• DIY

  • Tips&Tricks

ติดผ้าม่านด้วยตัวเองยังไง ให้สวยเป๊ะไม่มีโป๊ะ แบบไม่ต้องง้อช่าง

  • โดย NocNoc Writer

  • 26

Key Takeaways

  • การเช็กภาพรวมของห้อง การวัดขนาดหน้าต่าง การกำหนดฝั่งดึงม่านที่เหมาะสม และการรู้ความต้องการของตัวเอง คือ ขั้นตอนการเตรียมตัวในการติดตั้งม่าน ที่นอกจากจะช่วยให้ได้ผ้าม่านที่เข้ากับห้องแล้ว ยังตอบโจทย์ความชอบของเจ้าของห้องได้อีกด้วย
  • การมาร์คตำแหน่ง การเจาะรู การติดตั้งแขนจับราวผ้าม่านและตะขอแขวนสายรวบผ้าม่าน รวมไปถึงการแขวนผ้าม่านขึ้น คือ ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถติดตั้งม่านสำเร็จรูปได้ด้วยตัวเอง

สะดุดตากับผ้าม่านสีสวยในซีรีย์เกาหลี เลยอยากเปลี่ยนผ้าม่านอันเก่าในห้องนอนตัวเองให้ได้ความรู้สึกเหมือนห้องนอนนางเอกซีรีย์ แถมยังกำลังอยากได้ผ้าม่านอันใหม่ที่ช่วยกรองแสงแดดในตอนกลางวันได้ดีกว่าอันเก่า แต่ไม่มีงบขนาดเรียกช่างเข้ามาติดให้ หรือจะให้ซื้อแบบสำเร็จรูปมาติดตั้งม่านเองก็ไม่รู้วิธีอีก วันนี้ NocNoc จึงรวบรวมขั้นตอนและวิธีติดผ้าม่านสำเร็จรูปด้วยตัวเองมาฝากกัน เพื่อทำให้ทุกคนมีห้องที่สวยสมบูรณ์แบบมากขึ้น

ขั้นตอนเตรียมตัวสำหรับการติดตั้งม่านเพื่อให้เข้ากับห้อง

1. เช็กภาพรวมของห้อง

“ภาพรวมของห้องคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากได้ห้องนอนที่ดูขาด ๆ เกิน ๆ หรือไม่ลงตัว เพราะอุตส่าห์ทุ่มทั้งแรงกำลังและเงินที่มีไปกับส่วนอื่น ๆ ของห้อง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีห้อง การปูพื้น และการเลือกเฟอร์นิเจอร์ เพื่อทำให้ทุกอย่างดูเข้ากัน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาต้องติดตั้งม่านอันใหม่ ก็ควรดูองค์ประกอบและบรรยากาศของห้องให้ดีว่าเหมาะกับผ้าม่านแบบไหน เพื่อทำให้ห้องสวยลงตัวกว่าที่เคยเป็น

  • ห้องสไตล์วินเทจแบบย้อนยุค เหมาะกับ ม่านหูกระเช้า ด้วยดีไซน์ของห่วงที่ทำมาจากผ้า จึงให้ความรู้สึกแบบบ้านสมัยก่อน 
  • ห้องสไตล์โมเดิร์น เหมาะกับ ม่านตาไก่และม่านล็อคลอน ด้วยดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายและทันสมัย จึงสามารถเข้ากับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นได้ดี
  • ห้องสไตล์หรูหรา เหมาะกับ ม่านจีบและม่านหลุยส์ ด้วยดีไซน์ของผ้าม่านทั้ง 2 แบบ ที่มีดีเทลจีบม่านค่อนข้างเยอะกว่าแบบอื่น ซึ่งช่วยสร้างความรู้สึกหรูและดูแพง
  • ห้องสไตล์มินิมอล เหมาะกับ ม่านพับและมู่ลี่ ด้วยลักษณะของตัวม่านที่มีความเรียบง่าย บวกกับดีไซน์ที่ดูพื้น ๆ จึงเข้ากับห้องมินิมอลได้อย่างพอดี

2. วัดขนาดหน้าต่าง

“ขนาดผ้าม่านที่เหมาะกับหน้าต่างจะทำให้ได้ลอนผ้าม่านที่สวยงาม”

ขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการติดผ้าม่าน คือ การวัดขนาดของหน้าต่าง เพื่อช่วยให้เลือกขนาดของผ้าม่านได้อย่างเหมาะสมและตรงตามความต้องการ แถมยังช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาผ้าม่านสั้นหรือยาวเกินไปได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการวัดจะมีดังนี้

ภาพ: ผ้าม่าน

  • ความกว้าง ให้วัดความกว้างของวงกบแล้วบวกเพิ่มฝั่งละ 10-15 ซม. โดยให้เลือกผ้าม่านที่มีความกว้างประมาณ 1.5-2 เท่าของวงกบ

ตัวอย่าง วงกบกว้าง 100 ซม. ให้เอา 100 + 10 + 10 = 120 ซม.
จากนั้นเอา 120 x 1.5 = 180 ซม. ซึ่งเท่ากับความกว้างของผ้าม่านที่ต้องการ

  • ความสูง ให้วัดความสูงของวงกบแล้วบวกเพิ่มด้านบน 10 ซม. ด้านล่างอีกประมาณ 15-20 ซม. หรือหากต้องการติดผ้าม่านแบบยาวให้วัดยาวลงไปจนถึงพื้นด้านล่างและลบออก 2 ซม.

ตัวอย่าง แบบสั้น: วงกบสูง 100 ซม. ให้เอา 100 + 10 + 15 = 125 ซม.
แบบยาว: วงกบสูง 200 ซม. ให้เอา (200 + 10) – 2 = 208 ซม.
ซึ่งจะเป็นความยาวของผ้าม่านที่เหมาะสม

3. กำหนดฝั่งดึงม่านที่เหมาะสม

ภาพ: เชือกดึงม่าน

“เปลี่ยนผ้าม่านใหม่ทั้งที สวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชันด้วย”

ไหน ๆ คิดจะลงทุนเปลี่ยนผ้าม่านในห้องใหม่ทั้งที นอกจากจะต้องนึกถึงขนาดผ้าม่านที่เหมาะสมและสไตล์ผ้าม่านที่ลงตัวกับห้องแล้ว ก็ต้องไม่ลืมเลือกฝั่งสำหรับดึงม่านที่สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน ในกรณีที่เลือกผ้าม่านแบบต้องมีเชือกดึง โดยให้อิงตามความเหมาะสม รูปแบบการวางเฟอร์นิเจอร์ และความยากง่ายในการเข้าถึงเชือกดึงม่าน

4. รู้ความต้องการของตัวเอง

“หาแรงบันดาลใจจากที่อื่นได้ แต่อย่าลืมดูความต้องการของตัวเองด้วย”

เมื่อมีความคิดอยากแต่งห้องใหม่ ทุกคนล้วนเสิร์ชหาแรงบันดาลใจตามช่องทางต่าง ๆ เพื่อเอามาใช้กับห้องของตัวเอง ซึ่งหลายครั้งที่แรงบันดาลใจเหล่านั้นไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง เพราะฉะนั้นอย่าลืมสำรวจความต้องการของตัวเองเสียก่อน โดยให้ดูว่าชอบผ้าม่านแบบไหนกันแน่ เช่น ม่านทึบแสงหรือโปร่งแสง แบบมีเชือกดึงหรือด้ามจูง เพื่อให้ติดตั้งม่านได้อย่างตอบโจทย์ที่สุด

หลังจากที่ได้รู้ขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับการติดผ้าม่านกันไปแล้ว ตามมาดูอุปกรณ์และวิธีติดผ้าม่านสำเร็จรูป ที่ช่วยให้ทุกคนได้ห้องสวยเป๊ะแบบไม่ต้องง้อช่าง

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการติดผ้าม่านสำเร็จรูป

  • บันได ตลับเมตร และดินสอ ใช้สำหรับปีนขึ้นไปเพื่อวัดด้านบนของวงกบหน้าต่าง เพื่อมาร์คตำแหน่งในการติดผ้าม่าน
  • พุกพลาสติกและสกรูเกลียวปล่อย ใช้สำหรับยึดราวแขวนผ้าม่านไว้กับผนังห้อง
  • สว่านและดอกสว่าน ใช้สำหรับเจาะรูที่ผนังเพื่อใส่พุกและสกรู
  • ค้อนและไขควง ใช้สำหรับตอกตัวพุกและไขสกรูเพื่อยึดราวผ้าม่าน

3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการติดตั้งม่านสำเร็จรูปด้วยตนเอง

1. มาร์คตำแหน่งเพื่อเจาะรู

ภาพ: วิธีติดผ้าม่าน

วิธีติดผ้าม่านอันดับแรกคือให้มาร์คตำแหน่งสำหรับการเจาะรู เพื่อแขวนรางและติดตั้งตะขอแขวนของสายรวบผ้าม่าน

  • สำหรับติดตั้งรางผ้าม่าน ให้วัดจากขอบวงกบขึ้นไปประมาณ 10 ซม. และวัดออกจากขอบด้านข้างวงกบอีก 10 ซม. และใช้ดินสอเพื่อมาร์คตำแหน่ง จากนั้นให้ทำแบบเดียวกันกับอีกข้าง
  • สำหรับติดตั้งตะขอแขวนสายรวบผ้าม่าน ให้วัดออกมาจากขอบวงกบประมาณ 3-5 ซม. ซึ่งหากเป็นผ้าม่านแบบยาวให้มาร์คจุดสูงจากพื้นขึ้นมา 100 ซม. ส่วนผ้าม่านแบบสั้นควรให้จุดมาร์คอยู่ต่ำกว่ากึ่งกลางของผ้าม่านราว ๆ 10-20 ซม.

2. เจาะรูเพื่อติดตั้งแขนจับราวและตะขอ

ภาพ: วิธีติดผ้าม่าน

หลังจากทำการมาร์คตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้สว่านไฟฟ้าเจาะรูตามจุดต่าง ๆ ให้ครบ จากนั้นเอาพุกพลาสติกมาเสียบตามรูและตอกด้วยค้อนเบา ๆ ให้สุด นำแขนจับราวผ้าม่านและตะขอแขวนสายรวบผ้าม่านมายึดกับผนังด้วยสกรูและขันให้แน่น

3. ติดตั้งม่าน

ภาพ: วิธีติดผ้าม่าน

วิธีติดผ้าม่านขั้นตอนสุดท้าย ให้เอาผ้าม่านสำเร็จรูปทั้ง 2 ผืนร้อยเข้าไปในราวแขวน โดยหันหน้าผ้าเข้าด้านในห้อง และนำหัวราวมาใส่ให้เรียบร้อยทั้ง 2 ข้าง จากนั้นให้เอาราวที่ร้อยม่านเสร็จแล้ว ขึ้นไปแขวนกับแขนจับราว เพื่อความสวยงามให้ยกรางและจับห่วงอันริมสุดออกมาบังแขนจับราง สุดท้ายขันน็อตเพื่อล็อครางให้ครบทุกจุด

ทั้งหมดนี้ คือ ขั้นตอนการเตรียมตัวและวิธีติดผ้าม่านสำเร็จรูปด้วยตัวเอง ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศห้องด้วยผ้าม่านรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ม่านจีบ ม่านล็อคลอน หรือม่านหลุยส์ ก็สามารถใช้บริการติดตั้งผ้าม่านจากช่างมืออาชีพ ที่มีทั้งความชำนาญและเครื่องมือครบครัน สามารถจบงานได้อย่างรวดเร็ว แถมยังมีทีมงานคอยช่วยเหลือหากเกิดปัญหา มาพร้อมช่องทางชำระเงินทั้ง QR payment, E-Banking และบัตรเครดิต ส่วนใครอยากได้ไอเดียแต่งห้องนอนห้องนั่งเล่นแบบปัง ๆ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน NocNoc มาไว้ในมือถือ เพื่อพบกับฟังก์ชันเจ๋ง ๆ อย่าง Your Style Quiz ที่ช่วยค้นหาสไตล์การแต่งบ้านที่ใช่ และฟังก์ชัน Inspiration Feed ที่รวบรวมไอเดียที่หลากหลายเพื่อบ้านในฝันของคุณ

NocNoc Writer

กองบรรณาธิการ NocNoc ที่อยากถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับบ้าน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนสามารถสร้างบ้านในฝันให้เป็นจริง