Wear Layer คืออะไร? ต่างจากความหนาของพื้น SPC อย่างไร?

โดยปกติแล้วในการเลือกซื้อ พื้น SPC ผู้คนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับความหนา (Thickness) ของพื้นมากเป็นพิเศษ แต่จริง ๆ แล้ว ความหนาไม่ใช่เพียงปัจจัยเดียวที่บ่งบอกถึงความแข็งแรงเท่านั้น แต่มีอีกส่วนประกอบหนึ่งที่เรียกว่า Wear Layer เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความคงทนให้กับวัสดุปูพื้นประเภทนี้ วันนี้ NocNoc.com จึงมีความรู้ดี ๆ มาฝากกันว่า Wear Layer คืออะไร ต่างจากความหนาอย่างไร และควรเลือกใช้อย่างไรจึงจะเหมาะสม

พื้น SPC (Stone Composite Floors) หรือที่รู้จักกันในเรียกกันหลาย ๆ ชื่อว่ากระเบื้องยาง SPC กระเบื้อง SPC หรือพื้นไม้ SPC  โดยพื้น SPC คือ วัสดุที่ใช้สำหรับปูพื้นภายในบ้าน ผลิตจาก PVC และแคลเซียมคาร์บอเนตหรือหินปูน จึงทำให้วัสดุปูพื้นที่ได้แข็งแรง ทนทาน ป้องกันปลวกและแมลงต่าง ๆ ทนต่อความร้อนและความชื้น ไม่ลามไฟ อีกทั้งยังมีลวดลายให้เลือกหลายแบบ เช่น พื้นลายไม้ พื้นลายหินอ่อน จึงเหมาะสำหรับติดตั้งได้แทบทุกห้องในบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว 

ปกติพื้น SPC ในท้องตลาด จะมีความหนาที่ 4-8 มม. ซึ่งการจะเลือกว่าควรใช้ความหนามากหรือน้อยนั้น ควรพิจารณาจากพื้นที่ที่ต้องการปูพื้น SPC หากต้องการปูในบริเวณห้องที่มีการสัญจรไม่มาก เช่น ห้องนอน สามารถเลือกพื้นที่มีความหนาไม่มากได้ แต่หากต้องการปูบริเวณที่มีการสัญจรผ่านอยู่บ่อยครั้ง เช่น โถงกลาง ห้องนั่งเล่น ก็ควรเลือกพื้นที่ความหนามาก เพื่อความสบายเท้าและการใช้งานที่ยาวนาน

เนื่องจากพื้น SPC ประกอบด้วยวัสดุต่าง ๆ ประกอบกันเป็นแผ่น และแบ่งได้เป็นชั้นต่าง ๆ ที่นำมาประกอบกันเป็นแผ่นปูพื้นที่แข็งแรงทนทาน โดยพื้น SPC สามารถแบ่งเป็น 5 ชั้นหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

1. UV Scratch Resistant เป็นชั้นบนสุดของพื้น SPC คือ ชั้นที่เคลือบด้วย PU ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและคราบสกปรก ป้องกันรังสี UV จากแสงแดด จึงช่วยให้พื้น SPC สวยงามเหมือนใหม่อยู่เสมอ
2. Wear Layer คือ ชั้นกันความสึกหรอ มีลักษณะเป็นแผ่นโพลีเมอร์ ช่วยป้องกันคราบสกปรกและรอยขีดข่วนเช่นเดียวกัน แต่เป็นชั้นที่ปกป้องพื้นได้มากกว่า UV Scratch Resistant 
3. Film Layer เป็นชั้นพิมพ์ลวดลายต่าง ๆ ลงบนพื้น SPC โดยมีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการใช้งาน โดยลวดลายที่ได้รับความนิยม ได้แก่ พื้นลายไม้ พื้นลายหินอ่อน
4. Core Layer เป็นชั้นที่ประกอบด้วย PVC แคลเซียมคาร์บอเนต (หินปูน) และสารประกอบอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพื้น SPC 
5. Foam Underlayment เป็นชั้นล่างสุดของพื้น SPC มีลักษณะเป็นแผ่นโฟมที่ช่วยดูดซับเสียง และยังทำให้พื้นผิวแน่นช่วยให้เดินแล้วสบายเท้ามากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าพื้น SPC นั้นจะมีส่วนประกอบอยู่หลายชั้น แต่สำหรับชั้นที่สำคัญที่สุดอย่าง Wear Layer ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่ช่วยให้กระเบื้องยาง SPC แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ตาม NocNoc.com ไปรู้จักกับ Wear Layer ให้มากขึ้นว่า คืออะไร ต่างจากความหนาและสำคัญต่อการเลือกพื้น SPC อย่างไร?

Wear Layer คือ ตัวเคลือบที่เคลือบอยู่บนพื้นผิวของพื้น SPC มีความหนาประมาณ 0.3-0.55 มม. ผลิตจากวัสดุประเภท PVC  ซึ่งความหนาของ Wear Layer คือค่าที่บอกความทนทานของพื้น ยิ่งค่า Wear Layer สูง ความแข็งแรงของพื้นก็มีความทนทานมาก ทนต่อรอยขีดข่วนและแรงกัดทับได้มาก

เนื่องจากความหนาของ Wear Layer คือ ค่าบ่งบอกความทนทาน และเป็นชั้นชั้นหนึ่งของพื้น SPC ดังนั้นหากแผ่นกระเบื้องยาง SPC มีเพียงความหนามากเพียงอย่างเดียว แต่มีค่า Wear Layer ต่ำ ก็จะได้แค่ความหนาแน่นของพื้นที่ช่วยให้เดินแล้วนุ่มสบายเท้า แต่ไม่ทนต่อรอยขีดข่วนเท่าที่ควร ทำให้พื้นเป็นรอยได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นควรเลือกพื้น SPC ที่มีค่า Wear Layer สูง จะช่วยให้ได้พื้นที่แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้อย่างยาวนาน หมดกังวลเรื่องรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากการเลือกซื้อพื้น SPC จากความหนาแล้ว ก็อย่าลืมนำ Wear Layer มาเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาพื้น SPC ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง มีชั้นความแข็งแรงหลายชั้น และมีค่า Wear Layer สูง คลิกเข้ามาได้เลยที่ NocNoc.com เราได้รวบรวมพื้น SPC แบรนด์คุณภาพ พร้อมบริการหาช่างปูพื้นผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าพื้นห้องที่ได้นั้นสวยงาม แข็งแรง ติดตั้งถูกหลักการ และใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นเสียหายที่ต้องซ่อมแซมให้ยุ่งยาก ให้ NocNoc.com เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบ้านในฝันด้วยงบประมาณที่จับต้องได้ไปพร้อมกับคุณ!