• DIY

  • Tips&Tricks

แปลงโฉมห้องให้สวยเหมือนใหม่ ด้วยการติดวอลเปเปอร์ด้วยตัวเอง

  • โดย NocNoc Writer

  • 195

Key Takeaways

  • อยากเปลี่ยนบรรยากาศห้องเก่าให้ดูใหม่ขึ้น โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและความเลอะเทอะเหมือนการทาสีห้อง อีกทั้งยังติดตั้งง่ายในเวลาอันสั้น แถมยังมีลวดลายให้เลือกมากมายตามสไตล์ที่ชอบ ดังนั้นการติดวอลเปเปอร์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
  • การคำนวณพื้นที่ในการติดตั้ง เลือกลวดลายวอลเปเปอร์ให้ลงตัวกับสไตล์ห้อง เตรียมผนังให้พร้อมก่อนลงมือติดวอลเปเปอร์ คือ ขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้เมื่อติดวอลเปเปอร์ด้วยตนเอง

อยากเปลี่ยนสีห้องนอนใหม่แต่กลัวเหม็นกลิ่นสีจนนอนไม่ไหว แถมเวลาทายังต้องคอยระวังไม่ให้สีไปโดนเฟอร์นิเจอร์ในห้องอีก การติดวอลเปเปอร์จึงเป็นตัวเลือกที่ใครหลายคนสนใจ เพราะติดตั้งได้สะดวกและง่ายกว่า อีกทั้งวอลเปเปอร์ติดผนังห้องยังมีลวดลายและพื้นผิวให้เลือกเยอะตามสไตล์ที่ต้องการ วันนี้ NocNoc จึงรวบรวมขั้นตอนการติดวอลเปเปอร์เองมาฝาก เพื่อให้ทุกคนสามารถติดวอลเปเปอร์ได้อย่างมืออาชีพ

การติดวอลเปเปอร์ดีกว่าการทาสียังไง?

  • ไร้กังวลเรื่องกลิ่นและความเลอะเทอะ เพราะการติดวอลเปเปอร์จะไม่ทิ้งกลิ่นไว้หลังติดตั้งเสร็จ แถมยังไม่ต้องกังวลว่าพื้นห้องหรือเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในห้องจะเปื้อนเหมือนการทาสี 
  • ติดตั้งง่ายและสามารถทำเสร็จได้ในเวลาอันสั้น หากใครต้องการแต่งห้องใหม่แต่อยากประหยัดงบจ้างช่างทาสี แนะนำให้ติดวอลเปเปอร์เอง เพราะสะดวกและทำง่ายกว่า อีกทั้งยังสามารถเข้าอยู่ได้ทันที ไม่ต้องรอกลิ่นจางเหมือนการทาสี
  • ช่วยปกปิดความไม่เรียบเนียนของผนังห้อง การติดวอลเปเปอร์จะช่วยบดบังร่องรอยต่าง ๆ ทั้งรอยขรุขระจากการฉาบปูนไม่ดี รอยแตกร้าวจากการผสมปูนไม่ได้สัดส่วน หรือรูที่เกิดจากการเจาะ
  • ลดเสียงรบกวนได้ดีกว่าการทาสี ตอบโจทย์สำหรับบ้านทาวน์โฮมหรือชาวคอนโดที่ใช้ผนังร่วมกัน เนื่องจากมีวัสดุมาปูทับผนังเพิ่มอีกชั้น จึงช่วยป้องกันไม่ให้เสียงจากห้องเราไปรบกวนห้องอื่น แถมยังช่วยลดเสียงรบกวนจากห้องข้าง ๆ ได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย
  • มีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งแบบสีพื้นสไตล์เรียบ ๆ สีพื้นที่มีกลิตเตอร์ หรือแบบมีลวดลาย อย่างลายกราฟิกสไตล์เท่ ๆ ลายก้อนเมฆที่ดูน่ารัก ซึ่งช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม

หลังจากที่รู้ข้อดีของการติดวอลเปเปอร์กันไปแล้ว ตามมาดูขั้นตอนและวิธีการติดวอลเปเปอร์เอง ว่าต้องทำหรือเตรียมตัวยังไง เพื่อให้ได้วอลเปเปอร์ที่สวยเป๊ะเหมือนช่างมาเอง

ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนติดวอลเปเปอร์

1. คำนวณพื้นที่ในการติดตั้ง

แน่นอนว่าก่อนจะเริ่มติดวอลเปเปอร์จะต้องวัดความกว้างและความสูงของผนังที่ต้องการจะติดวอลเปเปอร์เสียก่อน ซึ่งขนาดวอลเปเปอร์ที่นิยมมากที่สุด คือ ขนาด 0.53 x 10.05 ม. เพราะเป็นไซซ์ที่ติดง่ายที่สุด โดย 1 ม้วนจะติดได้ประมาณ 5.3 ตารางเมตร ซึ่งวิธีการหาจำนวนม้วนวอลเปเปอร์ที่ต้องการแบบง่าย ๆ คือ 

 

[ ความกว้างของผนัง (เมตร) x ความสูงของผนัง (เมตร) ] ÷ 5.3
(*หากผลลัพธ์ออกมาเป็นเศษให้ปัดขึ้น)

 

ตัวอย่างเช่น ห้องกว้าง 3.5 เมตร สูง 3 เมตร พื้นที่ผนังด้านนั้นก็จะเป็น 3.5 x 3 = 10.5 ตารางเมตร ให้เอา 10.5 ÷ 5.3 = 1.98 ซึ่งหมายความว่าผนังห้องฝั่งนั้นต้องใช้วอลเปเปอร์ทั้งหมด 2 ม้วนด้วยกัน

2. เลือกลายวอลเปเปอร์ติดผนังห้อง

จะติดวอลเปเปอร์เองทั้งทีต้องเลือกแบบที่ถูกใจเสียก่อน ซึ่งในปัจจุบันมีวอลเปเปอร์ให้เลือกมากมายหลายแบบ 

  • สีพื้น ถ้าชอบความเรียบง่ายและความคลาสสิก หรือเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายเยอะแล้ว วอลเปเปอร์ติดผนังห้องสีพื้นจะช่วยให้ภาพรวมของห้องไม่ดูลายตาจนเกินไป
  • มีลวดลาย หากชอบความเยอะความดีเทล หรือดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์ในห้องมีแต่แบบเรียบ ๆ วอลเปเปอร์ที่มีลวดลายก็จะเข้ามาช่วยให้ห้องดูน่าสนใจมากขึ้น
  • มีผิวสัมผัส มีให้เลือกทั้งแบบผิวขรุขระและผิวนูนแบบสามมิติ ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบความแตกต่างและอยากแต่งห้องให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

โดยให้อิงจากความชอบและความต้องการของเจ้าของห้องเป็นหลักและเพื่อความลงตัวควรเลือกลายวอลเปเปอร์ที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องด้วยเช่นกัน

3. เตรียมผนังก่อนเริ่มติดวอลเปเปอร์

  • ขัดผนังและทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการเตรียมพื้นผิวผนังห้องให้พร้อมกับการติดตั้งวอลเปเปอร์ สามารถใช้กระดาษทรายขัดบริเวณที่มีความขรุขระ และเช็ดผนังด้วยผ้าชุบน้ำหมาด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นบนผนัง 
  • ซ่อมแซมผนังที่ชำรุดให้เรียบร้อย โดยเฉพาะในบริเวณที่มีรอยแตกร้าว น้ำรั่วซึม หรือเชื้อรา เพื่อยืดอายุวอลเปเปอร์ให้ยาวนานมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันความเสียหายของผนังในระยะยาว
  • ถอดปลั๊กไฟและกรอบของเต้ารับออก เพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดวอลเปเปอร์ และช่วยให้ติดวอลเปเปอร์ได้เป๊ะมากยิ่งขึ้น

อุปกรณ์ที่ต้องมีเวลาติดวอลเปเปอร์เอง

  • ตลับเมตรและดินสอ เพื่อใช้คำนวณพื้นที่และวัดความยาวของวอลเปเปอร์ที่ต้องการใช้ เพื่อให้ตัดวอลเปเปอร์ได้อย่างพอดี
  • คัตเตอร์ สำหรับตัดวอลเปเปอร์ ซึ่งแนะนำให้ใช้คัตเตอร์ที่มีความคมหรือคัตเตอร์ใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ขอบของวอลเปเปอร์เป็นขุย 
  • บันได เพื่อใช้ปีนขึ้นไปติดบริเวณผนังด้านบนของห้อง และเพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ใช้บันไดที่มีความแข็งแรงและมั่นคง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
  • ผ้ารองกันเปื้อน ใช้สำหรับรองบริเวณพื้นรอบห้อง เพื่อป้องกันกาวหยดลงบนพื้น

ภาพ: อุปกรณ์สำหรับการติดวอลเปเปอร์เอง

  • กาวสำหรับติดวอลเปเปอร์ ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบน้ำ แบบผง และแบบสำเร็จรูป
  • ลูกกลิ้ง สำหรับใช้จุ่มกาวเพื่อทาลงบนผนังห้องหรือหลังวอลเปเปอร์ เพื่อย่นเวลาในการทากาว แถมยังได้กาวที่เนียนเรียบสม่ำเสมอ
  • แปรง สำหรับใช้ทากาวบริเวณขอบผนังห้อง เพื่อเพิ่มปริมาณกาวและทำให้วอลเปเปอร์อยู่แน่นทนนานมากยิ่งขึ้น
  • แผ่นไล่ลม ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะช่วยไล่อากาศและทำให้วอลเปเปอร์ติดผนังห้องได้อย่างเรียบเนียน
  • ลูกกลิ้งรอยต่อ ใช้สำหรับกดบริเวณรอยต่อของวอลเปเปอร์ให้เรียบแบบไม่มีรอยย่น

6 ขั้นตอนติดวอลเปเปอร์ด้วยตัวเอง

ภาพ: วัดผนังห้อง

ขั้นตอนที่ 1: เอาความกว้างของวอลเปเปอร์ติดผนังห้องที่ซื้อมาไปวัดกับผนังที่ต้องการเพื่อมาร์คจุด ช่วยให้รู้ว่าผนังห้องฝั่งนั้น ๆ ต้องใช้วอลเปเปอร์ทั้งหมดกี่แผ่น 

ภาพ: ตัดวอลเปเปอร์

ขั้นตอนที่ 2: ลงมือตัดวอลเปเปอร์ด้วยคัตเตอร์ เพื่อให้ได้วอลเปเปอร์ติดผนังห้องที่มีความยาวพอดีกับความต้องการ โดยให้ตัดตามจำนวนแผ่นที่ร่างเอาไว้

ภาพ: ทากาวลงวอลเปเปอร์

ขั้นตอนที่ 3: หลังจากนั้นให้ใช้ผ้ารองกันเปื้อนปูพื้นห้อง จากนั้นนำแผ่นวอลเปเปอร์คว่ำลง ใช้ลูกกลิ้งจุ่มกาวและทาลงด้านหลังวอลเปเปอร์ทีละแผ่นให้พอหมาด

ภาพ: ทากาวที่ผนังห้อง

ขั้นตอนที่ 4: ก่อนลงมือติดวอลเปเปอร์ให้ใช้แปรงที่เตรียมไว้จุ่มกับกาว แล้วทาไปที่ขอบผนังห้อง เพื่อความแน่นของวอลเปเปอร์

ภาพ: ติดวอลเปเปอร์เอง

ขั้นตอนที่ 5: เริ่มแปะวอลเปเปอร์ติดผนังห้องตามจุดที่มาร์คเอาไว้ โดยเริ่มแปะจากขอบด้านบนของห้อง กดวอลเปเปอร์ให้แน่นและให้ใช้แผ่นไล่ลมค่อย ๆ รีดเพื่อไล่อากาศออก เมื่อเสร็จให้ทำตามขั้นตอนเดิมวนไปเรื่อย ๆ จนครบทั้งผนัง

ภาพ: เก็บรายละเอียดวอลเปเปอร์ติดผนัง

ขั้นตอนที่ 6: เมื่อทำครบแล้วให้ใช้ลูกกลิ้งรอยต่อ กลิ้งบริเวณขอบวอลเปเปอร์อย่างเบามือเพื่อไม่ให้กาวปลิ้นออกมา แล้วให้ใช้คัตเตอร์ตัดวอลเปเปอร์ส่วนเกินออก อย่างขอบหน้าต่างและขอบปลั๊ก จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้กาวแห้งอย่างน้อย 15-30 นาที เป็นอันเสร็จ

ทั้งหมดนี้ คือ วิธีการติดวอลเปเปอร์เองแบบง่าย ๆ เพื่อเปลี่ยนลุคใหม่ให้ห้องเก่าของคุณ แต่หากใครกลัวพลาดหรือไม่มีเวลาทำเอง สามารถใช้บริการติดวอลเปเปอร์จากช่างมืออาชีพ ช่วยให้คุณไม่ต้องเหนื่อยออกแรงเอง มั่นใจได้ด้วยรีวิวจากลูกค้าจริง และหากเกิดปัญหาก็มีทีมงานคอยช่วยเหลือ แถมยังมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายทั้ง QR payment, E-Banking และบัตรเครดิต

ส่วนใครที่กำลังอยากเปลี่ยนบรรยากาศห้องนั่งเล่นหรืออยากได้ไอเดียแต่งห้องนอนสวย ๆ เหมือนในซีรีย์เกาหลี สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน NocNoc มาไว้ในมือถือ เพื่อพบกับฟังก์ชันเจ๋ง ๆ อย่าง Your Style Quiz ที่ช่วยค้นหาสไตล์การแต่งบ้านที่ใช่ และฟังก์ชัน Inspiration Feed ที่รวบรวมไอเดียที่หลากหลายเพื่อบ้านในฝันของคุณ

NocNoc Writer

กองบรรณาธิการ NocNoc ที่อยากถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับบ้าน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนสามารถสร้างบ้านในฝันให้เป็นจริง