เครื่องทำน้ำอุ่นแบบไหน? น้ำอุ่นทันใจ เซฟค่าไฟได้จริง

การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นหนึ่งในโจทย์สำคัญไม่แพ้การสร้างบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว การคำนึงถึงความปลอดภัย คุณภาพ อัตราการใช้ไฟฟ้า ก็เป็นอีกประเด็นที่ไม่อาจละเลยได้ เช่นเดียวกับเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไว้ในห้องน้ำแทบทุกบ้าน แม้ประเทศไทยจะไม่ค่อยมีลมหนาวมาเยือนเลยก็ตาม

การเลือกเครื่องทำน้ำอุ่น อย่างแรกที่ควรเช็คดูเลยก็คือ ความต้องการของผู้ใช้งาน เพราะเครื่องทำน้ำร้อนแต่ละประเภท ล้วนมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเครื่องทำน้ำอุ่นมี 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

• เครื่องทำน้ำอุ่นแบบขดลวดทองแดง มีจุดเด่นคือ ให้ความร้อนได้เร็วมาก ไม่มีปัญหาเรื่องหม้อต้มรั่วซึมในอนาคต แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัดก็คือ ถอดมาทำความสะอาดไม่ได้และให้ความร้อนได้ไม่คงที่ จึงทำให้ค่อนข้างกินไฟมากกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นแบบอื่น

• เครื่องทำน้ำอุ่นแบบหม้อต้มทองแดง มีจุดเด่นคือ ให้ความร้อนที่เร็วและคงที่ มีอายุการใช้งานนานที่สุด ถ้าเทียบในบรรดาเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยกัน แต่ข้อเสียคือไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ แถมหม้อต้มมีโอกาสรั่วซึม หากใช้น้ำที่ไม่มีคุณภาพ เช่น น้ำบาดาล

• เครื่องทำน้ำอุ่นแบบหม้อต้มพลาสติก มีจุดเด่นคือ หม้อต้มไม่มีโอกาสรั่วซึม สามารถถอดมาทำความสะอาดได้ แต่มีข้อเสียตรงที่ให้ความร้อนได้ช้ากว่าเครื่องทำน้ำอุ่นชนิดอื่น อายุการใช้งานสั้น แต่ราคาถูกและประหยัดไฟกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นประเภทอื่นๆ

1. สำรวจความต้องการการใช้งาน

การสำรวจความต้องการของตัวเองหรือผู้ใช้งานในบ้าน ก่อนซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นจะช่วยให้เลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่ถูกใจได้เจอเร็วที่สุด เพราะสมาชิกของแต่ละครอบครัวมีพฤติกรรมการใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นแตกต่างกันออกไป

แต่หากต้องการประหยัดไฟ ราคาไม่สูงจนเกินไป แนะนำให้ใช้เครื่องทำน้ำอุ่น 1 ตัว : 1 จุด ควรเลือกประเภท Single Point ที่กินไฟต่ำ เพราะหากเลือกประเภท Multi Point จะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นเครื่องทำน้ำร้อนที่ให้ความร้อนได้หลายจุด ทำให้ใช้พลังงานไฟมากกว่า เหมาะกับการใช้ในห้องน้ำขนาดใหญ่หรือธุรกิจประเภทที่พักที่มีคนจำนวนมาก

2. เช็คกำลังไฟฟ้าจากมิเตอร์

โดยปกติแล้วการเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่ดี ควรจะเช็คก่อนว่ามิเตอร์ไฟที่บ้านมีกำลังไฟเท่าไหร่ หากเป็นมิเตอร์ไฟที่มีขนาด 5(15)A ควรเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังไฟไม่เกิน 3,500 วัตต์ หรือถ้าเป็นมิเตอร์ที่มีขนาด 15(45) ก็ควรเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ 4,500-6,000 วัตต์

3. เลือกหม้อต้มที่ประหยัดไฟ

การเลือกหม้อต้มของเครื่องทำน้ำอุ่น ถ้าต้องการประหยัดค่าไฟมากๆ และให้ความร้อนได้ดี ควรเลือกประเภทที่มีหม้อต้มภายในเครื่อง จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องความคงที่ของอุณหภูมิน้ำ ไม่เปลืองไฟ แต่ถ้าหากเลือกซื้อแบบหม้อต้มพลาสติก อาจต้องรอเวลาสักเล็กน้อยกว่าน้ำจะอุ่นได้ตามที่ต้องการ เนื่องจากการทำงานของหม้อต้มจะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิน้ำให้ร้อนขึ้ันตามลำดับ

4. มาตรฐานและเทคโนโลยีของเครื่องทำน้ำร้อน

โดยปกติแล้วการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟ จะมีมาตรฐานการเลือกจากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่ติดอยู่ตามเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ แต่ถ้าหากเป็นเครื่องทำน้ำอุ่นแล้ว ลองสังเกตรายละเอียดผลิตภัณฑ์ดูว่ามีเทคโนโลยีอะไรที่ช่วยประหยัดไฟเพิ่มเติมหรือไม่

อาทิ Aero Jet ของเครื่องทำน้ำอุ่น Stiebel Eltron ช่วยประหยัดไฟได้ถึง 40% เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ดึงเอาออกซิเจนในอากาศเข้ามาแทนที่น้ำ เรียกได้ว่าประหยัดทั้งไฟและน้ำไปพร้อม ๆ กัน

5. เลือกเครื่องทำน้ำอุ่นจากยี่ห้อ พร้อมบริการหลังการขาย

อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยการันตีได้ว่า คุณจะได้เครื่องทำน้ำอุ่นที่ดีและมีมาตรฐานประหยัดไฟได้จริง ก็คือการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีบริการหลังการขายที่ดี โดยเฉพาะการรับประกันสินค้าที่ครอบคลุม ที่สำคัญคือต้องติดต่อศูนย์บริการได้ง่าย จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำในการใช้งานที่ถูกต้องทันทีที่ต้องการ รวมถึงได้รับการแก้ไขปัญหาจากช่างที่มีความชำนาญ เมื่อเกิดเหตุขัดข้อง

การเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเลือกซื้อได้ด้วยตัวคนเดียว หากไม่มีข้อมูลด้านนี้มาก่อนเลย ให้มุ่งหาเครื่องทำน้ำอุ่นแบรนด์อันดับต้น ๆ ที่ชื่อคุ้นหูเอาไว้ก่อน จะได้มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ การรับประกัน ความปลอดภัย และการบริการหลังการขาย ส่วนเรื่องราคา ถ้าอยากเซฟเงินในกระเป๋าได้จริง และไม่เกินงบ คุณสามารถเช็คราคาเครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นต่าง ๆ ได้ที่ NocNoc.com