยร้าวที่มุมกระเบื้องได้ง่าย เพราะไม่มีเนื้อปูนรองรับอยู่นั่นเอง

2. วิธีการปูกระเบื้องแบบเปียก

ภาพ: การปูกระเบื้องแบบเปียก

“ ไม่ต้องเสียเวลารอให้ปูนปรับระดับแห้ง ”

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เจอได้บ่อย ซึ่งเป็นวิธีที่ช่างหลาย ๆ ที่ชอบใช้ เพราะเอาเร็วเข้าว่าคล้าย ๆ กับวิธีแรก นั้นคือการปูกระเบื้องไปพร้อม ๆ กับการปรับระดับพื้นผิวของห้องนั้น ๆ โดยช่างจะผสมปูนซีเมนต์ ทราย และน้ำ เข้าด้วยกัน จากนั้นจะเอาไปเทที่พื้นเพื่อปรับระดับความสูงของพื้นตามที่ต้องการ และตามด้วยการวางกระเบื้องลงไปทันที โดยไม่รอให้ปูนที่เทไปแห้งเสียก่อน 

ข้อดี: เป็นการปูกระเบื้องที่สะดวกรวดเร็ว เพราะช่างไม่ต้องรอเวลาให้ปูนปรับระดับที่เทไปแห้ง แถมยังไม่ต้องมาคอยปูกระเบื้องทับซ้ำอีกรอบด้วย

ข้อเสีย: พื้นกระเบื้องหลุดและล่อนออกได้ง่าย เพราะเมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ เข้า ปูนทรายที่เทปรับระดับไว้อาจจะเกิดการยุบหรือขยายตัวได้ หรือหากอุณหภูมิเกิดเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ก็อาจจะทำให้กระเบื้องระเบิดได้นั่นเอง

ซึ่งถ้าเจ้าของบ้านคนไหนไม่มีความรู้ ไม่ได้อยู่คอยเช็กและดูแลตอนช่างกำลังทำงาน หรือไม่ได้จ้างช่างมาตรวจรับงานหลังปูเสร็จ ก็อาจจะเสียรู้และเสี่ยงที่จะถูกหลอกได้ หากช่างเลือกวิธีการปูกระเบื้องแบบ 2 วิธีด้านบนนี้

3. วิธีปูกระเบื้องแบบใช้กาวซีเมนต์ เป็นวิธีการปูกระเบื้องที่แนะนำที่สุด

ภาพ: การปูกระเบื้องแบบใช้กาวซีเมนต์

“ กระเบื้องติดแน่นทนนานสุด ๆ ”

บ้านไหนที่พื้นกระเบื้องสวยทนสวยนานก็มักจะใช้วิธีนี้ด้วยกันทั้งนั้น เพราะถือเป็นวิธีปูกระเบื้องที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง โดยช่างจะเลือกใช้กาวซีเมนต์แทนปูนซีเมนต์ทั่วไป และเมื่อช่างปูพื้นปรับระดับจนแห้งเรียบร้อยแล้ว ก็จะเริ่มผสมกาวซีเมนต์เข้ากับน้ำ และรอให้ปฏิกิริยาเคมีทำงาน จากนั้นจึงเอาไปปาดลงพื้นและหลังกระเบื้องให้ทั่ว แล้วค่อย ๆ วางกระเบื้องลงไปในจุดที่ต้องการ

ข้อดี: การเตรียมและผสมกาวซีเมนต์ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก แถมยังมีค่าการยึดเกาะสูง ติดแน่นทนนาน ไม่หลุดล่อนง่าย ๆ ไร้ปัญหาปูนยุบตัว และสามารถปูทับได้หลากหลายพื้นผิว ทั้งพื้นซีเมนต์ พื้นคอนกรีต พื้น PVC พื้นไม้ หรือแม้แต่พื้นกระเบื้องเก่า ก็ปูทับได้เช่นกัน 

ข้อเสีย: ต้องอาศัยความชำนาญในการปู เพราะต้องรอจังหวะให้กาวซีเมนต์ทำปฏิกิริยาก่อนจึงจะใช้งานได้ และหากพื้นเดิมของบ้านไม่ได้ระดับ จะต้องเทปูนเพื่อปรับระดับพื้นบ้านซะก่อน และต้องรอให้แห้งสนิท จึงจะเริ่มปูกระเบื้องด้วยกาวซีเมนต์ได้

เลือกช้อปกาวซีเมนต์แบรนด์ดังคุณภาพดี ได้ที่ NocNoc

อยากปูกระเบื้องให้ติดแน่นยาวนานต้องใช้กาวซีเมนต์ เพราะปูนซีเมนต์ที่ใช้ในงานฉาบหรืองานก่อทั่วไปนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่องานปูกระเบื้อง ทำให้กระเบื้องยึดเกาะได้ไม่ดีและหลุดล่อนง่าย แต่กาวซีเมนต์คือปูนที่ถูกออกแบบมาเพื่องานปูกระเบื้องโดยเฉพาะ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

“ แรงยึดเกาะสูง ปูพื้นก็ดี ปูผนังก็ได้ ”

สอนวิธีการปูกระเบื้องด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ

ภาพ: การปูกระเบื้องด้วยตัวเอง

หลังจากที่ทุกคนได้รู้จักวิธีปูกระเบื้องทั้งแบบที่ถูกและแบบที่ผิดกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาเรียนรู้เทคนิคและวิธีการปูกระเบื้องด้วยตัวเอง เพื่อเอาไว้รีโนเวทบ้านหรือแต่งห้องนอนใหม่ ซึ่งทุกคนสามารถเอาไปทำตามกันได้ ว่าแต่จะต้องเตรียมอุปกรณ์หรือมีขั้นตอนอะไรบ้างนั้น ก็ตามไปดูกันเลย

1. อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1. เกรียงหวี เอาไว้เกลี่ยหน้าปูนให้เป็นลอนและได้ระดับ

2. เกรียงใบโพธิ์ เอาไว้ใช้ในการตักปูนกาวซีเมนต์

3. ถังผสมปูน เอาไว้ใส่ส่วนผสมของกาวซีเมนต์และน้ำ

4. สว่านไฟฟ้าและหัวปั่น เอาไว้ตีเพื่อผสมกาวซีเมนต์ให้เข้ากับน้ำ

5. ที่ดูดกระจก เอาไว้จับกระเบื้องวางตามจุดที่ต้องการ

6. ค้อนยาง เอาไว้เคาะกระเบื้องให้เข้าที่

7. แปรงสลัดน้ำ เอาไว้พรมน้ำตรงบริเวณที่ต้องการปูกระเบื้อง

8. สเปเซอร์ ตัวเว้นระยะและตัวปรับระดับ เอาไว้เว้นระยะกระเบื้องให้เท่ากัน

2. วิธีคํานวณตารางเมตรปูกระเบื้อง

ภาพ: วิธีคํานวณตารางเมตรปูกระเบื้อง

เมื่อเตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องไม่ลืมซื้อกระเบื้องให้พอดีกับขนาดห้องที่ต้องการจะปู ว่าแต่จะมีวิธีคํานวณตารางเมตรปูกระเบื้องยังไงให้เป๊ะ ก็ตามมาดูกันเลย

ก่อนอื่นเราต้องรู้ขนาดพื้นที่ของห้องที่เราต้องการรีโนเวทซะก่อน ซึ่งหาได้จากสูตรนี้

 

กว้าง (เมตร) x ยาว (เมตร) = พื้นที่ (ตารางเมตร)

ตัวอย่างเช่น

ห้องนอนกว้าง 2.5 เมตร และยาว 3 เมตร

ขนาดพื้นที่ห้องจะเท่ากับ 2.5 x 3 = 7.5 ตารางเมตร

 

จากนั้นก็ถึงเวลาหาจำนวนกระเบื้องที่ต้องการ โดยเราจะต้องเลือกกระเบื้องที่ชอบเสียก่อน เพื่อดูว่ากระเบื้องรุ่นนั้น 1 กล่อง สามารถปูได้กี่ตารางเมตร เพื่อเอาตัวเลขมาคำนวณในสูตรนี้

 

พื้นที่ห้อง ÷ พื้นที่ของกระเบื้อง 1 กล่อง = จำนวนกล่อง

ตัวอย่างเช่น

พื้นที่ห้องนอน 7.5  ตารางเมตร และกระเบื้อง 1 กล่องปูได้ 1 ตารางเมตร

จำนวนกล่องที่ต้องการ คือ 7.5 ÷ 1 = 7.5 กล่อง

นั่นหมายความว่าเราจะต้องซื้อกระเบื้องทั้งหมด 8 กล่องนั่นเอง

Tips ต้องรู้: ไม่ว่าจะคำนวณออกมาแล้วจะลงตัวหรือไม่ก็ตาม ตอนสั่งซื้อกระเบื้องจำเป็นต้องซื้อเผื่อเอาไว้ สำหรับใช้แก้งานหากเกิดอุบัติเหตุ อย่างกระเบื้องตกแตก เป็นต้น และหลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว แผ่นกระเบื้องที่เหลือก็ควรเก็บเอาไว้ เผื่อว่าในอนาคตจำเป็นต้องซ่อมแซม พื้นบ้านจะได้มีลวดลายที่สวยเสมอกัน

จัดเต็มกระเบื้องปูพื้นทุกแบบทุกสไตล์ ช้อปง่าย ๆ ได้ที่ NocNoc

เมื่อใครได้จำนวนกระเบื้องที่ต้องการแล้ว แต่ยังยุ่ง ๆ ไม่ค่อยมีเวลาไปเดินเลือกซื้อกระเบื้องด้วยตัวเอง ก็สามารถเข้ามาเลือกช้อปได้ที่ NocNoc เพราะเรารวบรวมกระเบื้องทุกชนิด ทุกแบบ ทุกสไตล์ เอาไว้ในที่เดียว

  • ช้อปง่าย ๆ ได้ที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาหรือค่าเดินทางแม้แต่บาทเดียว
  • คุ้มค่าคุ้มราคา ด้วยโปรโมชันและโค้ดส่วนลดต่าง ๆ มากมาย
  • จ่ายเงินได้หลายช่องทาง ทั้ง QR พร้อมเพย์, บัตรเครดิต และบัตรเดบิต

5 ขั้นตอนการปูกระเบื้องด้วยตัวเอง ได้พื้นที่ทนทาน สวยถูกใจ

3.1. เคลียร์พื้นผิวให้เรียบ

ภาพ: การเคลียร์พื้นผิว

เพื่อให้กาวซีเมนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด เราจะต้องเคลียร์พื้นผิวบริเวณที่ต้องการปูกระเบื้องให้เรียบเสียก่อน ด้วยการเอาเศษปูนที่เป็นส่วนเกินออกให้หมด เมื่อพื้นผิวเรียบเนียนดีแล้ว ก็ให้เอาแปรงสลัดน้ำมาพรมน้ำให้ทั่ว ขัดทำความสะอาดให้เรียบร้อย และรอจนกว่าพื้นผิวจะแห้งสนิทดี

3.2. ทำความสะอาดแผ่นกระเบื้อง

ภาพ: แผ่นกระเบื้อง

ในตอนที่เรากำลังรอให้พื้นแห้งสนิทนั้น ให้เอากระเบื้องที่เตรียมไว้มาทำความสะอาดทีละแผ่น โดยการใช้ฟองน้ำสะอาด ๆ ชุบน้ำให้หมาด แล้วเอามาเช็ดให้ทั่วทั้งแผ่น จากนั้นเอาไปพึ่งลมให้แห้ง เพื่อให้กระเบื้องแต่ละแผ่นสามารถยึดติดกับกาวซีเมนต์ได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

คำเตือน: ห้ามทำความสะอาดแผ่นกระเบื้องด้วยการเอาไปชุบน้ำหรือฉีดน้ำล้างโดยตรง เพราะจะทำให้กระเบื้องชื้นเกินไป และยึดกับกาวได้ไม่ดีเท่าที่ควร

3.3. ผสมปูนกาวซีเมนต์

ภาพ: การผสมปูนกาวซีเมนต์

เมื่อพื้นและกระเบื้องสะอาดเรียบร้อยจนพร้อมติดตั้งแล้ว ก็ถึงเวลาผสมกาวซีเมนต์ โดยให้ผสมกาวซีเมนต์เข้ากับน้ำในอัตราส่วนที่ฉลากระบุเอาไว้ลงในถังผสม และใช้สว่านไฟฟ้าที่เป็นหัวปั่น มาปั่นกาวซีเมนต์และน้ำให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน โดยจะใช้เวลาราว ๆ 3-4 นาที

คำเตือน: หลังจากผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว จะต้องใช้กาวซีเมนต์นั้นให้หมดภายใน 45 นาที และระหว่างปูกระเบื้องก็ไม่ควรเติมน้ำลงไปเพิ่ม เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะลดลง

3.4. ทาปูนกาวลงพื้นผิวและกระเบื้อง

ภาพ: การทาปูนกาวซีเมนต์

เมื่อพื้น กระเบื้อง และกาวซีเมนต์พร้อมแล้ว ก็ให้ทำตามขั้นตอน ดังนี้

  1. เอาเกรียงใบโพธิ์ตักปูนกาวเทลงไปในจุดที่ต้องการปู 
  2. จากนั้นให้ใช้เกรียงหวีเกลี่ยปูนกาวตามแนวยาวให้สม่ำเสมอทั่วกัน
  3. และเอาเกรียงใบโพธิ์ตักปูนกาวและปาดไปที่หลังกระเบื้องแบบบาง ๆ ให้ทั่วทั้งแผ่น

จะช่วยให้กระเบื้องจับกับกาวซีเมนต์ได้แน่นหนามากขึ้น แถมยังช่วยให้ไม่เกิดร่องหรือโพรงอากาศข้างใต้กระเบื้อง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กระเบื้องร้าว แตก หรือระเบิดได้

3.5. วางกระเบื้องลงบนพื้นผิว

ภาพ: การปูกระเบื้อง

และก็เดินทางมาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ท้าทายไม่น้อย เพราะพื้นกระเบื้องจะออกมาสวยหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้แหละ ซึ่งต้องทำดังนี้

  1. ใช้ที่ดูดกระจกมาดูดกระเบื้องที่ทากาวซีเมนต์เรียบร้อยแล้ว
  2. และเอาไปวางลงบนพื้น โดยวางให้เสมอกับร่องเกรียงหวี 
  3. จากนั้นค่อย ๆ ขยับแผ่นกระเบื้องเพื่อไล่เอาอากาศด้านล่างออก
  4. ตามด้วยการใช้ค้อนยางเคาะเบา ๆ ให้ทั่วทั้งแผ่น เพื่อเพิ่มความแน่น
  5. เสียบตัวสเปเซอร์ไปที่ช่องระหว่างกระเบื้อง เพื่อให้ได้ร่องยาแนวที่สวยงาม
  6. เอาตัวปรับระดับมาปรับความสูงของกระเบื้องให้เสมอกัน ทำไปเรื่อย ๆ จนครบทุกแผ่น

เมื่อกาวซีเมนต์แห้งดีแล้ว ให้ทำความสะอาดร่องยาแนว ด้วยการเอาเศษผง เศษฝุ่น และเศษซีเมนต์ ออกให้หมด แล้วตามด้วยการลงยาแนวให้เรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จ

ทั้งหมดนี้คือวิธีปูกระเบื้องด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ที่จะช่วยให้พื้นบ้านของทุกคนกลับมาสวยปังอีกครั้ง แต่ถ้าใครไม่เก่งเรื่องงานช่างหรือไม่มีเวลาทำด้วยตัวเองจริง ๆ ก็สามารถใช้บริการช่างมืออาชีพจาก NocNoc

  • เชี่ยวชาญทุกงานช่างด้วยประสบการณ์งานช่างกว่า 5 ปี
  • เลือกช่างได้ง่ายกว่าเดิม ด้วยรีวิวจากลูกค้าตัวจริงกว่า 2,000 คน
  • สบายใจสุด ๆ เพราะมีทีมงานคอยสแตนบายช่วยเหลือตลอดเวลา
  • จ่ายเงินสะดวก ด้วยช่องทาง QR Payment, E-Banking และบัตรเครดิต

สำหรับคนที่กำลังมองหากระเบื้องคุณภาพดี ราคาโดนใจ สามารถเข้ามาเลือกช้อปกระเบื้องยี่ห้อดัง หลากหลายสไตล์ ได้ที่ NocNoc ช้อปง่ายได้ทุกเวลาในราคาสุดคุ้ม ด้วยโค้ดส่วนลดที่จัดเต็มตลอดทั้งเดือน ช่วยให้ทุกคนเพลิดเพลินกับการช้อปในราคาที่ถูกกว่าที่อื่น

ส่วนใครอยากหาแรงบันดาลใจในการรีโนเวทบ้าน ต้องรีบโหลด แอปพลิเคชัน NocNoc มาไว้ในมือถือ เพื่อหาสไตล์การแต่งบ้านที่ใช่ด้วยฟังก์ชัน Your Style Quiz และฟังก์ชัน Inspiration Feed ที่รวบรวมไอเดียแต่งบ้านไว้ทุกสไตล์ ช่วยให้เพื่อน ๆ มีบ้านสวยถูกใจเหมือนในฝัน

NocNoc Writer

กองบรรณาธิการ NocNoc ที่อยากถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับบ้าน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนสามารถสร้างบ้านในฝันให้เป็นจริง

บทความที่เกี่ยวข้อง