• Tips&Tricks

เทียบชัดๆ ที่นอนสปริง VS ที่นอนยางพารา ต่างกันอย่างไร

  • โดย NocNoc Writer

  • 385

เพราะการเลือกซื้อที่นอนมีข้อควรรู้ในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะกับวัสดุในการผลิตที่นอนที่ส่งผลต่อสุขภาพในการนอนของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน หากเลือกไม่เหมาะสมกับสรีระ และปัญหาการนอนจะส่งผลให้การนอนหลับในแต่ละคืนไม่มีประสิทธิภาพในระยะยาว 

อย่าง ที่นอนสปริง และที่นอนยางพารา ที่มีคุณสมบัติข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกประเภทของที่นอนให้เหมาะสม แต่จะเลือกที่นอนยางพารา vs ที่นอนสปริง อย่างไรนั้น NocNoc.com มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่นอนมาฝากทุกบ้านกัน

ที่นอนสปริง คืออะไร ?

ที่นอนสปริง เป็นที่นอนที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะตามสถานที่พักผ่อนอย่างโรงแรม เพราะให้ความนุ่มสบาย ยืดหยุ่น คืนตัวได้เป็นอย่างดี ราคาย่อมเยา สามารถรองรับสรีระในการนอน ลดการกดทับ โดยเฉพาะกับผู้ที่ชอบนอนตะแคง

โดยภายในที่นอนสปริง ประกอบไปด้วยโครงสร้างหลัก คือ ลวดสปริงที่อยู่บริเวณตรงกลางที่นอน และวัสดุที่ใช้วางบนลวดสปริงเพื่อใช้สำหรับรองรับการนอน ซึ่งที่นอนสปริง แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

1. บอนแนลสปริง (Bonnell Spring and Offset Spring)

เป็นที่นอนสปริงที่มีความยืดหยุ่นสูง รองรับการกระจายน้ำหนักได้ดี และมีความแข็งแรง เพราะภายในเป็นสปริงแบบต่อเนื่อง ที่มีลักษณะเป็นทรงกรวย 2 อันต่อกัน ช่วยรองรับสรีระขณะนอนได้อย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนบนที่นอนที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย ไม่แข็งหรือแน่นจนเกินไป แต่มีความแข็งแรงและทนทาน แถมราคาไม่แพงมาก แต่ทั้งนี้ก็มีข้อเสียเพราะด้วยตัวสปริงที่ยึดติดกันทั้งแผ่นนั้น ระหว่างการนอนอาจเกิดการสั่นสะเทือนได้ ในกรณีที่คนข้าง ๆ ขยับตัว

2. พ็อคเก็ตสปริง (Pocket Spring)

เป็นที่นอนสปริงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะภายในเป็นตัวสปริงที่ทำงานแยกจากกันอย่างอิสระ จึงช่วยลดแรงกดทับ ไม่กระจายน้ำหนักไปยังบริเวณอื่น ทำให้เตียงไม่สั่นสะเทือน และมีความยืดหยุ่นรองรับกับสรีระร่างกายที่แตกต่างกัน แถมในกรณีที่เตียงเกิดความเสียหาย สามารถเปลี่ยนตัวสปริงได้ทีละตัว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งแผงสปริง

โดยราคาและคุณภาพของที่นอนสปริงแต่ละประเภทนั้นขึ้นอยู่กับสปริงที่อยู่ภายใน ซึ่งก็มีหลากหลายรุ่น และหลากหลายแบรนด์ให้เลือกใช้งาน 

3 รุ่นที่นอนสปริงนุ่น นอนหลับสบาย

1. Slumberland Presia ที่นอนสปริงระบบ Posture Spring System PS1200

ที่นอนสปริง Presia รุ่นนี้ เป็นที่นอนสปริงระบบ Posture Spring System PS1200  ที่ช่วยกระจายน้ำหนักระหว่างการนอนหลับได้เป็นอย่างดี ตัวที่นอนเสริมด้วย Durafoam 2 ชั้น ทำให้ที่นอนมีความหนาถึง 11 นิ้ว ช่วยลดการกดทับ หุ้มด้วยผ้าที่เคลือบสารป้องกันไรฝุ่น เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพทางเดินหายใจ หรือโรคภูมิแพ้

2. ที่นอนระบบพ็อกเกตสปริง Synda รุ่น Posture Hestia

สำหรับที่นอนสปริงระบบพ็อกเกตสปริง Synda รุ่น Posture Hestia มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะได้รับการยอมรับจากแพทย์ด้านกระดูกสันหลัง (Orthopedic) ในยุโรปว่า สามารถรองรับสรีระร่างกายได้ถึง 7 ส่วน คือ ไหล่ เอว หลังส่วนบน สะโพกส่วนบน สะโพกส่วนล่าง ต้นขา และต้นขาส่วนล่าง จึงทำให้รู้สึกสบายทุกครั้งที่นอน

ตัวเนื้อผ้าหุ้มที่นอนสปริงเป็นผ้ายืด นุ่มสบายทุกการสัมผัส แถมยังช่วยป้องกันฝุ่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และลดกลิ่นอับชื้นให้รู้สึกสดชื่นได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับ คนขี้ร้อนที่บางครั้งระหว่างการนอนมีเหงื่อออก และผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้

3. ที่นอนสปริงรุ่น LOFT

ที่นอนสปริงรุ่น LOFT เป็นที่นอนสปริงประเภท BONNEL SPRING เสริมด้วยแผ่นรองนอนด้านบนชนิด POLYETHYLENE (PE) ที่ช่วยรองรับน้ำหนัก และลดแรงต้านขณะการนอนได้เป็นอย่างดี จึงไม่ทำให้รู้สึกสั่นสะเทือนมากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนบนที่นอนที่มีความนุ่มสบาย ช่วยลดปัญหาอาการภูมิแพ้ เพราะผ้าหุ้มเคลือบด้วยสารกันไรฝุ่น และแบคทีเรีย แถมราคายังย่อมเยามีให้เลือกตั้งแต่ 3 – 6 ฟุต

ที่นอนยางพารา คืออะไร ?

ที่นอนยางพาราเป็นที่นอนเพื่อสุขภาพ เพราะให้ความนุ่มและแน่นเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง หรือมีปัญหาสุขภาพระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกับผู้สูงวัยส่วนใหญ่จะเลือกใช้ที่นอนยางพารา ซึ่งมีให้เลือกใช้งาน 3 ประเภท คือ

1. ที่นอนยางพาราแท้

เป็นที่นอนที่ไม่มีส่วนผสมของวัสดุอื่นใด ๆ ตัวที่นอนมีความหนาแน่น ความยืดหยุ่น และน้ำหนักมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนบนเตียงนุ่มแน่น ที่ให้ความรู้สึกสบายไม่ปวดหลัง

2. ที่นอนยางพารา แบบ Hybrid

ที่นอนยางพาราประเภทนี้จะมีส่วนประกอบของวัสดุอื่น ๆ ผสมเป็นโครงสร้างอยู่ แต่บริเวณชั้นบนจะเป็นยางพารามีความหนาแน่น และความทนทานไม่แพ้ที่นอนยางพาราแท้ แต่ทั้งนี้คุณภาพของที่นอนยางพาราแบบ Hybrid ขึ้นอยู่กับโครงสร้างภายในที่แตกต่างกัน ของแต่ละแบรนด์ แต่ยังคงเป็นที่นอนเพื่อสุขภาพ ที่ช่วยกระจายน้ำหนัก และรองรับสรีระได้ดีโดยเฉพาะผู้ที่ชอบนอนตะแคงข้าง บริเวณไหล่จะไม่จม ทำให้ลดอาการปวดเมื่อยบริเวณแขน และไหล่ให้ลดลงได้

ตัวที่นอนมีความนุ่ม และน้ำหนักเบากว่าที่นอนยางพาราแท้ บางแบรนด์นอนแล้วรู้สึกเย็นสบาย เพราะภายในที่นอนมีส่วนประกอบของแผ่น Cool gel ที่ช่วยเพิ่มความเย็นสบายระหว่างการนอน ก่อนการเลือกซื้อจึงจำเป็นต้องดูวัสดุภายใน เพื่อให้ได้ที่นอนที่ตอบโจทย์ปัญหาการนอนที่แตกต่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ที่นอนยางพาราแบบอัด

เป็นที่นอนที่มีความหนาแน่นสูง แต่จะมีความแข็ง และมีความยืดหยุ่นน้อย เพราะด้วยการผลิตเป็นการนำเอาเศษชิ้นส่วนของยางพารามาอัดแน่น จึงเหมาะกับผู้ที่ชอบนอนที่นอนที่แน่น และมีงบประมาณที่จำกัด 

ที่นอนยางพารามีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลายไม่แพ้ที่นอนสปริง เพราะปัจจุบันหลาย ๆ ครอบครัวมักจะมีปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยเนื่องจากการนั่งทำงาน หรือการนอนบนที่นอนเก่าที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งจะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น NocNoc.com มี 3 รุ่นที่นอนยางพารามาแนะนำกัน

3 รุ่นที่นอนยางพารา ลดอาการปวดเมื่อย

1. ที่นอนยางพารา Lunio Gen2

เพื่อช่วยลดอาการปวดหลังจากการตื่นนอน ที่นอนยางพารา Lunio รุ่น Gen2 ที่นอนยางพาราไฮบริด ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสุขภาพ ช่วยรองรับสรีระตามหลักสรีรศาสตร์ โดยผสานเทคโนโลยีพิเศษจากยางพาราแท้ 100% และเมมโมรี่โฟม ช่วยให้การนอนเป็นเรื่องง่าย รู้สึกเย็นสบาย หลับสนิทเพิ่มขึ้นถึง 30% ไม่ว่าคนข้าง ๆ จะพลิกตัวสักกี่ครั้งก็ไม่ทำให้คุณรู้สึก 

ผ้าคลุมเตียงให้สัมผัสที่เย็นสบาย ช่วยระบายอากาศได้เป็นอย่างดี อ่อนโยนทุกการสัมผัส แถมยังช่วยลดการเกิดไรฝุ่น และฝุ่นละอองบนที่นอนอีกด้วย

2. Topper ที่นอนยางพารา รุ่น Grand Firma Latex L

Topper ที่นอนยางพารารุ่น Grand Firma Latex อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นของผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอน โดยเฉพาะอาการปวดหลัง เพราะเป็นท็อปเปอร์ที่ให้ความรู้สึกนุ่มแน่น นอนสบาย เพราะเป็นท็อปเปอร์ ที่นอนยางพาราแบบอัดแน่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีที่นอนเดิมที่มีสภาพดีอยู่ แต่ไม่มีคุณสมบัติในการช่วยลดปัญหาสุขภาพ การหาตัวช่วยท็อปเปอร์ที่นอนยางพารามาปูทับนอกจากจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยด้วยแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

3. ที่นอน Dunlopillo รุ่น Nottingham

เพื่อการนอนหลับที่ยาวนาน และช่วยปรับสมดุลน้ำหนักในระหว่างการนอนได้เป็นอย่างดี ที่นอน Dunlopillo รุ่น Nottingham ที่นอนยางพารา 100% รองรับทุกสรีระร่างกาย ลดการกดทับ ให้ความรู้สึกแน่นจึงหมดกังวลปัญหาอาการปวดเมื่อย และปรับระบบไหลเวียนโลหิตให้ดียิ่งขึ้น

ตัวเนื้อผ้าหุ้มชั้นนอก ช่วยระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ให้ผิวสัมผัสที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง และช่วยลดไรฝุ่น และฝุ่นละออง ด้วยสารเคลือบเพื่อสุขภาพ จึงไม่เกิดอาการแพ้

5 ความแตกต่างระหว่างที่นอนยางพารา vs ที่นอนสปริง

1. การกระจายน้ำหนัก

ภาพ: สัมผัสที่นอนเพื่อดูความนุ่ม และการกระจายน้ำหนักของที่นอน

     ความแตกต่างในการกระจายน้ำหนักของที่นอนยางพารา vs ที่นอนสปริง คือ  ที่นอนสปริงจะกระจายน้ำหนักเฉพาะส่วน รองรับน้ำหนักได้ไม่มากนัก ส่วนที่นอนยางพาราสามารถรองรับน้ำหนักของผู้นอนได้มาก เพราะสามารถกระจายน้ำหนักได้ทั่วทั้งที่นอน

2. น้ำหนักที่นอน

ภาพ: พับม้วนเก็บที่นอนสำหรับการขนย้าย

ที่นอนสปริงมีน้ำหนักเบากว่าที่นอนยางพารา จึงทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้าย แต่ไม่สามารถพับม้วนเก็บเหมือนที่นอนยางพารา เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายเนื่องจากวัสดุภายในเป็นลวดสปริง

3. ราคา

ภาพ: ป้ายราคา

เมื่อเปรียบเทียบเรื่องราคาที่นอนยางพารา ซึ่งเป็นที่นอนเพื่อสุขภาพจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าที่นอนสปริง เพราะด้วยคุณสมบัติและวัสดุในการผลิตที่เป็นธรรมชาติ รวมถึงความคงทน คุณภาพในการใช้งาน

4. ความแข็งแรงทนทาน

ภาพ: ที่นอนเกิดความเสียหาย

ที่นอนยางพารามีความทนทานที่สูงยุบตัวค่อนข้างยาก ช่วยลดแรงกดทับได้ดีกว่าที่นอนสปริง แต่ทั้งนี้หากรู้วิธีการดูแลรักษาไม่ว่าจะเป็นที่นอนยางพารา vs ที่นอนสปริงก็สามารถใช้งานได้ระยะยาวเช่นเดียวกัน

5. ป้องกันไรฝุ่น เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน

ภาพ: ไรฝุ่นบนที่นอน

ที่นอนยางพารามีคุณสมบัติป้องกันไรฝุ่นได้ดีกว่าที่นอนสปริง เพราะวัสดุในการผลิตที่นอนสปริงส่วนใหญ่เป็นวัสดุสังเคราะห์ ซึ่งแตกต่างจากที่นอนยางพาราที่เป็นวัสดุจากธรรมชาติ

ที่นอนยางพารา vs ที่นอนสปริง เลือกใช้แบบไหนดีกว่ากัน

ภาพ: เตียงนอนในห้องนอน

ไม่ว่าจะเป็นที่นอนสปริง vs ที่นอนยางพาราก็เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการนอนที่แตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหา และความต้องการ เช่น 

  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ หรืออยู่ในช่วงวัยผู้สูงอายุ อาจจะเลือกนอนที่นอนยางพาราที่มีความนุ่มแน่น ไม่นิ่มจนเกินไป เพื่อแก้ปัญหาอาการปวดเมื่อยได้อย่างตรงจุด 
  • สำหรับผู้ที่ชอบนอนบนที่นอนที่ให้ความนุ่ม สบาย หรืออยู่ในช่วงวัยรุ่น หรือเด็ก ๆ ที่นอนสปริง ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการนอนพักผ่อน 

สรุปเปรียบเทียบที่นอนยางพารา VS ที่นอนสปริง

แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้ที่นอนแบบไหน สิ่งสำคัญที่สุดก่อนการเลือกซื้อที่นอน คือ ต้องไปลองสัมผัส ลองนอนบนที่นอนว่าเหมาะสมกับสรีระหรือไม่ เพราะที่นอนเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องใช้งานในทุก ๆ วัน และมีอายุในการใช้งานที่ยาวนาน จึงจำเป็นต้องเลือกที่นอนที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่นอนคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นที่นอนสปริง หรือที่นอนยางพารา ที่ช่วยให้การนอนหลับเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย ลดปัญหาสุขภาพ พร้อมดีลโปรโมชั่นสุดคุ้ม และบริการติดตั้ง ต่อเติม ซ่อมแซมจากช่างผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่ NocNoc.com เคาะจบทุกเรื่องบ้าน ให้บ้านเป็นเรื่องง่าย ครบ จบ ในที่เดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง