• Knowledge

รู้ก่อนซื้อ! วิธีเลือกเครื่องกรองอากาศยังไงให้เหมาะกับห้องคุณ

  • โดย NocNoc Writer

  • 242

เครื่องกรองอากาศ หนึ่งในไอเทมที่กลายเป็นของสำคัญประจำบ้าน โดยเฉพาะประเทศไทยที่ต้องพบเจอกับภาวะฝุ่นแทบทุกปี และยิ่งช่วงการระบาดของโรค Covid-19 แล้วด้วยละก็ เครื่องกรองอากาศเป็นตัวช่วยที่ทำให้ร่างกายปลอดเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าเครื่องกรองอากาศจะช่วยกรองฝุ่นและเชื้อ แต่ถ้าหากเลือกเครื่องกรองอากาศที่ไม่เหมาะกับห้อง ประสิทธิภาพการทำงานก็จะลดลงตามไปด้วย 

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวช่วยให้การทำงานของเครื่องกรองอากาศมีประสิทธิภาพ คือ ขนาดของเครื่องที่เหมาะสมกับพื้นที่ภายในห้อง ก่อนเลือกซื้อเครื่องกรองอากาศควรทราบขนาดของพื้นที่เพื่อให้ได้เครื่องกรองอากาศที่พอดีกและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยวิธีการคำนวณพื้นที่การใช้งานเครื่องกรองอากาศมีดังนี้

วิธีคำนวนพื้นที่การใช้งานเครื่องกรองอากาศ

ขนาดของห้องกับเครื่องกรองอากาศสัมพันธ์กันอย่างไร ?

การทำงานของเครื่องกรองอากาศ คือ การนำอากาศเสียภายในห้องเข้ามากรองผ่านฟิลเตอร์ในเครื่อง เพื่อกำจัดอากาศสกปรกและเชื้อโรคแล้วกักเก็บไว้ในเครื่อง จากนั้นจึงนำอากาศบริสุทธิ์ปล่อยเข้ามาในห้อง แต่ประสิทธิภาพการทำงานก็ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง เพราะถ้าขนาดของห้องใหญ่แต่กำลังในการกรองอากาศน้อยเกินไป อากาศบริสุทธิ์ภายในห้องก็จะน้อยตามไปด้วย

ริ่มจากคำนวณขนาดห้องก่อน

ก่อนที่จะรู้ขนาดของเครื่องกรองอากาศที่พอดีกับการใช้งาน ต้องเริ่มจากการรู้จักพื้นที่ภายในห้องเสียก่อน ซึ่งขนาดของห้องมีหน่วยวัดเป็นลูกบาศก์เมตร โดยวิธีการคำนวณขนาดห้องสามารถใช้สูตรกว้าง×ยาว×สูง เป็นเมตร เช่น สมมติห้องขนาด 6×4×3 เมตร = 72 ลูกบาศก์เมตร หลังจากทราบขนาดของห้องแล้ว จากนั้นให้พิจารณาค่า CADR ต่อไป

ค่า CADR ค่าสำคัญในเครื่องกรองอากาศ

ค่า CARD ( Clean Air delivery Rate) คือ อัตราความเร็วในการกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่กรองผ่านเครื่องกรองอากาศ หมายความว่ายิ่งมีค่านี้เยอะเท่าไร ปริมาณอากาศบริสุทธิ์ภายในห้องยิ่งมากขึ้นเท่านั้น โดยค่า CADR ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพควรมีค่ามากกว่าปริมาตรห้องอย่าง 3-4 เท่า

ตารางเปรียบเทียบพื้นที่กับค่า CADR ของเครื่องกรองอากาศ

นอกเหนือจากการคำนวณพื้นที่แล้ว การตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องกรองอากาศยังมีปัจจัยอื่นประกอบดังนี้

แผ่นกรองอากาศ

หนึ่งในหัวใจสำคัญของเครื่องกรองอากาศคือ แผ่นกรองอากาศ โดยแผ่นกรองอากาศเป็นชิ้นส่วนที่ทำให้เครื่องกรองสามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ออกมาภายในห้อง ส่วนแผ่นกรองอากาศประกอบไปด้วย 3 ชิ้นหลักดังนี้

1.แผ่นกรองอากาศชั้นต้น (Pre Filter)

แผ่นกรอชนิดนี้เป็นประเภทแผ่นกรองหยาบ โดยตำแหน่งจะอยู่ชั้นนอกสุดของเครื่องกรองอากาศ ลักษณะของแผ่นกรองอากาศชั้นต้น เป็นแผ่นกรองมีลักษณะเป็นตาข่ายขนาดเล็ก มีหน้าที่สำหรับกรองสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ก่อนเข้าถึงแผ่นกรองชั้น HEPA Filter

2.แผ่นกรองอากาศ HEPA Filter

แผ่นกรองอากาศ HEPA (High Efficiency Particulate Air) เป็นแผ่นกรองที่อยู่ชั้นกลางในเครื่องกรองอากาศ โดยแผ่นกรองอากาศ HEPA เป็นแผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพสูง มีความสามารถในการกรองฝุ่นขนาดเล็กถึง 2.5 ไมครอน เป็นตัวช่วยสำคัญในการลดฝุ่น PM 2.5 ภายในบ้าน โดยแผ่นกรอง HEPA Filter ที่ประสิทธิภาพมากที่สุดคือ แผ่นกรอง True HEPA ที่ผลิตจาก Micro-Fiber ช่วยเพิ่มการกรองฝุ่นที่เล็กและสามารถดักจับเชื้อโรคได้

3.แผ่นกรองคาร์บอน

แผ่นกรองคาร์บอน เป็นแผ่นกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้อง อย่างกลิ่นบุหรี่หรือกลิ่นอาหาร โดยแผ่นกรองคาร์บอนมีลักษณะสีเข้ม จากส่วนผสมของถ่าน ที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับกลิ่น

ภาพ: ระบบแผ่นกรองภายในเครื่องกรองอากาศ Stardler Foam

หลอดไฟ UV ฆ่าเชื้อโรค (UV Sterilizing Lamp)

หลอดไฟ UV เป็นส่วนประกอบของเครื่องกรองอากาศที่ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคภายในห้อง โดยหลอดไฟจะปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลต UV ที่อยู่ในแสงแดด ซึ่งประเภทของรังสี UV ที่ปล่อยเป็นประเภท UVC ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคที่ลอยอยู่บนอากาศ

ภาพ: เครื่องกรองอากาศ Vitaino ฆ่าเชื้อไวรัสด้วยแสง UV

ตัวปล่อยประจุไฟฟ้า (IONIZER)

ตัวปล่อยประจุไฟฟ้าเป็นตัวช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องกรองอากาศดีขึ้น โดยเครื่องกรองอากาศจะปล่อยประจุไฟฟ้าลบ (Negative Ion) เพื่อดึงดูดฝุ่นขนาดเล็กให้จับตัวและลอยมาใกล้กับเครื่องกรองอากาศ จากนั้นฝุ่นที่จับตัวจะถูกดูดเข้าไปในเครื่อง ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น สำหรับเครื่องกรองอากาศบางยี่ห้อ ได้คิดค้นระบบการปล่อยประจุไฟฟ้าลบและบวกพร้อมกัน (ระบบพลาสม่าคลัสเตอ) เพื่อทำลายเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ทำให้อากาศภายในห้องทั้งสะอาดและบริสุทธิ์ในคราวเดียวกัน

ภาพ: เครื่องกรองอากาศ SHARP ที่มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์

ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอื่นๆ

ฟังก์ชั่นทำความชื้นในอากาศ

ฟังก์ชั่นทำความชื้นในอากาศเป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น ด้วยการปล่อยไอน้ำภายในห้อง โดยการทำงานของฟังก์ชั่นนี้จะสัมพันธ์กับระดับความชื้นในอากาศภายนอก เช่น หากภายนอกฝนตกค่าความชื้นในอากาศมีปริมาณมาก เครื่องกรองอากาศก็จะไม่ปล่อยความชื้นสู่อากาศ

ภาพ: เครื่องกรองอากาศ Hitachi ที่มีฟังก์ชั่นทำความชื่นในอากาศ

โหมดป้องกันเด็ก

สำหรับครอบครัวไหนที่มีสมาชิกเป็นเด็กเล็ก โหมดป้องกันเด็กถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการเลือกเครื่องกรองอากาศ โดยโหมดป้องกันเด็กจะทำงานด้วยการล็อคเครื่องไม่ให้ตอบสนองต่อปุ่ม เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเล่นเครื่องกรองอากาศ ซึ่งการที่เด็กกดเครื่องเล่นอาจทำให้เครื่องเสียหายได้

ภาพ: เครื่องกรองอากาศ Masterkool ที่มีโหมดป้องกันเด็กเล่น

โหมดนอนหลับหรือโหมดกลางคืน

โหมดนอนหลับเป็นโหมดที่ปรับเครื่องกรองอากาศให้เข้ากับสภาพแวดล้อมขณะนอนหลับ ทั้งการปรับลดแสงให้สว่างน้อยลง และการปรับลดเสียงด้วยการลดระดับการทำงานของพัดลมดูดอากาศให้เบาลง เพื่อลดเสียงรบกวนขณะนอนหลับ

ภาพ: เครื่องกรองอากาศ Toshiba ที่มีโหมดนอนหลับ

สรุป

ในการเลือกเครื่องกรองอากาศที่เหมาะกับบ้าน ควรทราบถึงขนาดของพื้นที่ในห้อง เพื่อให้ระบบการทำงานสามารถฟอกอากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกเหนือจากขนาดของห้องแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่เพิ่มศักยภาพการทำงานของเครื่องกรองอากาศ เช่น ตัวปล่อยประจุไฟฟ้า, หลอดไฟ UV ฆ่าเชื้อโรค และแผ่นกรองอากาศ นอกเหนือจากเครื่องกรองอากาศแล้ว การสร้างอากาศที่ดีให้กับบ้านสามารถทำได้ด้วยการเปลี่ยนพื้นธรรมดาเป็นพื้นประจุลบ หรือการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ เพียงเท่านี้ภายในบ้านก็เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์แล้ว

สำหรับใครที่สนใจเครื่องกรองอากาศสามารถดูสินค้าได้ที่ NocNoc.com นอกเหนือจากเครื่องกรองอากาศแล้ว ที่ NocNoc.com ยังมีสินค้าให้เลือกอีกหลายร้อยรายการ ทั้งเครื่องไฟฟ้าและของแต่งบ้าน ที่ทั้งมีคุณภาพและราคาเป็นกันเอง ให้ทุกคนได้แต่งบ้านให้งบประมาณที่ถูกใจ เพราะ NocNoc.com พร้อมเปลี่ยนความฝันเรื่องบ้านให้เป็นความจริง

บทความที่เกี่ยวข้อง