• Others

  • Idea&Inspiration

บ้านที่เป็น โฮม สคูลและสตูดิโอของ Plastic Plastic

  • โดย ปกป้อง และ ต้องตา จิตดี (เจ้าของบ้าน)

  • 148

Key Takeaways

  • การรีโนเวทบ้านให้กลายเป็นสตูดิโอของสองพี่น้อง ป้อง-ปกป้อง  และ เพลง-ต้องตา จาก Plastic Plastic ที่อยากให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เลยมีส่วนหนึ่งของบ้านที่กลายเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมของโรงเรียนอนุบาลเทพารักษ์ ธุรกิจของครอบครัวด้วย
  • สไตล์การแต่งบ้านที่ผสมผสานความชอบของทั้งสองคน พวกเขาเลือกใช้วัสดุอย่างไม้ ในชิ้นสำคัญ ๆ เช่น โต๊ะ ตู้ เคาท์เตอร์ ฯลฯ และตกแต่งเพิ่มความอบอุ่นในบ้านด้วยวัสดุอย่างพรม ผ้า และเซรามิก

“หลังจากที่เราทำงานมาทั้งวัน ได้ยินเสียงต่าง ๆ มาทั้งวันแล้ว ก็เลยจะชอบมาอยู่กับความเงียบที่บ้าน อยู่ใน Moment of Now” – เพลง-ต้องตา

NocNoc เคาะประตูบ้านซึ่งเป็นสตูดิโอทำเพลงหลังใหม่ของสองพี่น้อง เพลง-ต้องตา และ ป้อง-ปกป้อง จิตดี แห่งวง Plastic Plastic ความพิเศษของพื้นที่แห่งนี้คืออยู่ท่ามกลางโรงเรียนอนุบาลเทพารักษ์ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวด้วย เดิมทีบ้านหลังนี้เป็นของญาติที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน พวกเขาจึงคุ้นเคยและวิ่งเล่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และเมื่อญาติย้ายออกไป พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะชุบชีวิตให้บ้านหลังนี้อีกครั้ง ทำเป็นสตูดิโออัดเพลง ทำเพลง มีคาเฟ่มุมเล็กๆ และมุมอ่านหนังสือที่หลากหลายด้วย เรียกได้ว่าบ้านหลังนี้ถูกจัดสรรพื้นที่ให้เป็นทั้งโฮม(บ้าน) ทั้งสคูล(โรงเรียน) และสตูดิโอให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันได้อย่างลงตัว

 

บ้านหลังนี้ผ่านการคิด รีโนเวท และตกแต่งจากความชอบของพวกเขาทั้งคู่ จนกลายเป็นพื้นที่ที่ไว้หยุดพักสลับกับทำงาน และสามารถชาร์จพลังชีวิตได้อย่างแท้จริง

THE NEW CHAPTER OF HOME

ภายในอาณาบริเวณบ้านย่านเทพารักษ์ ที่มีทั้งบ้านตัวเอง บ้านญาติและโรงเรียนอนุบาลเทพารักษ์อยู่ในรั้วเดียวกัน เดิมทีป้อง-ปกป้อง และ เพลง-ต้องตา ใช้พื้นที่บ้านเป็นที่ทำเพลง เป็นสตูดิโอ เป็นที่พักผ่อนหลัก ๆ 

 

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ญาติที่เคยอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันย้ายออกไป ทิ้งร้างบ้านเก่าเอาไว้ จึงจุดประกายไอเดียบางอย่างให้สองพี่น้อง Plastic Plastic ลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนพื้นที่ทิ้งร้าง ให้มีชีวิตขึ้นมา “จริง ๆ เรามีสตูดิโออยู่ที่บ้านเก่า ก็คือบ้านที่เรานอนอยู่นั่นแหละ แต่พอมีคนมาเยอะขึ้น เราก็อยากหาที่ที่ทุกคนสามารถเข้ามาแล้วไม่รบกวนที่บ้าน ทำอะไรได้อิสระมากขึ้น ก็เลยหาที่ที่มันเหมาะสม แล้วก็พอดีว่าตรงเนี่ยเป็นที่ที่อยู่ข้าง ๆ บ้านที่เราก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก มันอยู่ในตำแหน่งระหว่างบ้านกับโรงเรียนอนุบาลพอดี แล้วพอได้คุยกับญาติที่เป็นสถาปนิก ก็คิดว่าน่าจะทำเป็นสตูดิโอได้ โดยที่ไม่ได้ไปยุ่งกับโครงสร้างของบ้านมาก ไม่ได้ใช้งบประมาณเยอะ” ปกป้องเล่าถึงจุดเริ่มต้นของบ้านหลังนี้

“ไหน ๆ เราจะทำสตูดิโอแล้วก็เลยอยากจะทำให้มันเป็นสตูดิโอที่เราอยากได้จริง ๆ” – ปกป้อง จิตดี

DESIGN THE SPACE

ไอเดียการเปลี่ยนสเปซบ้านที่อยู่มานานหลายสิบปี ให้เข้ากับชีวิตและการทำงานของปกป้องและต้องตานั้นไม่ยากอย่างที่คิด เพราะพวกเขามีภาพที่มองไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าอยากจะทำบ้านหลังนี้ให้โปร่งขึ้น มีแสงอาทิตย์เข้าเยอะ ๆ และแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้นล่าง ให้ใครหลายคนสามารถเข้ามาใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเขาเอง เพื่อน ๆ ที่เข้ามาในสตูโอ คุณพ่อคุณแม่ รวมทั้งนักเรียนอนุบาลจากโรงเรียนเทพารักษ์ ที่อยู่ในรั้วเดียวกันด้วย

 

“เดิมทีมันจะเป็นบ้านทึบ ๆ ที่มีผนังรอบบ้าน ชั้นล่าง เราก็เอาออกสักครึ่งหนึ่ง คือมีโซนที่เป็นภายในครึ่งหนึ่งแล้วก็โซนที่เป็นภายนอกครึ่งหนึ่ง ส่วนภายนอกก็จะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อ บ้านกับโรงเรียน ซึ่งช่วงตอนกลางวันเด็ก ๆ ก็จะสามารถเข้ามาใช้เรียนได้” นี่คือไอเดียที่ปกป้องเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการจัดสรรพื้นที่ใหม่ให้กับบ้านหลังนี้ ส่วนด้านในก็รื้อผนังส่วนหนึ่งออก เพื่อให้แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาให้มากที่สุด

 

“ส่วนด้านในที่เป็นส่วนบ้านก็จะทำให้ space มันโฟลว์ที่สุด เราก็รื้อให้มันเป็นสเปซต่อเนื่องที่ทำให้มันไม่อึดอัดแล้วก็มีหน้าต่างแบบใสรอบด้าน แล้วก็มีม่านที่ช่วยปิดบังได้ แล้วก็เก็บโครงสร้างเดิมไว้ทุกอย่างเท่าที่เราจะเก็บได้ เช่น บันไดเราก็ใช้ตำแหน่งเดิม ลูกนอนบันไดก็เป็นไม้เดิมที่มีอยู่ แล้วก็เอามาผสมกับความโมเดิร์นที่เป็นเหล็กซึ่งเป็นของใหม่” 

การใช้งานของสเปซบ้านใหม่ต้องนี้ของพี่น้อง ‘จิตดี’ นั่นแบ่งกันชัดเจนด้วยงานที่ทั้งคู่ทำ เพลง-ต้องตา ที่ดูแลกิจการโรงเรียนอนุบาลของครอบครัวด้วย ดังนั้นงานหลักของเธอ คือการประชุม คิดงาน ทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นหลัก จึงปักหลักอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งมีพื้นที่โต๊ะกว้าง ๆ ไว้คิดงานนั่นเอง และก็มีมุมคาเฟ่เล็ก ๆ ซึ่งเป็นความชอบของต้องตาเองที่ได้ชงกาแฟระหว่างวัน หรือหยิบจับอุปกรณ์ออกไปดริปกาแฟที่หน้าบ้าน  “ข้างล่างจะเป็นเพลงมาก เพราะว่าเพลงจะมีงานเขียนคอนเทนต์หรือว่าเขียนหนังสือ แล้วก็มีงานต่าง ๆ ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ บางทีก็ใช้เป็นที่พักผ่อนด้วยก็คือนั่งอ่านหนังสือ หรือว่านอนตรงนี้แล้วก็เล่นกับหมาแล้วก็ทำกาแฟ บางทีมีคนมาทำเพลงกับพี่ป้อง เพลงก็จะเป็นฝ่ายบริการนิดนึงก็คือเอาน้ำขึ้นไปให้ ข้างบนก็จะเป็นสไตล์พี่ป้องมากก็คือเป็นที่ที่ทำเพลงอย่างเดียวเลย”

 

ส่วนด้านบนก็จะเป็นสตูดิโอทำเพลงของปกป้องที่มีบรรยากาศแตกแต่งจากสตูดิโออื่น ๆ อย่างแน่นอน ปกป้องเล่าไอเดียของการทำสตูดิโอหลังใหม่หลังนี้ให้ฟัง “ไหน ๆ เราจะทำสตูดิโอแล้วก็เลยอยากจะทำให้มันเป็นสตูดิโอที่เราอยากได้จริง ๆ ที่ไม่ใช่สตูดิโอจริงจัง ไม่ใช่สตูดิโอที่เครียดหรือว่าอุดอู้ อยากให้บรรยากาศการทำงานเหมือนกับอยู่ในบ้านแล้วก็ทำเพลงกันชิลล์ ๆ เวลาคิดอะไรกันมันก็สนุกกว่า ก็คือจะทำให้มันโปร่งมากที่สุดแล้วก็มีมุมที่ instagrammable ก็คือมีมุมที่ถ่ายรูปได้ด้วย เวลาเรานั่งทำงานก็สามารถดูสวน ดูต้นไม้ได้”

INSPIRATION OF HOME

สไตล์การแต่งบ้านของทั้งสองคนนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว จะเห็นว่ามีเฟอร์นิเจอร์ไม่เยอะมาก แต่เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญของบ้าน และมีของตกแต่งที่สร้างบรรยากาศความเป็นบ้านให้อบอุ่นมากยิ่งขึ้น “จริง ๆ เรื่องสไตล์ของบ้าน เราก็ผสม ๆ กันครับ มันไม่ได้ไปทางใดทางหนึ่ง คือมันจะ Minimal แต่ว่าก็ไม่ได้ Minimal สุด เพราะว่าเราก็ไม่ชอบอะไรที่มันเรียบเกินไปเพราะว่ามันจะเกร็ง มีผสมสไตล์ Scandinavian หรือว่า ญี่ปุ่น วินเทจด้วย ซึ่งมันก็รวม ๆ จากสิ่งที่เราสองคนชอบ” ปกป้องเล่าให้ฟังเรื่องการ Mix สไตล์หลาย ๆ อย่างเข้าด้วยกัน

 

ต้องตาเล่าเสริมเรื่องของตกแต่งภายในบ้าน เพราะส่วนใหญ่แล้ว ของกระจุ๊กกระจิ๊กพวกนี้เป็นของเธอนั่นเอง “ส่วนใหญ่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ในบ้านนี้ก็จะเป็นของพี่ป้อง เช่น โต๊ะ เก้าอี้หรือโซฟา ของเพลงจะเป็นพวกของตกแต่งเล็ก ๆ เช่น เก้าอี้ที่อยู่ตรงบาร์ ตู้เย็น เครื่องเล่นแผ่นเสียง ผ้าคลุม หนังสือ กรอบรูป เซรามิก เป็นของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ คือมันจะมี Mood ที่เราชอบอยู่แล้ว เช่น Mood ของไม้ เซรามิก พรม ผ้า หรือความเป็นออแกนิกบางอย่าง ก็คือเอาสิ่งที่เราชอบต่าง ๆ มามิกซ์กัน”

 

“เราชอบของที่เป็นวัสดุของมันจริง ๆ อย่างเช่น ไม้ก็เป็นไม้จริง ๆ หินก็เป็นหินจริง ๆ ไม่ใช่หินปลอม คือ การแต่งบ้านมันก็จะเริ่มต้นจากความชอบของเราก่อน คือถ้าเราชอบแล้วเราก็จะมีความรู้สึกอยากไปหาสิ่งนั้นมาใส่ในบ้านเรา” ปกป้องเล่าเสริมเรื่องความชอบในเนื้อแท้ของวัสดุของเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง

LOVING MOMENT

นอกจากเป็นสเปซที่น่ารักแล้ว ยังเป็นสเปซที่น่าอยู่สุดๆ ด้วยทำเลของบ้านหลังนี้ที่มีสนามหญ้าขนาดใหญ่อยู่ข้าง ๆ บ้าน เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็จะเห็นสีเขียวพริ้วไหวตามลมทำให้รู้สึกสบายตาและสบายใจเป็นที่สุด สเปซที่พวกเขารีโนเวทขึ้นมานี้ จึงกลายเป็นที่ชาร์จพลังได้ตลอดเวลา อย่างที่ต้องตาและปกป้องได้รู้สึก “โมเมนต์ที่ชอบที่สุดก็คือโมเมนต์หลังเลิกงานที่โรงเรียน หลังจากที่เราทำงานมาทั้งวันแล้วก็ได้ยินเสียงต่าง ๆ มาทั้งวันแล้ว ก็เลยจะชอบมาอยู่กับความเงียบที่บ้าน คือตอนเย็น ๆ ข้างนอกตรงสนามหญ้ามันจะดีมาก ก็เลยชอบไปนั่งกินกาแฟ ดริปกาแฟแล้วก็อ่านหนังสือ บางทีก็ไปปูเสื่อที่สนามหญ้าแล้วก็เล่นโยคะ คือเราชอบโมเมนต์ที่ได้อยู่กับตัวเอง อยู่ใน Moment of Now”

 

“สำหรับผม ช่วงเวลาที่ผมชอบก็จะเป็นช่วงเวลาเช้าสัก 6 โมง เป็นโมเมนต์ที่เราอยู่คนเดียวจริงๆ เพราะว่าคนอื่นๆ กำลังนอนอยู่ โรงเรียนยังไม่เปิด โซเชียลมีเดียก็ยังเงียบ ๆ สมองมันเปิดมาก หูก็เคลียร์ เราก็เลยชอบช่วงเวลานั้น”

 

บทสนทนาเรื่อง ‘บ้านหลังใหม่’ ของสองพี่น้อง Plastic Plastic ทำให้รู้ว่า การได้มีสเปซที่เป็นทั้งที่พักผ่อน ที่ทำงาน และที่ที่มีตัวของตัวเองอยู่ในทุกอณูของบ้านหลังนี้นั้นดีอย่างไร เรื่องราวการรีโนเวทบ้านของสองพี่น้อง Plastic Plastic ยังมีอะไรสนุก ๆ อีกหลายอย่าง เข้าไปดูสัมภาษณ์และโมเมนต์สวย ๆ ในบ้านหลังนี้ได้ที่นี่เลย 

สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเดียการทำบ้านใหม่ หรือรีโนเวทบ้านเก่าเช่นเดียวกับสองพี่น้องคู่นี้ นอกจากบทความนี้แล้ว ยังสามารถเข้าไปหาแรงบันดาลใจ หรือค้นหาสไตล์ที่ชอบแบบตัวเองได้ในแอปพลิเคชัน NocNoc เลย เพราะมีทั้งไอเดียสำหรับการตกแต่งบ้านในมุมต่าง ๆ พร้อมทั้งค้นหาตัวเองด้วยฟังก์ชัน Your Style Quiz ที่จะช่วยให้คุณเจอสไตล์การแต่งบ้านที่ใช่ที่สุด รวมทั้งฟังก์ชัน Inspiration Feed ที่รวบรวมไอเดียต่าง ๆ เพื่อบ้านของคุณอีกด้วย

ปกป้อง และ ต้องตา จิตดี (เจ้าของบ้าน)

สองพี่น้อง นักดนตรีแห่งวง Plastic Plastic ที่ต่างก็มีบ้านเป็นที่พักผ่อนและที่ทำงาน เพราะต้องตารับบทดูแลโรงเรียนอนุบาลเทพารักษ์ ซึ่งอยู่ในรั้วบ้านเดียวกันนี้ด้วย ส่วนปกป้องก็เป็นทั้งนักดนตรี นักทำเพลง ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสตูดิโอเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาจึงตัดสินใจรีโนเวทบ้านเก่าในรั้วบ้าน ทำเป็นสตูดิโอและที่ทำงานซะเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง