• Tips&Tricks

  • Idea&Inspiration

บ้าน งาน และความรักที่แสนละมุนละไม

  • โดย ไหม–ณพกมล อัครพงศ์ไพศาล หนาม–นล เนตรพรหม (เจ้าของบ้าน)

  • 5

Key Takeaways

  • โฮมสตูดิโอของแบรนด์ละมุนละไม ที่เลือกใช้ชั้นดาดฟ้าของบ้าน มารีโนเวท แปลงโฉมให้เป็นสตูดิโอเซรามิกที่พวกเขาใช้ผลิตงานเซรามิกออกมากว่า 8 ปี
  • การบาลานซ์ชีวิต งาน และความรักให้ลงตัว ด้วยการตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่คอนโดในพื้นที่ใกล้ ๆ กับโฮมสตูดิโอ 

“รู้สึกว่า ถ้าไม่ใช่ที่นี่ ก็จะไม่สามารถทำให้งานของละมุนละไมออกมาเป็นแบบนี้ได้” – หนาม-นล

จากรุ่นพี่รุ่นน้อง เพื่อนร่วมธุรกิจ มาจนถึงคู่ชีวิต ไหม–ณพกมล อัครพงศ์ไพศาล และ หนาม–นล เนตรพรหม ผู้ก่อตั้งแบรนด์เซรามิกละมุนละไม ใช้ชีวิตโดยมีมิติของงาน ชีวิต และความรักผสมผสานกันอย่างลงตัวมากว่าสิบปีแล้ว

แบรนด์ละมุนละไม ทำงานเซรามิกที่ส่วนใหญ่แล้วจะออกแบบมาเพื่อเป็นของใช้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ถ้วย ชาม แก้ว แจกัน ฯลฯ ทั้งคู่เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นและเป้าหมายของแบรนด์ 

 

“แบรนด์ละมุนละไมของเรา มีเป้าหมายในการทำเซรามิกซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน และก็คนกับบ้านซะส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นเราคาดหวังว่าคนที่เอาไปใช้ก็จะได้เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่บ้านอยู่คอนโดหรือว่าโต๊ะทำงานในออฟฟิศก็ตาม” และด้วยความที่ที่ทำงาน ปั้นเซรามิก คือโฮมสตูดิโอ ยิ่งทำให้พวกเขารู้ว่าคนที่อยู่ในบ้าน ต้องการผลิตภัณฑ์แบบไหน ในชีวิตประจำวันขาดอุปกรณ์อะไรที่จะมาช่วยเติมเติมการอยู่อาศัยในบ้านให้ดียิ่งขึ้น 

 

จากเดิมพื้นที่สตูดิโอคือพื้นที่ชั้นดาดฟ้าของบ้านทาวน์เฮาส์หลายชั้น ซึ่งเป็นบ้านที่หนามและครอบครัวใช้ชีวิตอาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็ก จนหนามและไหมจับมือกันปลุกปั้นแบรนด์เซรามิกนี้ จึงได้เนรมิตชั้นดาดฟ้าให้กลายเป็นสตูโอ แต่หลังจากที่ทั้งคู่เริ่มขยับขยายแบรนด์และความสัมพันธ์เป็นคู่รักแต่งงานใหม่ด้วยกัน จึงเลือกที่จะหาคอนโดที่ไม่ใกล้จากสตูดิโอมากนั้น ให้เป็นที่พักผ่อนและสร้างความเป็นส่วนตัวให้ทั้งคู่ได้มากขึ้น เพื่อสร้างสมดุลให้กับทุกมิติของชีวิต

“พอมันเป็นโฮมสตูดิโอ เราก็อยู่ที่นี่ นอนที่นี่ ตื่นมาก็ขึ้นมาทำงานข้างบนเลย มันทำให้เราทำงานวันไหนก็ได้” หนาม-นล

Home Studio

หนึ่งในเหตุผลที่ใครหลายคนทำสตูดิโอ (หรือที่ทำงาน) ที่บ้านก็เพราะความสะดวก และความคุ้นชิน เช่นเดียวกับกับหนามและไหม ที่เลือกที่จะทำสตูดิโอที่บ้านมากกว่าการจะออกไปเช่าที่ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งยังไม่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่อย่างพวกเขา และด้วยความที่บ้านของหนามนั้นอยู่ค่อนไปทางใจกลางเมือง การเดินทางไปหาลูกค้า หรือให้ลูกค้ามาหาพวกเขาจึงเป็นสิ่งที่สะดวกมากยิ่งขึ้น

 

หนามเริ่มเปลี่ยนพื้นที่ชั้นดาดฟ้าของบ้านให้เป็นสตูดิโอ เขาต่อเติมหลังคา กางผ้าใบกันความร้อนในเวลากลางวัน และเริ่มวางโต๊ะ วางเตา สำหรับการเป็นสตูดิโอเซรามิก 

 

“ตึกนี้เดิมทีคือเป็นบ้านของผม คือเราอยู่ข้างล่างมาตั้งแต่เราเป็นเด็ก ๆ เลย ก็คือเราเรียนแถวนี้ เติบโตแถวนี้เลย ซึ่งเดิมทีที่ชั้นดาดฟ้าก็เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้าง ก็เลยตัดสินใจจะทำสตูดิโอตรงนี้ เพราะว่าการอยู่ในเมืองก็ค่อนข้างสะดวก ตอนนั้นก็คำนวณพื้นที่ก็คิดว่าพอเพียงที่จะรีโนเวทจนกลายเป็นสตูดิโอ ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้แบรนด์ก็เข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว”

 

“โดยพื้นที่ตรงนี้ก็ปรับเปลี่ยนไปเยอะเลยครับ มีโต๊ะ มีชั้น มีเตาเผา มีแป้นหมุน แล้วก็พื้นที่เก็บของที่จะเอาไปแสดงงาน แต่พอเวลาผ่านไปก็มีทุกอย่างคูณสอง ก็คือมีแป้นหมุนสองอัน มีเตาสองชุด มีโต๊ะ มีชั้นวางเต็มไปหมดเลย ข้อดีของการมีสตูดิโอตรงนี้คือ การที่เราเดินทางได้สะดวก พอมันเป็นโฮมสตูดิโอ เราก็อยู่ที่นี่ นอนที่นี่ ตื่นมาก็ขึ้นมาทำงานข้างบนเลย มันทำให้เราทำงานวันไหนก็ได้ การจะขึ้นมาดูงาน ดูเซรามิกในเตา มันก็สะดวก” 

Inspiration from Home & Studio

ข้อดีของโฮมสตูดิโอมี่แมตช์กับแบรนด์ละมุนละไม คือการได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านกับครอบครัว และหยิบเรื่องราวในชีวิตประจำวัน มาทำเป็นงานเซรามิกที่พวกเขาหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นถ้วย ชาม จาน แก้ว ฯลฯ 

 

“ด้วยความที่เราเป็นโฮมสตูดิโอด้วย มันก็เลยมีความสำคัญทั้งในแง่ของที่อยู่อาศัย และการทำงาน คือเราอยู่ เราทำงาน แล้วเราก็ใช้ของ ๆ เราเอง หรือบางทีก็ได้แรงบันดาลใจจากการที่เราอยู่ที่บ้านหรือว่าอยู่ที่สตูดิโอจริง ๆ เพราะเวลาที่เราอยู่ที่นี่ เราจะเห็นว่าในชีวิตประจำวันของเรากำลังขาดอุปกรณ์อะไรบ้าง การอยู่ในสเปซที่เป็นบ้านแบบนี้ก็ช่วยให้เราออกแบบผลงานใหม่ได้ เราเลยมองว่าบ้านในความหมายของเรา มันเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย” ไหมให้ความหมายของโฮมสตูดิโอแห่งนี้ไว้อย่างลึกซึ้ง

 

“รู้สึกว่า ถ้าไม่ใช่ที่นี่ ก็จะไม่สามารถทำให้งานของละมุนละไมออกมาเป็นแบบนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสีสัน รูปทรงหรือไอเดียของผลิตภัณฑ์ของเรา มันมีผลจากการที่เราทำโฮมสตูดิโอนี่แหละ” หนามก็รู้สึกไม่ต่างกัน

Relaxing Time

การพักผ่อนของหนามและไหม พร้อม ๆ กับน้อง ๆ ทีมงานแบรนด์ละมุนละไมที่ชั้นดาดฟ้าแห่งนี้ก็มีกิจกรรมอะไรหลายอย่างให้ทำ แม้จะเป็นที่ทำงาน แต่ก็เหมือนบ้านในความรู้สึก ไหมเล่าว่า หลังจากเสร็จงานในแต่ละวัน ก็จะมีทั้งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันสตูดิโอแห่งนี้เลย จัดปาร์ตี้กันก็นับครั้งไม่ถ้วน เมื่อไหร่ที่ตาล้าจากการทำงาน ก็หันไปมองสวนที่คุณแม่ของหนามปลูกด้วยตัวเอง ก็เป็นทั้งร่มเงาและที่พักสายตาได้ดี” 

 

แต่เมื่อเวลาผ่านไป แบรนด์ของพวกเขาเติบโตขึ้นไปพร้อม ๆ กับความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นตาม กลายเป็นคู่แต่งงานใหม่ พวกเขาจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่คอนโดด้วยกัน แต่ก็ยังใกล้กับโฮมสตูดิโอแห่งนี้อยู่ เพราะความสะดวกและความประหยัดเวลาในการเดินทาง ยังสามารถทำงานในสตูดิโอดึกดื่นได้อยู่ 

“เรามองว่าการย้ายออกมาอยู่คอนโด ก็เป็นสัดเป็นส่วนดีครับ แล้วก็เลือกแบบ One Bedroom เลย คือแม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกัน แต่ก็ยังต้องมีสเปซส่วนตัวซึ่งกันและกันบ้าง บางทีเราเล่นดนตรีเสียงดัง น้องไหมยังสามารถเข้าไปอ่านหนังสือในห้องนอนได้ เราคิดว่าปัจจัยสำคัญ คือ การที่แต่ละคนได้มีสเปซในการทำอะไรที่เป็นกิจกรรมของตัวเองได้ด้วย” 

 

ด้วยแนวคิดที่เหมือนกันของทั้งคู่ ทำให้คอนโดแห่งนี้นั้นตอบโจทย์ชีวิตของพวกเขาที่สุด 

Life’s Balance

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยบาลานซ์ความสัมพันธ์ของพวกเขา คือการมีให้สเปซที่เป็นส่วนตัวให้แต่ละคน ไหมเล่าว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของหนามคือมุมดนตรี

“คือเรารู้อยู่แล้วว่า พี่หนามจะต้องมีอุปกรณ์ชุดดนตรีของเขา เราก็ให้สเปซนี้กับเขาไป ของไหมก็จะเป็นของเล็กๆ น้อย ๆ เช่น  ผ้าปูโต๊ะ เก้าอี้ หรือว่าโซฟา”

 

ในขณะเดียวกัน การมีสเปซที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน ตกแต่งด้วยข้าวของที่มีความหมายในชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ชุบชูใจในวันที่เหนื่อยล้าได้ ไม่ว่าจะเป็นของเล่น แผ่นเสียง แจกันที่ทั้งคู่ปั้นขึ้นมากับมือ 

 

เมื่อถามถึงอนาคตกับหนาม พวกเขามีแพลนว่าอยากจะขยับขยายพื้นที่ ณ ปัจจุบันให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ครอบครัวหรือการทำงานได้เติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ “ตอนแรกบ้านกับสตูดิโอมันเป็นที่เดียว ก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะต้องย้ายบ้าน แต่พอวันนึงมันจะต้องย้ายออกไปอยู่ข้างนอกจริง ๆ มันก็เป็นเส้นทางใหม่ที่สนุก ไม่แน่ว่า ต่อไปเราอาจจะย้ายไปที่อื่นอีกก็ได้  เพราะว่า ชีวิตของเรา งานของเรามันคงเติบโตขึ้นไปกับเราเรื่อย ๆ ยิ่งเราแต่งงานกันแล้วด้วย มันก็เริ่มมีเรื่องของอนาคตเข้ามาอีก”

 

“เราว่าชีวิตของพวกเรา มันเป็นคำว่า Life Partner โดยแท้จริง เพราะว่ามันเป็นเรื่องงานด้วย ถ้าเราทำงานกันคนละอย่างก็อาจจะคุยกันคนละเรื่องที่ไม่เหมือนกันแต่อันนี้ก็ค่อย ๆ สร้างไปด้วยกัน ซึ่งบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีแรง มีแรงบันดาลใจ และเป็นพื้นที่ที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกันจริง ๆ ”

 

จากความหมายของโฮมสตูดิโอไปจนถึงเรื่องการบาล๊านซ์ชีวิตการทำงาน และความเป็นพาร์ทเนอร์ในเรื่องชีวิตคู่และธุรกิจ พวกเขาทำให้เรารู้ว่า การจัด ‘สเปซ’ ที่ใช่นั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทุกมิติรอบตัวบาล๊านซ์ได้มากขึ้น

 

เรื่องราวของเจ้าของแบรนด์ละมุนละไมยังไม่จบเพียงเท่านี้ เข้าไปดูคลิปวิดีโอแบบเต็ม ๆ ที่จะเปิดเผยเรื่องราวของโฮมสตูดิโอของพวกเขามากขึ้น ที่นี่เลย

ใครกำลังอยากจะทำบ้านให้เป็นโฮมสตูดิโอ หรือปรับเปลี่ยนบ้านให้มีมุมทำงานที่สุดแสนจะ Productive ก็เข้าไปหาแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านและค้นหาสไตล์ในแบบที่คุณชอบได้ที่แอปพลิเคชัน NocNoc ซึ่งมีรูปการแต่งห้องมุมต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย และสามารถค้นหาสไตล์ของตัวเองด้วยฟังก์ชัน Your Style Quiz พร้อมกับฟังก์ชัน Inspiration Feed ที่รวบรวมไอเดียของบ้านตามห้องต่าง ๆ เพื่อบ้านของคุณอีกด้วย

ไหม–ณพกมล อัครพงศ์ไพศาล หนาม–นล เนตรพรหม (เจ้าของบ้าน)

เจ้าของแบรนด์เซรามิกละมุนละไม ที่ก่อตั้งมากว่า 8 ปี สินค้าของพวกเขามักได้แรงบันดาลใจมากจากข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน โดยใช้โฮมสตูดิโอ เป็นที่ออกแบบ สร้างสรรค์ผลงาน เซรามิกได้ตั้งแต่ต้นกระบวนการไปจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม

บทความที่เกี่ยวข้อง