• Tips&Tricks

6 วิธีเลือกเครื่องดูดควัน เปลี่ยนห้องครัวเหม็น ให้สดชื่น

  • โดย NocNoc Writer

  • 23

ครัวเหม็น ปัญหาชวนปวดหัว ที่บางครั้งส่งกลิ่นฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ชวนให้เสียบรรยากาศ เพราะภายใน ห้องครัว ไม่ได้ติดตั้ง เครื่องดูดควัน เพื่อระบายกลิ่นไม่พึงประสงค์ระหว่างการทำอาหารในแต่ละมื้อ 

ภาพ: เครื่องดูดควัน

หนึ่งในเหตุผลที่หลาย ๆ บ้านเลือกที่จะไม่ติดตั้งเครื่องดูดควัน อาจเป็นเพราะไม่รู้ว่าจะ เลือกเครื่องดูดควัน แบบไหนที่จะสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และตอบโจทย์งานครัวที่แตกต่างกัน 

วันนี้ NocNoc.com เลยมีเทคนิค วิธีเลือกเครื่องดูดควัน ที่เหมาะสมกับห้องครัวที่มีการใช้งานที่แตกต่างกันไปของแต่ละบ้านมาแนะนำ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อ เลือกใช้กัน 

ทำไมครัวต้องติดตั้งเครื่องดูดควัน?

เพราะ เครื่องดูดควัน คือหนึ่งใน เครื่องใช้ไฟฟ้า ตัวช่วยของครอบครัวที่ชื่นชอบการทำอาหารไม่ว่าจะเป็นเมนูทอด ปิ้ง ย่าง หรือผัด ซึ่ง เครื่องดูดควัน มีหน้าที่ในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไขมัน ไอน้ำ และลดมลภาวะที่ไม่ดีจากการประกอบอาหารภายในห้องครัวให้หมดไป เพื่อให้คุณภาพอากาศ และบรรยากาศภายในบ้านสะอาด และสดชื่นมากยิ่งขึ้น 

รวมถึงลดการเกิดคราบต่าง ๆ โดยเฉพาะคราบเขม่าบน เฟอร์นิเจอร์ ให้น้อยลง แต่ทั้งนี้ประสิทธิภาพในการดูดควันก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของ ห้องครัว และประเภทของเครื่องดูดควัน ที่เลือกใช้งานว่ามีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการทำงานมากเพียงใด

เครื่องดูดควัน เลือกแบบไหนดี ? ช่วยคลายกลิ่นเหม็น

วิธีเลือกเครื่องดูดควัน จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก หากรู้หลักการที่ถูกต้อง เพราะด้วยฟังก์ชันการใช้งานเพียงหนึ่งเดียว คือทำหน้าที่ดูดกลิ่น และควันภายในห้องครัวให้หมดไป จึงมีไม่กี่ปัจจัยที่จะต้องคำนึงถึง เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน

1. ประเภทของ เครื่องดูดควัน เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน

เพราะเครื่องดูดควัน มีให้เลือกหลากหลายรุ่น หลากหลายดีไซน์ และหลากหลายประเภท จนบางครั้งไม่แน่ใจว่า แบบไหนที่เหมาะสม แต่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดูดควันประเภทไหน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึง คือ ประสิทธิภาพในการดูดกลิ่น และดูดควันให้หมดไป ซึ่งจะเลือกใช้ประเภทของ เครื่องดูดควัน แบบไหนนั้น มาทำความรู้จักกัน 

  • เครื่องดูดควันกระโจมกลางห้อง ( ISLAND HOOD)

ภาพ: เครื่องดูดควันกระโจมกลางห้อง หรือ ( ISLAND HOOD)

หากต้องการเน้นดีไซน์ ความสวยงาม ความแข็งแรง และประสิทธิภาพในการดูดกลิ่น และดูดควัน การเลือกใช้เครื่องดูดควันกระโจมกลางห้อง หรือคนทั่วไปมักเรียกว่า ISLAND HOOD คือทางเลือกที่ดีสำหรับห้องครัวขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มาก หรือเป็นครัวแบบฝรั่ง ที่มีการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวไว้กลางห้องสำหรับทำทุกเมนูจานโปรด ซึ่งการติดตั้งจะนิยมติดตั้งไว้กลางห้อง เพื่อความสวยงาม และตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานทุกงานครัว แต่จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงหากเปรียบเทียบกับเครื่องดูดควันประเภทอื่น ๆ  

  • เครื่องดูดควันติดผนัง (CHIMNEY HOOD)

ภาพ: เครื่องดูดควันติดผนัง ( CHIMNEY HOOD)

เครื่องดูดควัน ที่ได้รับความนิยม และถูกเลือกไปติดตั้งใช้งานมากที่สุดคงหนีไม่พ้น เครื่องดูดควันติดผนัง หรือ CHIMNEY HOOD เพราะเหมาะกับทุกสภาพครัวไม่ว่าจะเป็นห้องครัวที่มีพื้นที่มาก หรือพื้นที่น้อย แถมประสิทธิภาพในการใช้งาน และวัสดุของตัวเครื่องยังเทียบเท่าเครื่องดูดควันแบบกระโจม ในราคาที่ไม่สูงมากนัก

  • เครื่องดูดควันมาตรฐาน (SLIMLINE HOOD)

ภาพ: เครื่องดูดควันมาตรฐาน (SLIMLINE HOOD)

สำหรับห้องครัวที่มีพื้นที่อันจำกัด และคุณแม่บ้านไม่ค่อยได้ประกอบอาหาร โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม การเลือกติดตั้ง เครื่องดูดควันมาตรฐาน หรือ สลิมไลน์ เพื่อช่วยดูดกลิ่น คือ หนึ่งในวิธีแก้ไขปัญหาระหว่างการทำอาหารในแต่ละมื้อได้เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพในการดูดกลิ่น และควัน จะไม่เทียบเท่ากับ เครื่องดูดควันติดผนัง และเครื่องดูดควันแบบกระโจม

เพราะด้วยลักษณะการทำงานของ เครื่องดูดควัน ชนิดนี้ ที่มีให้เลือกติดตั้ง 2 ลักษณะ คือ

  1. แบบหมุนเวียนอากาศภายใน ซึ่งจะไม่ได้ดูดควัน และกลิ่นอาหารออกไปข้างนอก แต่จะทำหน้าที่กรองกลิ่น และควันด้วยแผ่นฟิลเตอร์ และแผ่นคาร์บอน ให้อากาศดีขึ้นกลับเข้ามาในห้องครัวอีกครั้ง 
  2. แบบต่อท่ออากาศด้านนอกอาคาร ระบบการทำงานจะคล้ายกับเครื่องดูดควันติดผนัง แต่ประสิทธิภาพในการดูดกลิ่น และควันจะน้อยกว่า

2. วัสดุที่ใช้ในการผลิต เพื่อความคงทน และยืดอายุในการใช้งาน

ภาพ: วัสดุในการผลิต เพื่อความคงทน และยืดอายุในการใช้งาน

วิธีเลือก เครื่องดูดควัน โดยเฉพาะวัสดุในการผลิต คือเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ เพราะวัสดุในการผลิตมีผลต่อการใช้งานในระยะยาว ซึ่งวัสดุที่เหมาะสมคงหนีไม่พ้น สแตนเลส แต่ควรเลือกสแตนเลส เนื้อดี ไม่เป็นสนิม ไม่ถูกกัดกร่อนง่าย และทำความสะอาดง่าย เช่น สแตนเลส AISI304

หากเลือกวัสดุในการผลิต เครื่องดูดควัน ที่มีคุณภาพต่ำ อาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ เพราะวัสดุบางชนิดไม่ทนต่อการกัดกร่อน จึงทำให้เกิดการระเหย กระเด็นไปยังอาหาร ทำให้เกิดการสะสมของสารเคมี ซึ่งส่งผลลบต่อสุขภาพของสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้

 

3. ขนาด และกำลังดูดอากาศของ เครื่องดูดควัน

ภาพ: ขนาด และกำลังดูดอากาศของ เครื่องดูดควัน

เมื่อได้ประเภท และวัสดุในการผลิตของ เครื่องดูดควันแล้ว ต่อมาคือการเลือก ขนาดของ เครื่องดูดควัน ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ 60 ซม. – 120 ซม. ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องครัว แต่ถ้าหากให้แนะนำวิธีที่ง่ายที่สุดในการเลือกขนาดของเครื่องดูดควัน คือ เลือกให้ขนาดสัมพันธ์กับขนาดของเตาแก๊ส หรือเตาไฟฟ้า ที่นำมาติดตั้งใช้งาน

ส่วนกำลังดูดอากาศของเครื่องดูดควัน ยิ่งกำลังในการดูดสูงเท่าไหร่ยิ่งแสดงถึงประสิทธิภาพในการดูดกลิ่น และควันมากเท่านั้น สำหรับบ้านที่ชอบทำอาหารบ่อยครั้งอาจจะจำเป็นต้องเลือกเครื่องดูดควันที่มีกำลังแรงดูดที่สูง แต่สำหรับบ้านที่ไม่ค่อยได้เข้าครัวทำอาหาร อาจจะเลือกกำลังแรงดูดในระดับปานกลางก็น่าจะเพียงพอ เช่น 450 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และ850 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง 

4. รูปลักษณ์ และดีไซน์ของเครื่องดูดควัน

ภาพ: รูปลักษณ์และดีไซน์ ของเครื่องดูดควัน
ภาพ: รูปลักษณ์และดีไซน์ ของเครื่องดูดควัน

เรื่องรูปลักษณ์ และดีไซน์ ของ เครื่องดูดควัน เป็นปัจจัยภายนอกที่สอดคล้องกับความชอบส่วนตัวของเจ้าของบ้าน และสไตล์การตกแต่งห้องครัวที่แตกต่างกันไป ซึ่งปัจจุบัน เครื่องดูดควัน มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลากหลายดีไซน์ที่สอดคล้องกับทุกสไตล์การตกแต่งห้องครัว

5. ฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานต้องครบ

ภาพ: ฟิลเตอร์กรองน้ำมันของเครื่องดูดควัน

หากต้องการได้ เครื่องดูดควัน ที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่นเหม็นภายในห้องครัว ควรเลือกเครื่องดูดควันที่มี ฟิลเตอร์กรองน้ำมัน และฟิลเตอร์คาร์บอน เพื่อทำหน้าที่ดูดซับกลิ่น ควัน และยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ภายในเครื่องดูดควันให้ยาวนานยิ่งขึ้น 

6. ฟังก์ชันเสริม ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย

ภาพ: ฟังก์ชันเสริมระบบ Touch Control ของเครื่องดูดควัน

นอกเหนือจากฟังก์ชันการใช้งานทั่วไปแล้ว หลาย ๆ บ้านก็กำลังมองหา เครื่องดูดควัน ที่มีฟังก์ชันการใช้งานเสริมเพื่อช่วยให้การทำอาหารในทุกมื้อเป็นเรื่องง่าย และสะดวกสบายมากกว่าที่เคยกันอยู่แน่ ๆ 

ส่วนใหญ่แล้วฟังก์ชันเสริมของ เครื่องดูดควันที่เพิ่มเติมขึ้นมาจะเน้นเรื่องนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ฟังก์ชันตั้งเวลาทำงานล่วงหน้า ฟังก์ชันควบคุมการทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่สามารถสั่งการได้ทุกที่ และทุกเวลาที่ต้องการ แต่อาจจะมีราคาที่สูงกว่าปกติ

ภาพ: เครื่องดูดควันกำลังทำงาน

เมื่อได้ทราบเคล็ดลับ วิธีเลือกซื้อเครื่องดูดควัน ช่วยคลายกลิ่นเหม็นให้ห้องครัวกันไปบ้างแล้ว ต่อมามาดูรุ่นของ เครื่องดูดควัน ที่น่าใช้งานในปี 2564  กันบ้างว่าจะมียี่ห้อไหนบ้าง  

รวม 5 เครื่องดูดควัน ที่น่าใช้งานในปี 2564

1. เครื่องดูดควัน LUCKY FLAME RG-971T 90cm.ดำ/สแตนเลส

หนึ่งใน เครื่องดูดควัน ติดผนัง ที่ยังคงได้รับความนิยมในการใช้งาน เพราะนอกจากจะช่วยดูดกลิ่นเหม็นของอาหารให้หมดไปได้แล้ว ยังช่วยเซฟค่าไฟในการใช้งานต่อเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเด่นเครื่องดูดควัน LUCKY FLAME

  •  ระบบควบคุมแบบ Touch screen 
  •  ปรับความเร็วได้ 3ระดับ เพื่อให้สะดวกสบายในการใช้งาน 
  • ดีไซน์ทันสมัย เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่งครัว
  • ลักษณะการหมุนของมอเตอร์เป็นแบบข้อเหวี่ยง กำลังแรงดูดอากาศออก 200 วัตต์ 

2. TEKA เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนัง รุ่น DSX 90 ขนาด 90 ซม. สี สแตนเลส

สำหรับบ้านที่ต้องการให้ห้องครัวมีเสน่ห์ และเข้ากับทุกการตกแต่ง เครื่องดูดควัน แบบกระโจมติดผนัง ของ TEKA รุ่นนี้ น่าจะตอบโจทย์ทั้งความสวยงาม และฟังก์ชันการใช้ที่สะดวกสบาย
จุดเด่น TEKA เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนัง รุ่น DSX 90

  •  มีแผงควบคุมการทำงานแบบปุ่มกดอิเล็กทรอนิกส์                                                                        
  •  มาพร้อมไฟส่องสว่าง LED 4 ดวง 
  •  สามารถปรับความแรงได้ถึง 3 ระดับ เหมาะกับบ้านที่ชอบการทำอาหารทุกมื้อ
  •  ตั้งเวลาหยุดการทำงานล่วงหน้าได้

3. TEKA เครื่องดูดควันแบบกระโจม รุ่น DVS 60 AD ขนาด 60 ซม.

เรื่องดีไซน์โดดเด่น ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานเสริม ตอบโจทย์คุณแม่บ้าน และคุณพ่อบ้านยุคดิจิตอล ต้องยกให้ TEKA เครื่องดูดควัน แบบกระโจม รุ่น DVS 60 AD เครื่องนี้ เพราะไม่เพียงแต่ดีไซน์ที่ทันสมัยช่วยให้ห้องครัวดูโมเดิร์นขึ้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส เพื่อสะดวกในการใช้งาน
จุดเด่น TEKA เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนัง รุ่น DVS 60 AD

  • โดดเด่นด้วยดีไซน์ Vertical Concept เชื่อมต่อการใช้งานอย่างไร้รอยต่อ
  • ระบบสัมผัส ง่ายต่อการใช้งาน
  • กำลังแรงดูดรวมสูงสุด 1,500 ลบ.ม./ชม.
  • คงแทน แข็งแรง ตัวเครื่องผลิตด้วยสแตนเลส AISI 304

4. เครื่องดูดควัน EVE แบบฝังรางเลื่อน รุ่น HS-T62C-60

สำหรับบ้าน หรือคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ภายในห้องครัวไม่มากนัก การติดตั้ง เครื่องดูดควัน แบบฝังรางเลื่อน เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องครัว คือวิธีที่ดีที่สุด โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งระบบต่อท่อดูดอากาศออกสู่ภายนอก และระบบหมุนเวียน เพื่อช่วยให้ประหยัดพื้นที่ และปรับอากาศภายในห้องที่เชื่อมต่อกันให้สะอาด และสดชื่นมากยิ่งขึ้น

จุดเด่น  เครื่องดูดควัน EVE แบบฝังรางเลื่อน รุ่น HS-T62C-60

  • ปรับระดับแรงลมได้ 2 ระดับ 
  • เปิดปิดด้วยระบบอัตโนมัติเมื่อเลื่อนแผงดูดควัน จึงช่วยให้สะดวก และง่ายต่อการติดตั้งใช้งาน
  • มีกำลังดูดกลิ่นและควัน เพื่อห้องสะอาดถึง 680 ลบ.ม./ชม. 
  • มาพร้อมแผ่นกรองไอน้ำมันอลูมิเนียมในตัว

5. เครื่องดูดควัน DYNAHOME ทรงเฉียงดีไซน์โมเดิร์น DH-218-VA Modern ดำ

เรื่องดีไซน์ความโมเดิร์น กับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ากับบ้านสมัยใหม่ คงหนีไม่พ้น เครื่องดูดควันรุ่น DH-218-VA Modern ที่รูปลักษณ์ด้านนอกเป็นโครงสร้างสแตนเลส มาพร้อมกระจกนิรภัย ที่ช่วยเพิ่มดีไซน์ให้กับห้องครัวหรูหรามากยิ่งขึ้น ประกอบกับตัวโครงสร้างสแตนเลส จึงทำให้ เครื่องดูดควัน มีความแข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

จุดเด่น เครื่องดูดควัน DYNAHOME 

  • ทำงานผ่านระบบสัมผัส  Touch Control 
  • สามารถ ตั้งเวลาการทำงานได้ 
  • สามารถเปิดพัดลมแยกการทำงาน ซ้าย-ขวา ได้ หรือเปิดระบบ เทอร์โบคู่พร้อมกันได้
  • มี กำลังแรงดูดกลิ่น และควันรวม 1,500 ลบ/ชม.

ไม่เพียงแต่จะรู้ วิธีเลือกเครื่องดูดควัน อย่างไรให้ช่วยคลายกลิ่นเหม็นเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่า คือ การหมั่นดูแลรักษา และตรวจเช็คสภาพหลังการใช้งานของเครื่องดูดควันทุกครั้ง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งหวังว่าการ เลือกเครื่องดูดควันในบทความนี้ จะช่วยให้การปรุงทุกเมนูอาหารในทุก ๆ มื้ออร่อย ถูกใจทุกคนในครอบครัว โดยไม่เป็นกังวลเรื่องกลิ่นเหม็นภายในห้องครัวที่พาลให้เสียบรรยากาศอีกต่อไป 

และสำหรับใครกำลังมองหาสินค้าตกแต่ง ห้องครัว และทุกห้องภายในบ้านที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ความต้องการ พร้อมดีลโปรโมชั่นสุดคุ้ม และบริการติดตั้ง ต่อเติม โดย ช่างผู้เชี่ยวชาญ คลิกเลยที่ NocNoc.com ผู้ช่วยเติมเต็มให้การตกแต่งบ้านเป็นเรื่องง่าย ครบ จบ ในที่เดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง