• Tips&Tricks

สุดยอดคู่มือเลือกพรมแบบฉบับคนช่างเลือก ครบจบในที่เดียว

  • โดย NocNoc Writer

  • 62

เปลี่ยนพื้นบ้านโล่งๆให้มีเสน่ห์และมีชีวิตชีวา ด้วยพรม เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งทุกห้องภายในบ้าน ที่ดูแล้วอาจไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่สำหรับคนรักบ้านที่ช่างเลือกแล้ว การมีคู่มือเลือกพรมเป็นตัวช่วยเพื่อให้ได้พรมปูพื้นห้องที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการ รวมถึงเข้าได้กับสไตล์การตกแต่งห้องนั้นคงจะดีไม่น้อย 

เพราะไม่เพียงความสวยงามของลวดลายพรมแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น การเลือกพรมยังต้องอาศัยความพิถีพิถัน และเทคนิคในการเลือก ซึ่งจะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้น NocNoc.com ได้รวบรวมมาไว้ใน สุดยอดคู่มือเลือกพรมแบบฉบับคนช่างเลือก ครบจบในที่เดียว มาไว้ให้แล้ว

สุดยอดคู่มือเลือกพรมแบบฉบับคนช่างเลือก ครบจบในที่เดียว

ภายในคู่มือการเลือกพรมของ Express Carpet ฉบับนี้จะช่วยให้การตกแต่งบ้านด้วยพรมปูพื้นห้องเป็นเรื่องง่าย ช่วยเพิ่มเสน่ห์ ได้พรมที่ตอบโจทย์การใช้งาน และที่สำคัญคุณจะกลายเป็นมืออาชีพในการเลือกพรมสักผืนเพื่อตกแต่งห้อง ส่วนจะมีรายละเอียดเรื่องไหนบ้างที่ต้องใส่ใจ มาดูกัน

ข้อที่ 1 : ขนาดพรมปูพื้น ต้องเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน

เริ่มกันที่ขนาดพรมปูพื้น เป็นเรื่องแรกที่ควรคำนึงถึงเลยก็ว่าได้ เพราะหากเลือกขนาดพรมปูพื้นผิดขนาดจะส่งผลต่อการจัดวางตกแต่งใช้งานภายในห้อง ทำให้ห้องดูไม่สวย ต้องซื้อผืนใหม่มาเปลี่ยน สิ้นเปลืองเวลา และค่าใช้จ่าย

 เบื้องต้นก่อนการเลือกซื้อพรมปูห้อง ควรวัดขนาดเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการจัดวางพรม และวัดระยะพื้นที่ที่ต้องการวางตกแต่งพรมให้ดีเสียก่อน โดยวัดระยะความห่างเปรียบเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง แล้วจึงเลือกขนาดของพรมที่ต้องการซึ่งขนาดพรมปูพื้น ที่เป็นมาตรฐานทั่วไปมีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับขนาดของเฟอร์นิเจอร์ พื้นที่ว่าง และความเหมาะสม 

เพราะพรมคือเสื้อผ้าของบ้าน ทางร้าน Express Carpet จึงได้คัดสรรให้มีขนาดมาตรฐานของพรมให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ S – XXL  การเลือกขนาดของพรมจึงไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด

ภาพ: ขนาดของพรมปูพื้น

  • ไซส์ S ขนาด 80 X 150 เซนติเมตร
  • ไซส์ M ขนาด 120 X 170 เซนติเมตร
  • ไซส์ L ขนาด 160 X 230 เซนติเมตร
  • ไซส์ L1 ขนาด 200 X 290 เซนติเมตร
  • ไซส์ XL ขนาด 240 X 340 เซนติเมตร
  • ไซส์ XXL ขนาด 300 X 400 เซนติเมตร

โดยหากต้องการขนาดที่แตกต่างจากนี้ สามารถนำพรมมาตัดต่อ หรือ สั่งทอได้

ข้อที่ 2 : ความยาวของเส้นใยพรม

ความยาวของเส้นใยพรม หรือเรียกง่าย ๆ ว่า พรมขนสั้น และพรมขนยาว มีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย ตั้งแต่ 4 มิลลิเมตร – 50 มิลลิเมตร ซึ่งต่างก็มีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน และสไตล์การออกแบบตกแต่งบ้าน 

  • พรมขนสั้น คือพรมที่เส้นใยยาวไม่เกิน 30 มิลลิเมตร เป็นพรมที่ดูแลรักษาง่าย สามารถซัก และดูดฝุ่นได้โดยไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องขนพรมหลุดร่วง ความสวยงามของพรมขนสั้นจะเน้นโทนสีและลวดลายที่เด่นชัดไปในสไตล์ใดสไตล์หนึ่งให้กับบ้าน
  • พรมขนยาว คือพรมที่เส้นใยพรมยาวกว่า 30 มิลลิเมตรขึ้นไป เป็นพรมที่ให้สัมผัสที่นุ่ม ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับบ้านโดยไม่ต้องแต่งเติม หลาย ๆ บ้านมักเข้าใจผิดว่า พรมขนยาวดูแลยาก และเก็บฝุ่น แต่หากเลือกพรมขนยาวที่มีคุณภาพสูง ใช้เส้นใย PP และ PE จะช่วยป้องกันขนพรมหลุดร่วง ง่ายต่อการทำความสะอาด ดูดฝุ่นได้เหมือนพรมขนสั้น

ข้อที่ 3 : สไตล์ และลวดลายของพรมปูพื้นห้องที่ชื่นชอบ

เพื่อเพิ่มความโดดเด่น และความสวยงามอย่างมีเสน่ห์ให้กับทุกห้องภายในบ้าน ด้วยสีและลวดลายของพรมปูห้องควรเลือกให้เข้ากับการตกแต่งห้อง เพื่อไม่ให้ดูโดดจนเกินไป 

  • สไตล์ Minimal 

 

ความเรียบง่าย น้อยชิ้น เน้นโทนสีเพียงไม่กี่สี คือ จุดเด่นของบ้านในสไตล์มินิมอล พรมปูพื้นห้อง ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศจึงควรเป็นพรมโทนสีอ่อน ที่ให้ความรู้สึกสบายตา โล่ง และโปร่ง อย่างพรมรุ่นฟีนิกซ์ (FENIX) สีเทา 

พรมรุ่นฟีนิกซ์ (FENIX)  เป็นพรมปูพื้นห้องผืนบาง ขนสั้น ที่ให้ความอบอุ่น นุ่มเท้าทุกการสัมผัส ผลิตจากเส้นใย PP Heatset ชนิดพิเศษทอแบบห่วงเพิ่มความนุ่ม ปกป้องพื้นผิว ทำความสะอาดง่าย เพราะด้วยลักษณะของพรมที่เป็นพรมผืนบาง หนาเพียง 4 มม. จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้

  • สไตล์ Scandinavian 

หากชื่นชอบการตกแต่งบ้านในสไตล์สแกนดิเนเวียน พรมปูพื้นห้อง รุ่นเกรซ (GRACE) ก็เข้าท่าไม่น้อย เพราะด้วยลวดลาย และโทนสี ที่ให้กลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ เมื่อนำไปวางตกแต่งคู่กับเฟอร์นิเจอร์โทนสีเขียวจะยิ่งเพิ่มความสดชื่นให้ภายในบ้านได้มาก

พรมปูห้องรุ่นเกรซ (GRACE) นำเข้าจากยุโรปทนทานในทุกสภาพอากาศ และแสงแดด แสงยูวี ใช้งานได้ทั้งพื้นที่ในร่ม และกลางแจ้ง เพราะผลิตจากเส้นใย PP Heatset ทอบางคล้ายเสื่อ ดูแลง่าย เพียงดูดฝุ่น หรือ สะบัดเบาๆ หากสกปรกมาก สามารถฉีดน้ำล้างและตากได้ เหมาะกับผู้ที่แพ้ฝุ่น หรือเป็นโรคภูมิแพ้ 

  • สไตล์ Artistic 

 

เปลี่ยนพื้นห้องให้โดดเด่นด้วยลวดลายงานศิลป์ในสไตล์ Artistic ที่ช่วยสะท้อนอารมณ์ให้รู้สึกผ่อนคลาย และมีเสน่ห์ด้วยพรมรุ่น Argentum (อาร์เกนตุ้ม)  พรมนำเข้าจากยุโรปที่เน้นดีไซน์ลวดลายหินหลากสีให้ความเป็นธรรมชาติ ในแบบที่ไม่เหมือนใคร

ตัวพรมผลิตจากเส้นใยพีพี ฮีทเซ็ตคุณภาพสูง ทอแน่นถึง 1,000,000 ฝีเข็มต่อตารางเมตร มีความหนากำลังดีที่ 11 มิลลิเมตร จึงง่ายต่อการดูแลรักษา และทำความสะอาด

  • สไตล์ Abstract 

 

โดดเด่นไม่ซ้ำใคร Abstract Style เน้นถ่ายทอดความเป็นตัวตน แปลกตา ที่ผสมผสานความเป็นโมเดิร์นเข้าได้อย่างลงตัว  ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นการใช้ภาพศิลปะ คือ จุดเด่นของการแต่งบ้านในสไตล์นี้

พรมปูพื้นห้องรุ่นแคนยอน (CANYON)  พรมที่มีความโดดเด่นเรื่องโทนสี สะดุดตา และมีความนุ่มแน่นสัมผัสสบายเท้า  ที่ผ่านการทอด้วยเส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นใยโพลีโพรไพลีนชนิดพิเศษ ทอแน่นถึง 1,000,000 ฝีเข็ม ต่อ ตร.ม. เล่นระดับสูงต่ำในตัว จึงได้ลวดลายที่สวยไม่ซ้ำใคร แถมยังง่ายต่อการดูแล

  • สไตล์ Modern 

 

บ้านที่ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เหมาะกับ พรมปูพื้นห้อง รุ่นซิร็อค (SIROC) สีเบจ เพราะสะท้อนความเป็นโมเดิร์นออกมาได้เป็นอย่างดี ทั้งความเรียบง่าย Mix & Match กับเฟอร์นิเจอร์สไตล์อื่นได้อย่างลงตัว แถมยังช่วยให้บ้านดูสว่างอย่างเป็นธรรมชาติ

พรมปูพื้นห้องรุ่นซิร็อค ผลิตจากเส้นใย PE ทอผสานกับเส้นใย PP ชนิดพิเศษที่ให้ความแข็งแรงทนทาน นุ่มและเงางาม  แฝงด้วยเสน่ห์และความอบอุ่นที่น่าหลงใหลในสไตล์โมเดิร์น

  • สไตล์ Modern Loft 

บ้านสไตล์ลอฟท์  ดิบ เท่ เน้นความเรียลของลวดลายวัสดุ และโทนสีเข้ม เช่น สีดำ สีน้ำตาล สีเทา พรมที่นำมาตกแต่งควรเป็นพรมที่มีลวดลายดิบ ๆ โทนสีเข้ม เช่น  พรมปูพื้นห้องรุ่นเทรนทิโน่ 

พรมรุ่นเทรนทิโน่เป็นพรมปูพื้นห้อง ที่ทอด้วยเส้นใยโพลีเอสเตอร์ 50% และโพลีโพรไพลีนอบร้อน 50% ลักษณะของพรมเป็น พรมขนสั้น แน่นนุ่ม ทนทาน เส้นใยไม่หลุดร่วง เพราะด้วยเทคนิคการทอเล่นระดับสูง-ต่ำ จึงหมดกังวลเรื่องการดูแลรักษา แถมได้ห้องสไตล์ลอฟท์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น

  • สไตล์ Luxury 

สะท้อนเสน่ห์ความหรูหราในการตกแต่งห้องด้วยพรมปูห้อง รุ่นเออเบิร์น พรมขนนุ่ม สีขาว พรมโทนสีหรูหรา ที่ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องให้น่าอยู่ และน่ามองยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องแต่งเติมด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ มากนัก

พรมปูพื้นห้องรุ่นเออเบิร์น ผลิตจากเส้นใย PE และ PP คุณภาพสูง เส้นใยยาว 50 มม. เพิ่มความหรูหราได้เป็นอย่างดี  ตัวเนื้อวัสดุพรมง่ายต่อการทำความสะอาด เพราะเส้นใยไม่หลุดร่วงง่ายเพิ่มความอบอุ่น นุ่มสบายทุกสัมผัส ได้อย่างเป็นธรรมชาติ 

  • สไตล์ Eco Friendly 

 

บ้านในสไตล์รักษ์โลก หรือ Eco Friendly ได้รับความนิยมไม่แพ้สไตล์การตกแต่งบ้านอื่น ๆ ในปัจจุบัน การตกแต่งจะเน้นความเป็นธรรมชาติ และคำนึงถึงกลิ่นอายของความยั่งยืน ที่เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นสามารถนำไปรีไซเคิล หรือดัดแปลงนำกลับมาใช้ใหม่ได้

พรมปูพื้นห้องรุ่นรีมิกซ์ (REMIX)  พรมนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยลดโลกร้อน เนื้อพรมผลิตจากเส้นใยรีไซเคิล PE ที่ใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิลถึง 122 ขวด ลักษณะของพรมเป็นผืนบาง ทอเล่นระดับสูงต่ำ ในดีไซน์เก๋ ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่น

ข้อที่ 4 : โทนสีของพรม ช่วยสร้างมิติให้ห้องโดดเด่น

โทนสีของพรมส่งผลต่อความรู้สึก และอารมณ์ในการอยู่อาศัยที่แตกต่างกัน ซึ่งมีหลากหลากเฉดที่เข้าได้กับดีไซน์การตกแต่งบ้าน โดยหลักแล้วจะเลือกโทนสีของพรมให้ตัดกับสีของพื้นบ้าน เช่น หากพื้นบ้านเป็นโทนสีอ่อน จะเลือกให้พรมโทนสีมืด หรือโทนสีสดใส แต่หากพื้นบ้านเป็นโทนสีเข้ม จะเลือกพรมโทนสว่างเพื่อไม่ให้ห้องดูมืดจนเกินไป

  • โทนสีมืด (Dark) เช่น สีน้ำตาล สีเทาเข้ม สีน้ำเงิน สีดำ ให้ความรู้สึกน่าค้นหา ดูภูมิฐาน น่าเชื่อถือและมีเสน่ห์ พรมสีเข้มยังช่วยขับพื้นห้องและเฟอร์นิเจอร์ให้ดูโดดเด่น มีมิติ แถมยังง่ายต่อการทำความสะอาดอีกด้วย 
  • โทนสีสว่าง (Light) เช่น สีขาว สีเบจ ให้ความรู้สึกสบายตา ช่วยให้ห้องสว่าง โปร่ง และกว้างขึ้น
  • โทนสีสดใส (Colorful) เช่น สีส้ม สีแดง สีน้ำเงิน หรือโทนสีตัดกันเช่น สีขาวดำ เพื่อเพิ่มความรู้สึกตื่นเต้น สนุกสนาน แต่อบอุ่นให้พื้นที่การอยู่อาศัย

ข้อที่ 5: ลักษณะการใช้งาน และเส้นใยของพรม

เส้นใยของพรมปูพื้นห้องมีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบ และผิวสัมผัสที่มีลักษณะแตกต่างกัน โดย Express carpet & Decor มีวัสดุของพรมที่เหมาะกับทุกการใช้  เลือกใช้งานได้ทั้ง Indoor และ Outdoor  เช่น

  • เส้นใยโพลีโพรไพลีน (Polypropylene) หรือ PP เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความทนทานสูง เนื้อสัมผัสนุ่มพอประมาณ สีไม่ซีดจางง่าย ไม่ขึ้นราเมื่อโดนความชื้น ดูแลง่ายเพราะเส้นใยไม่หลุดร่วง ราคาไม่สูง ผลิตได้ง่าย จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก  
  • เส้นใยโพลีเอสเตอร์ (Polyester) หรือ PE เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีขนาดเล็ก ละเอียด นุ่มและเงางามกว่า PP แต่ทนทานน้อยกว่าและราคาสูงกว่า  สีไม่ซีดจางง่าย ไม่ขึ้นรา ให้สัมผัสนุ่มสบาย เหมาะสำหรับวางในห้องสไตล์หรูหรา และสไตล์โมเดิร์น ทำความสะอาดง่าย ไม่เก็บฝุ่น
  • เส้นใยอะคริลิค (Acrylic) เป็นเส้นใยสังเคราะห์คล้ายขนแกะ  ให้ความนุ่มและทนทาน แต่เส้นใยจะหลุดร่วงในช่วงแรกๆของการใช้งาน ราคาจะสูงกว่า PP และ PE  สีไม่ซีดจางง่าย ไม่ขึ้นรา ให้สัมผัสนุ่มสบาย สั่งทอได้ตามดีไซน์ที่ต้องการ เหมาะสำหรับวางในห้องสไตล์หรูหรา และสไตล์โมเดิร์น ทำความสะอาดง่าย ไม่เก็บฝุ่น
  • เส้นใยไนลอน (Nylon) เป็นเส้นใยสังเคราะห์คุณภาพสูง ไม่หลุดร่วง ไม่ลามไฟ ทนทานต่อการใช้งานที่สุด ราคาค่อนข้างสูง เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการสัญจรสูง เช่นห้องประชุม ห้องโถง ออฟฟิศ 

ลักษณะการใช้งานของพรมในห้องต่าง ๆ

1. พื้นที่ภายในห้องน้ำ

ควรเลือกใช้พรมที่ผลิตจากเส้นใยไมโครไฟเบอร์หรือโพลีเอสเตอร์ ที่ให้ความหนานุ่มเป็นพิเศษ ด้านหลังของพรมบุด้วย TPR ช่วยป้องกันการลื่น  เพราะห้องน้ำ คือ พื้นที่ที่เสี่ยงอันตรายในการลื่นมากเป็นอันดับหนึ่ง และนอกจากจะช่วยเรื่องความสวยงาม และช่วยป้องกันอันตรายแล้ว ต้องคำนึงถึงการดูแลรักษาที่ซึมซับน้ำได้ไว แห้งง่าย สามารถซักและดูดฝุ่นได้อีกด้วย

พรมในห้องน้ำสามารถวางใช้งานได้ทั้งบริเวณโถสุขภัณฑ์ มีลักษณะเป็นรูปตัว U ขนาดมาตรฐานทั่วไปอยู่ที่  45 x 70 เซนติเมตร พรมบริเวณหน้าประตูหรืออ่างล้างหน้า ขนาด 50 x 60 เซนติเมตร และ พรมบริเวณหน้าอ่างอาบน้ำ ขนาดมาตรฐาน 50 x 120 เซนติเมตร

2. พื้นที่ห้องนั่งเล่น

ควรเลือกใช้พรมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นภูมิฐาน แสดงถึงฐานะของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี  เป็นพื้นที่ที่ใช้งานค่อนข้างมาก ขนาดของพรมควรเท่ากันหรือใหญ่กว่าชุดโซฟา เพื่อให้พื้นที่ส่วนนี้ดูโอ่อ่า ช่วยให้รู้สึกว่าบ้านใหญ่ขึ้น เพราะส่วนใหญ่แล้วพรมห้องนั่งเล่นจะถูกทับด้วยเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา และโต๊ะกลางโซฟา 

โดยอาจเลือกใช้พรมขนสั้น ที่ผลิตจาก เส้นใย PP Heatset ผสม PE  คุณภาพสูงที่ให้ความทนทานแต่ยังนุ่มนวลชวนสัมผัส ขนพรมไม่หลุดร่วงง่าย แถมยังช่วยดูดซับเสียงปกป้องพื้นผิว และยังง่ายต่อการทำความสะอาดอีกด้วย

3. พื้นที่ห้องทำงาน

ห้องทำงาน เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ต้องใช้สมาธิและความเงียบ การเลือกตกแต่งห้องทำงานด้วยพรมดีๆสักผืน จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพิยิ่งขึ้น เพราะพรมช่วยเก็บเสียง ป้องกันไฟฟ้าสถิต และช่วยให้เท้าอุ่น หากต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือ ควรใช้พรมสีเทา หรือพรมสีเข้ม  หรือ สามารถเลือกใช้สีมงคลเพื่อเสริมพลังได้อีกด้วย

5. พื้นที่ห้องนอน

เพื่อความสวยงาม และช่วยให้ห้องนอนน่าพักผ่อนยิ่งขึ้น พรมปูพื้นห้องควรมีลักษณะเป็นพรมขนนุ่มจะสั้นหรือยาวก็ได้ เลือกพรมที่ผลิตจากเส้นใย PE หรือ  PP ที่มีคุณภาพสูง ให้สีสันสวยงามไม่ซีดจาง และขนพรมไม่หลุดร่วง  ควรใช้โทนสีนุ่มนวลจะช่วยให้หลับสบาย วางตกแต่งไว้บริเวณด้านข้างเตียง หรือบริเวณปลายเตียงก็ได้  โดยควรเลือกขนาดให้ใหญ่กว่าเตียง 

6. พื้นที่ห้องอาหาร

ควรเลือกใช้พรมที่มีขนสั้น ง่ายต่อการทำความสะอาด เพราะพรมจะถูกวางทับด้วยโต๊ะอาหาร ซึ่งมีแรงกดทับมาก บางครั้งอาจจะเลอะเทอะสกปรกได้ การเลือกใช้พรมขนยาวอาจไม่เหมาะสม ส่วนขนาดของพรม ควรเลือกให้กว้างกว่าโต๊ะรับประทานอาหารด้านละ 50-60 ซม. เพราะต้องวางเก้าอี้ทานข้าวทั้ง 2 ข้างด้วย เช่น โต๊ะกว้าง 90 ซม. พรมต้องกว้างอย่างน้อย 200 ซม.  

ข้อที่ 6 : วิธีการทำความสะอาดพรมปูพื้นห้อง

ภาพ: ดูดฝุ่นพรมปูพื้นห้อง

พรมปูพื้นห้องแม้จะให้ความสวยงามและเพิ่มลวดลายให้ทุกห้องภายในบ้านดูโดดเด่นขึ้น แต่หากปล่อยปละละเลย ไม่ทำความสะอาด ความสวยงามของพรมก็หม่นหมอง เพราะมีฝุ่นละออง และไรฝุ่นสะสมอยู่ วิธีการทำความสะอาดพรมไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก NocNoc มีเคล็ดลับมาแนะนำ ดังนี้

  • เพียงแค่ดูดฝุ่นเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อลดการสะสมของฝุ่น 
  • หากพรมปูห้องที่ใช้งานอยู่นั้นเป็นพรมที่ผลิตจากเส้นใยอะคริลิค หรือเส้นใยบางชนิด จะหลุดร่วงเป็นธรรมชาติ ควรหมั่นดูดฝุ่นบ่อยๆในช่วง 90 วันแรก   
  • ควรวางพรมไว้ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก อยู่ในห้องที่ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันกลิ่นอับ แต่ไม่ควรให้แสงแดดส่องตลอดเวลา เพราะเส้นใยของพรมจะเสื่อมสภาพได้
  • หากพรมมีคราบเลอะ หรือน้ำหกใส่ ควรรีบซับออกด้วยผ้าสะอาด ห้ามขยี้เพราะจะทำให้คราบสกปรกขยายเป็นวงกว้าง ควรใช้น้ำยาอ่อนๆ หรือสเปรย์โฟมทำความสะอาดทันทีเพื่อป้องกันคราบฝังแน่น
  • หากสกปรกทั้งผืน ควรซักด้วยน้ำยาซักพรมที่ได้มาตรฐาน ห้ามใช้ผงซักฟอกหรือสารฟอกขาว เพราะจะทำให้เส้นใยเสียหายได้ ควรส่งพรมให้ทีมงานมืออาชีพซักอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งจะช่วยให้พรมสวยได้นาน คุ้มค่าการลงทุน

สุดยอดคู่มือ! เลือกพรมแบบฉบับคนช่างเลือก ฉบับนี้! คงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ ที่จะช่วยให้การเลือกพรมปูห้องเป็นเรื่องง่าย ได้พรมคุณภาพดี หลากหลายสไตล์ เข้าได้กับทุกสไตล์การตกแต่งบ้าน

สำหรับใครที่กำลังมองหาพรมสวยหลากสไตล์ในราคาคุ้มคุณภาพอยู่นั้น ที่ Express carpet & Decor ผู้นำแฟชั่นพรม ที่มีประสบการณ์มากกว่า 50 ปี ก็ได้คัดสรรพรมนำเข้าคุณภาพที่หาที่อื่นไม่ได้ แถมยังสะท้อนตัวตน และสไตล์การแต่งบ้านได้อย่างชัดเจนมาให้คุณได้เลือกสรรกันแบบจุใจ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบทุกความต้องการที่นี่ที่เดียว

เปิดคู่มือกับ 4 เหตุผลที่ต้องเลือกซื้อพรมที่ Express carpet & Decor

ภาพ: พรมหลากหลายสไตล์

  1. ขนาด และความยาวของเส้นใยพรม มีให้เลือกอย่างหลากหลายตามขนาดพื้นที่ห้องที่แตกต่างกันตั้งแต่ไซส์ S-XXL หรือสามารถสั่งได้ตามขนาดที่ต้องการ แถมยังมีความยาวของเส้นใยให้เลือกตั้งแต่ 4 – 50 มิลลิเมตร ลงตัวทุกความต้องการ
  2. ลวดลายและสไตล์ของพรมปูพื้นห้อง สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย และการตกแต่งบ้านอย่างชัดเจน ทั้ง  สไตล์ Minimal  สไตล์ Luxury  สไตล์ Abstract  สไตล์ Modern หรือแม้แต่พรมที่ออกแบบโดยศิลปิน
  3. โทนสีพรมปูพื้นห้อง ครอบคลุมทุกเฉดสีที่ต้องการ และเข้าได้กับทุกห้องภายในบ้าน
  4. เส้นใยของพรม เลือกได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานทั้ง Indoor และ Outdoor แถมยังมีนวัตกรรมพรมรุ่นใหม่เอาใจสายกรีนอย่างพรมจากวัสดุรีไซเคิลให้เลือกสรร

หรือใครที่ต้องการพรมตกแต่งบ้านหลากหลายสไตล์ คุณภาพดี พร้อมดีลโปรโมชั่นสุดคุ้ม และบริการติดตั้ง ต่อเติม ซ่อมแซมจากช่างผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่ NocNoc.com เคาะจบทุกเรื่องบ้าน ให้บ้านเป็นเรื่องง่าย ครบ จบ ในที่เดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง