เปลี่ยนสไตล์-เปลี่ยนบ้านให้เป็นห้องลองเสื้อ กับเจ้าของเพจ น้องนอนในห้องลองเสื้อ

Key Takeaways

• เรื่องราวที่มาของการเปิดเพจ ‘น้องนอนในห้องลองเสื้อ’ ของ ย้วย-นภษร ศรีวิลาศ กับหน้าที่การงานที่บ่มเพาะความชอบในเรื่อง การแต่งตัว ซึ่งตามมาด้วยการมีข้าวของในชีวิตจำนวนมาก
• การเปลี่ยนเลย์เอาท์คอนโดเสียใหม่ ให้เหมาะกับวิถีชีวิตช่วงโควิด-19 ที่ต้องทำงานที่บ้าน กับการทดลองเปลี่ยนสเปซให้เป็นคาเฟ่แบบที่ชอบไป และห้องลองเสื้อแบบที่ชอบใจ

วันไหนเครียด ๆ หลายคนคงชอบไปเดิน Shopping ลองเสื้อผ้าและ Act ถ่ายรูปอยู่ในนั้นนานหลายสิบนาที ย้วย-นภษร ศรีวิลาศ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้ายังไม่เคยเห็นผลงานของเธอแล้วล่ะก็ สามารถเข้าไปดูคอลเลกชันการลองเสื้อของเธอได้ในเพจ ‘น้องนอนในห้องลองเสื้อ’

และท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่ทำให้ต้องอยู่แต่กับที่บ้าน เธอบอกกับเราว่าจริง ๆ เป็นคนที่อยู่ไม่ติดบ้านเท่าไหร่ ชอบที่จะพกโน๊ตบุ๊ค หนังสือ และงานจากบทบาทบรรณาธิการจาก capital  มากกว่า จากสถานการณ์นี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอ เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นห้องลองเสื้อซะเลย เธอจะมีเคล็ดลับการเปลี่ยนบ้านอย่างไร สไตล์ของเธอเป็นแบบไหน NocNoc จะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของการชอบมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้านั้นถูกปลูกฝังมาอย่างยาวนานสมัยทำงานอยู่ในนิตยสารไลฟ์สไตล์หัวหนึ่ง เธอได้มีโอกาสหยิบจับเสื้อผ้าหลายแบรนด์ หลายสีเพื่อนำเสนอสไตล์การแต่งตัวให้กับผู้อ่าน งานที่ทำนี้เองจึงกลายเป็นความชอบของเธอด้วย

“เหมือนกับทุกคน คือ เราชอบแต่งตัวสวย ๆ ไปทำงาน ช่วงที่ทำงานนิตยสารไลฟ์สไตล์ก็จะมีหมวด Shopping ที่เราจะลิสต์ของในคอลัมน์ พอทำบ่อย ๆ เราก็อยากจะไปจับของจริง พอไปจับของจริงก็ถ่ายรูปในห้องลองเสื้อลงเฟซบุ๊กตัวเอง จนมันเยอะ ทำไปทำมามันก็เลยกลายเป็น ‘เพจน้องนอนในห้องลองเสื้อ’ คือเราไม่ใช่นางแบบในแม็กกาซีน ไม่ใช่คนที่รูปร่างดี คนที่ชอบเราก็เลยรู้สึกว่าเค้าเข้าถึงเราได้ แล้วก็ทำตามในสิ่งที่เราหยิบมาให้เค้าดูว่ามันมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ยังไง จริงๆ เราชอบสีหรือการแมตช์สี เพราะเรารู้สึกว่ามันสนุกดี พอเราแต่งตัวสนุก ๆ ในแต่ละวันมันก็จะมีความรู้สึกว่ามั่นใจในการทำงาน”

ด้วยอาชีพการเป็นนักเขียน เป็นนักสัมภาษณ์ เธอจึงชอบที่จะหาไอเดีย แรงบันดาลใจและหาคำศัพท์ใหม่ ๆ เพื่องานเขียน ทำให้กลายเป็นคนที่ ‘ซื้อของเยอะ’ ซึ่งแปรผันตรงกับสเปซที่อยู่ด้วย เมื่อเวลาผ่านไป จากห้องเล็ก ๆ ก็ขยับขยายใหญ่ขึ้นไปตามของที่มี “เราเป็นคนของเยอะ เพราะด้วยงานที่ทำคือเป็นบรรณาธิการ เป็นนักเขียน ซึ่งเราก็เป็นคนอ่านเยอะนิตยสารก็ซื้อเยอะ แล้วต้องเก็บหนังสือพวกนี้เยอะมาก บวกกับเป็นคนชอบแต่งตัวก็เลยซื้อไอเท็มที่ใช้บ้างไม่ใช้บ้างเต็มไปหมดเลย ไป ๆ มา ๆ จากหอพักที่เคยอยู่เล็ก ๆ มันก็กลายเป็นคอนโด จากหนึ่งห้องนอนก็เป็นสองห้องนอน ก็คือสเปซใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าของที่เรามีมันไม่ลดลงไปเลย”

ช่วงโควิด-19 ที่ทุกคนต้องล็อกดาวน์อยู่แต่กับบ้าน เกือบทุกคนเริ่มที่จะจัดการพื้นที่บ้านของตัวเองให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิต ณ ขณะนั้น ซึ่งต้องเป็นทั้งที่ทำงาน ที่ประชุม ที่พักผ่อน ที่นอน ฯลฯ เช่นเดียวกันกับย้วย ซึ่งคิดว่า ทำไมไม่ลองจัดบ้านให้เป็นเหมือนที่ที่เราชอบไปนั่งล่ะ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการจัดบ้านใหม่ในเวอร์ชันนี้ของเธอ 

“ช่วงโควิดก็ต้องทำงานอยู่ที่บ้านเป็นหลัก จากเดิมพื้นที่นี้ที่เราแค่มานอนแล้วก็ออกไปทำงาน ต้องเป็นที่ที่เราอยู่มากกว่า 8 ชั่วโมงในหนึ่งวัน ก็เลยรู้สึกว่าอยากทำพื้นที่ที่คล้ายกับออฟฟิศคือ มันต้องมี Mood board มันต้องมีพื้นที่ที่นั่งสบาย ไม่เมื่อย แล้วก็พักสายตาได้ ในขณะเดียวกันเราเองก็ยังอยากหยิบเสื้อผ้า ยังอยากแต่งตัวในบางที”

“มันก็เลยต้องมีพื้นที่ที่มีทุกอย่างนี้ประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งก็ไม่ง่ายเลย เดิมทีคอนโดตรงนี้จะจัดพื้นที่ตามสูตรเลย คือ พื้นที่ตรงกลางจะใหญ่สุดก็จะเป็น Living Room แล้วก็เอาของส่วนตัว เสื้อผ้าทั้งหมดไปไว้ในห้องนอน ก็เลยกลายเป็นว่าแทบจะไม่มีที่นอน ก็เลยจัดใหม่ เปลี่ยนโซนในห้องใหม่โดยเริ่มจากคิดว่า เราใช้เวลาอยู่ที่ไหนเยอะที่สุด งั้นก็ทำห้องนั้นให้มันใหญ่ที่สุด เราเลยเอาโซฟาย้ายเข้าไปอยู่ในห้องนอนเล็ก แล้วก็เอาเสื้อผ้ามาวางไว้ตรงกลางบ้าน เอาโต๊ะทำงานมาไว้ตรงกลาง คือจัดสัดส่วนตามที่เราใช้ชีวิต มันก็เลยลงตัวขึ้น”

หลังจากได้ลองจัดเลย์เอาท์สเปซให้เหมาะกับการใช้ชีวิต และลองจัดบ้านในสไตล์ที่ชอบแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับเจ้าของเพจ ‘น้องนอนในห้องลองเสื้อ’ คือการแต่งตัวสวย ๆ ในทุกวัน และเปลี่ยนบ้านให้เป็นห้องลองเสื้อสวย ๆ แบบที่เธอชอบ

“ช่วงโควิดเราไปร้านลองเสื้อไม่ได้เพราะว่าร้านปิด แต่เรายังชอบการได้ใส่ได้ลองหรือว่ามิกซ์แอนด์แมตซ์ ช่วงโควิด เราก็ซื้อของออนไลน์มาเยอะมาก แล้วบางทีมันไม่เห็นภาพ ก็เลยต้องใส่ที่บ้าน เวลาเจอกระจกแบบเต็มตัวก็จะซื้อไว้ ไป ๆ มา ๆ ก็เต็มบ้าน วางได้รอบทิศเลย แล้วสิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือแสง เรามักจะพากระจกย้ายไปในที่ที่ใกล้หน้าต่างหน่อย เพราะว่าเวลาแสงธรรมชาติเข้า ถ่ายรูปมันสวยกว่าอยู่แล้ว ขนาดของกระจกก็สำคัญ แล้วก็ตั้งกระจกให้มีองศาเฉียง มีมุมที่ทำให้ตัวเราสูงขึ้น เหมือนเวลาเราไปลองเสื้อที่ร้านเสื้อผ้าที่เรารู้สึกว่าเราสวย ที่บ้านเราก็ทำได้เหมือนกัน”

หนึ่งในการเจอสไตล์ที่ชอบหรือเจอการจัดบ้านที่ใช่คือการทดลองไปเรื่อย ๆ และไม่มีตำราบอกว่าถูกหรือผิด เพราะสไตล์และความชอบของแต่ละคน บริบทของการใช้ชีวิตของแต่ละคนก็แตกต่างกัน นี่คือเทคนิคหนึ่งที่เราได้จากเธอ “ก่อนที่สเปซจะลงตัวแบบนี้ เราก็ทดลองมาหลายอย่าง อยู่ที่ว่าโจทย์สำคัญของเราคืออะไร ซึ่งสุดท้ายแล้วพอพื้นที่นี้มันน่าอยู่ เราก็จะแฮปปี้ พอเราแฮปปี้เราก็อยากจะอยู่ห้องนาน ๆ อยากให้ลองจัดห้องในแบบของตัวเองดู เพราะว่าเราอาจจะไม่เคยคิดว่าการวางโต๊ะไว้กลางบ้านแล้วมันจะเวิร์ก พอได้ทดลอง มันก็เวิร์กนะ” 

“เวลาดูนิตยสารเยอะ ๆ จะมีปัญหาว่าจะไปหาซื้อแบบนี้ได้ที่ไหน ซึ่ง NocNoc ก็ช่วยได้เยอะเหมือนกัน เพราะเราจะชอบเข้าไปดูโต๊ะหรือเก้าอี้ แล้วก็เปรียบเทียบราคา เปรียบเทียบดีไซน์กับหลาย ๆ แบรนด์ หรือบางทีก็ปักหมุดเอาไว้ก่อน อยากได้อะไรก็หาได้หมด ไม่ต้องเสียเวลา”  

การได้มีโอกาสคุยกับย้วยในวันนี้ ทำให้เราหันกลับมาคิดถึงมุมต่าง ๆ ที่เราใช้ชีวิตภายในบ้านเสียใหม่ ได้โอกาสจัดลำดับความสำคัญว่าเราใช้พื้นที่ตรงไหนมากน้อยอย่างไร อยากลองปรับเปลี่ยนเลย์เอาท์ภายในบ้าน โดยไม่ต้องตีกรอบว่าห้องไหนต้องมีฟังก์ชันเป็นอย่างไร และ ‘ทดลอง’ จัดห้องในรูปแบบใหม่ที่เราจะชอบและรักทุกมุมในนั้น

ติดตามเรื่องราวของย้วย พร้อมเทคนิคการจัดบ้านให้เป็นห้องลองเสื้อแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย 

คุณก็สามารถเปลี่ยนบ้านให้เป็นห้องลองเสื้อเก๋ ๆ ถ่ายรูป Everyday Look แบบย้วยได้ โดยเข้าไปแรงบันดาลใจของห้องแต่งตัวในแบบต่าง ๆ และค้นหาสไตล์ที่ชอบในแบบตัวเองได้ที่แอปพลิเคชัน NocNoc มีแรงบันดาลใจให้คุณเพียบ พร้อมทั้งค้นหาสไตล์ของตัวเองด้วยฟังก์ชัน Your Style Quiz ที่จะช่วยให้คุณเจอสไตล์การแต่งบ้านที่ใช่ที่สุด และฟังก์ชัน Inspiration Feed ที่รวบรวมไอเดียของบ้านตามห้องต่าง ๆ เพื่อบ้านของคุณอีกด้วย