วิธีกำจัดเชื้อราตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้านด้วยตัวเอง ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

NocNoc สรุปให้

• วิธีกำจัดเชื้อรานั้นมีด้วยกันหลายวิธี ทั้งการใช้น้ำส้มสายชู การใช้น้ำยาซักผ้าขาว การใช้น้ำร้อน การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค และการใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยวิธีต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับวัสดุของเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ในบ้านชิ้นนั้น ๆ
• เชื้อราในบ้านเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งฝนตกบ่อยจนบ้านชื้น, ผนังบ้านสะสมความชื้นไว้เยอะ และบ้านมีจุดรั่วซึม ซึ่งต้องหาช่างมาซ่อมบ้านให้เรียบร้อย แล้วค่อยลงมือกำจัดเชื้อราในบ้าน จึงจะเป็นวิธีกำจัดราที่มีประสิทธิภาพ

หน้าฝนกับเชื้อราเป็นของคู่กัน เพราะเมื่อเข้าหน้าฝนทีไรทุกบ้านต้องหนักใจกับเจ้าเชื้อราในบ้านทุกครั้ง และนอกจากเชื้อราจะมาทำให้บรรยากาศในบ้านของเราดูไม่สวยไม่ปังแล้ว ยังกระทบต่อสุขภาพของสมาชิกในบ้านอีกด้วย วันนี้ NocNoc เลยจะมาแชร์วิธีกำจัดเชื้อราในบ้าน ให้เพื่อน ๆ เอาไปใช้ตามกัน จะได้พลิกโฉมบ้านให้กลับมาสวยดูดีและสดใสสู้กับสายฝนได้แบบไม่ต้องกลัว

เขาว่ากันว่าถ้าเราอยากจะจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ให้ดีและปังกว่าเดิม เราจะต้องสืบเสาะค้นหาต้นตอและสาเหตุของปัญหานั้น ๆ ซะก่อน จะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ดังนั้นก่อนที่เราจะไปดูวิธีกำจัดเชื้อราตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน ก็มาเริ่มกันที่สาเหตุและต้นตอที่ก่อให้เกิดเชื้อราที่เป็นปัญหากวนใจของทุก ๆ บ้านกัน

• ฝนตกบ่อยจนบ้านชื้น โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกเยอะ ๆ ถี่ ๆ ไม่มีช่องว่างให้บ้านได้แห้งเลย แถมพระอาทิตย์ก็ยังถูกบังด้วยก้อนเมฆจำนวนมาก ทำให้แดดเข้าไม่ถึงบ้าน บ้านก็ยิ่งชื้นเข้าไปใหญ่
• ผนังบ้านสะสมความชื้นไว้เยอะ โดยเฉพาะห้องที่อยู่ติดกับห้องน้ำจะเจอปัญหานี้บ่อยกว่าเพื่อน รวมถึงตอนที่ฝนตกหนัก ๆ พายุเข้าลมแรง ฝนก็ยิ่งจะสาดเข้าผนังบ้านเต็ม ๆ ซึ่งทำให้เกิดเชื้อราได้นั่นเอง
• บ้านมีจุดรั่วซึม บ้านใครเริ่มเก่าต้องคอยกุมขมับกับปัญหาบ้านหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวกับน้ำ อย่างท่อน้ำแตกหรือรั่ว รวมถึงหลังคาและหน้าต่างที่เริ่มพัง ก็จะทำให้น้ำฝนไหลเข้ามาในบ้านได้เวลาที่ฝนตก

ดังนั้นถ้าบ้านไหนมีปัญหาเกี่ยวกับเชื้อราบ่อย ๆ เคยใช้วิธีกำจัดเชื้อรามาแล้วหลายวิธี แต่มันก็ยังกลับมาตลอด ๆ ต้องลองหันมาใช้บริการช่างผู้เชี่ยวชาญจาก NocNoc ไปซ่อมหลังคา หน้าต่าง รวมถึงผนังบ้านที่เริ่มแตกร้าว ซึ่งช่างของ NocNoc ทุกคนนั้นทั้งชำนาญและประสบการณ์เยอะสุด ๆ แถมยังจ่ายเงินสะดวกด้วย QR payment, E-Banking และบัตรเครดิต

ร่องรอยดำ ๆ ที่เราเห็นอยู่ตามมุมต่าง ๆ ของบ้าน คนส่วนใหญ่ก็คงคิดแค่ว่ามันทำให้บ้านไม่สวยไม่น่ามองแค่นั้น แต่อันที่จริงแล้วเชื้อราที่อยู่ในบ้านคือตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ก็ยิ่งต้องรู้วิธีกำจัดเชื้อราในบ้านและใส่ใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะคนจะสูดดมสปอร์เชื้อราที่ฟุ้งอยู่ในอากาศเข้าไป ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ ดังนี้

• มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล และมีความเสี่ยงเป็นโรคหอบหืด
• ระคายเคืองบริเวณตา จมูก และหลอดลม หรืออาจเกิดการอักเสบ
• เกิดผื่นคันตามผิวหนัง มีไข้และปวดศีรษะ
• อาจเกิดโรคปอดอักเสบจากภูมิแพ้

ซึ่งถ้าบ้านไหนปล่อยทิ้งให้เชื้อราอยู่ในบ้านนาน ๆ โดยไม่ยอมหาทางแก้ไขหรือกำจัดเชื้อราในบ้านเหล่านั้นให้หมดสิ้นไป ก็จะยิ่งทำให้ปัญหาสุขภาพทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

หลังจากที่เราเห็นเชื้อราก่อตัวขึ้นบนผนังบ้านเรา ให้เราขัดล้างและขูดสีผนังเดิมออกให้หมด และปล่อยให้ผนังแห้งประมาณ 1-2 วัน จากนั้นให้เอาน้ำยาป้องกันเชื้อรามาทาบริเวณผนังนั้นให้ทั่ว เมื่อน้ำยาเซตตัวดีแล้วให้ทาสีผนังห้องเดิมลงไป 2-3 รอบ ก็เป็นอันเสร็จ

แต่ถ้าบ้านใครใช้ผนังวอลเปเปอร์ ให้ลอกวอลเปเปอร์เดิมทิ้งไป แล้วเอาผ้าชุบกับกรดซาลิไซลิกที่ผสมกับแอลกอฮอล์เรียบร้อยแล้ว มาเช็ดให้ทั่วทั้งผนัง รอให้ผนังแห้งสนิทแล้วค่อยติดวอลเปเปอร์ลายเดิมกลับเข้าไป ถือเป็นวิธีกำจัดราที่ไม่ยากแต่ต้องอาศัยเวลานิดหน่อย

เชื้อราไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีกด้วย ทีโอเอ 113 ไมโครคิล น้ำยากำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำ ที่ช่วยปกป้องพื้นผิวต่าง ๆ อย่างผนังหรือกำแพงบ้าน จากเชื้อราตัวร้ายไม่ให้กลับมากวนใจได้อีก

• เป็นสูตรน้ำ ใช้งานง่ายและสะดวก 
• ไม่มีกลิ่นฉุน และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
• ใช้ได้กับพื้นผิวหลายแบบ ทั้งคอนกรีต อิฐ หรือหินธรรมชาติ

ราคา 590 บาท*

เป็นหนึ่งในจุดพีคที่ถ้าเจอเชื้อราแล้วต้องรีบกำจัด เพราะเป็นจุดที่อาจจะเผลอไปเหยียบแล้วเกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งมีวิธีกำจัดเชื้อราง่าย ๆ 

1. ให้เอาน้ำยาซักผ้าขาวที่มีอยู่ที่บ้าน ซึ่งใช้ประมาณ 300 มิลลิลิตร มาผสมกับน้ำเปล่า 1 แกลลอน คนให้เข้ากันดี 
2. จากนั้นให้เอาผ้ามาชุบแล้วเช็ดไปตรงจุดที่มีเชื้อรา ทิ้งไว้ราว ๆ 15-30 นาที 
3. เช็ดออกด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ

แต่ถ้าใครเผลอไปเจอเชื้อราที่อยู่ตามร่องยาแนว ก็ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ 

1. ให้เอาน้ำเปล่าผสมกับน้ำส้มสายชูในปริมาณ 1:1 ส่วน และเทใส่ในขวดสเปรย์ เพื่อฉีดพ้นไปที่ร่องยาแนวเจ้าปัญหา ปล่อยทิ้งเอาไว้สักครู่ 
2. เอาแปรงสีฟันเก่า ๆ มาขัดตามร่องให้สะอาด จากนั้นค่อยเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดอีกรอบก็เป็นอันเสร็จ

เป็นไอเทมในบ้านที่กักเก็บความชื้นไว้เก่งสุด ๆ เลยทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย โดยไอเทมที่ทำมากจากผ้า อย่างผ้าม่านและพรมเช็ดเท้า ให้เอาไปซักด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิสูง ๆ ยิ่งถ้าเกิน 70 องศาเซลเซียสได้จะยิ่งดี โดยให้ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคลงไปด้วย เพื่อกำจัดเชื้อราในบ้านให้อยู่หมัด

หรือถ้าบ้านไหนอยากกำจัดเชื้อราแบบเฉพาะจุด เพราะขี้เกียจเอาผ้าม่านหรือพรมเช็ดเท้าทั้งผืนลงไปซักในน้ำร้อน ๆ ก็ให้เอาน้ำส้มสายชูไปทาตรงจุดที่มีรอยเชื้อรา ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วค่อยเอาไปซักตามปกติ หรือถ้าใครไม่ชอบกลิ่นน้ำส้มสายชู ก็ให้ใช้เป็นน้ำมะนาวผสมกับเกลือก็ได้เช่นกัน

ไม่ว่าจะโต๊ะ เก้าอี้ หรือตู้เก็บของที่ทำจากไม้ ก่อนจะเริ่มกำจัดเชื้อราตัวร้ายให้ยกเอาเฟอร์นิเจอร์ที่จะทำความสะอาดออกไปไว้นอกบ้านซะก่อน เพื่อกันไม่ให้เชื้อราฟุ้งกระจายอยู่ในบ้าน 

1. เริ่มด้วยการเอาเครื่องดูดฝุ่นดูดเชื้อราที่อยู่บนพื้นผิวออก 
2. เอาน้ำส้มสายชูทาลงไปตรงจุดที่มีเชื้อรา หลังปล่อยทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง 
3. ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดมาเช็ด โดยให้ทำซ้ำ ๆ จนกว่าเชื้อราจะหลุดออกจนหมด

แต่ถ้าตรงไหนเชื้อราฝังลึกมาก ๆ แบบที่น้ำส้มสายชูเอาไม่อยู่ และไม่อยากเอาไปทิ้งเพราะเพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน ก็แนะนำให้ใช้กระดาษทรายเบอร์หยาบ ๆ ขัดเพื่อถอนรากถอนโคนเชื้อราตัวร้ายออกให้หมด แล้วค่อยใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียด ๆ ขัดอีกรอบให้เรียบ แล้วจึงตามด้วยแลคเกอร์

สำหรับบ้านไหนที่คลั่งไคล้เฟอร์ฯ หนังเป็นพิเศษ รวมถึงสายแฟที่มีไอเทมหนังเยอะ ๆ ไม่ว่าจะรองเท้า กระเป๋า หรือเสื้อโค้ท ถ้าวันใดวันหนึ่งดันไปเจอเชื้อราขึ้นต้องรีบจัดการโดยด่วน 

1. ใช้แปรงปัดเอาเชื้อราบนพื้นผิวออกก่อน 
2. ต่อด้วยผ้าชุบน้ำส้มสายชูไปเช็ดบริเวณที่มีเชื้อรา และใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดซ้ำอีกครั้ง 
3. จบด้วยการลงน้ำยาบำรุงรักษาเครื่องหนัง 

ถือเป็นวิธีกำจัดเชื้อราที่ใคร ๆ ก็ทำได้ แถมไม่ยากอย่างที่คิด

ใครที่ชอบเปิดแอร์ตลอดเวลาแบบทั้งวันทั้งคืนจนแอร์แทบไม่มีเวลาได้พัก ก็อาจเสี่ยงให้เกิดปัญหาเชื้อราได้เช่นกัน และถ้าบ้านไหนเริ่มเห็นคราบเชื้อราที่ด้านนอกตัวแอร์ ก็ให้รู้ได้เลยว่าข้างในอาจจะมีเชื้อราก่อตัวอยู่ ดังนั้นให้ปิดเครื่องปรับอากาศไปก่อน แล้วถอดแผ่นกรองอากาศมาล้างและเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ส่วนที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของช่างล้างแอร์ และให้แจ้งช่างว่าให้ล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

ใครชอบเขียนไดอารี่ลงสมุดแบบจริงจังหรือมีหนังสือเล่มโปรดที่มีคุณค่ากับจิตใจ พอเชื้อราขึ้นก็คงทำใจเอาไปทิ้งได้ยาก วิธีกำจัดเชื้อราที่ขึ้นตามกระดาษอย่างสมุดและหนังสือ 

1. เอาไปตากแดดให้แห้งซะก่อน หรือเอาไปใส่กล่องในเก่า ๆ และใส่ซิลิก้าเจลหรือแป้งข้าวโพดลงไปเพื่อช่วยดูดความชื้น เมื่อแห้งสนิทก็ให้เอาแปรงมาปัดฝุ่นออกให้เกลี้ยง
2. จากนั้นให้เอาผ้าไปชุบไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เพื่อเอามาซับบริเวณที่มีเชื้อรา โดยให้หากระดาษเคลือบมันมาคั่นก่อนซับเพื่อกันซึม 
3. เป่าลมให้แห้งสนิทแล้วค่อยทำหน้าถัด ๆ ไปจนเสร็จ

 ทางที่ดีหากหนังสือเล่มนั้นไม่ได้สำคัญหรือสามารถหาซื้อใหม่ได้ ก็แนะนำให้ทิ้งจะดีที่สุด

บ้านไหนมีลูกเล็กเด็กแดงต้องระวังเรื่องเชื้อราเป็นพิเศษ เพราะเด็ก ๆ จะไวต่อสิ่งกระตุ้นเหล่านี้มาก ๆ ดังนั้นเมื่อเราเจอเชื้อราขึ้นตามของเด็กเล่นหรือกล่องข้าวที่เป็นพลาสติก ให้ผสมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยเข้ากับน้ำร้อน 1 แกลลอน แล้วเอาไอเทมเหล่านั้นมาแช่ในน้ำที่เตรียมไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งถือเป็นวิธีกำจัดราที่อ่อนโยนและเหมาะกับไอเทมเหล่านี้สุด ๆ 

ใครยังไม่จุใจ อ่านต่อได้ที่นี่!

10 เคล็ดลับดูแลบ้านหน้าฝน พร้อมรับมือกับปัญหากวนใจ

เคล็ดลับปัง ๆ วิธีกําจัดตะไคร่น้ําบนพื้นปูน ที่ใครก็ทำได้ ด้วยอุปกรณ์ใกล้ตัว

และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีกำจัดเชื้อราตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน ที่สามารถทำเองได้ง่ายนิดเดียว ที่น่าจะพอเป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ เอาไปใช้ตามกันได้ แต่ถ้าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนในบ้านขึ้นราจนเกินเยียวยาแล้ว ก็แนะนำให้ทิ้งแล้วมาช้อปเฟอร์ฯ ใหม่ ดีไซน์สวย ๆ ได้ที่ NocNoc เพราะเรารวบรวมเฟอร์ฯ ทุกแบบไว้อย่างจัดเต็ม ช้อปได้แบบเพลิน ๆ แถมคุ้มในคุ้มด้วยโค้ดส่วนลดที่เยอะสุด ๆ ช้อปสบายใจในราคาที่ถูกกว่าที่อื่น

ส่วนสายอาร์ตที่รักการแต่งบ้านเป็นชีวิตจิตใจ ต้องอย่าลืมดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน NocNoc มาไว้ในมือถือ เพื่อค้นหาสไตล์การแต่งบ้านที่ใช่และถูกต้องด้วยฟังก์ชัน Your Style Quiz และฟังก์ชัน Inspiration Feed ที่จัดเต็มไอเดียแต่งบ้านที่ทั้งสวยทั้งปังแบบฉุดไม่อยู่ ช่วยให้เพื่อน ๆ มีบ้านสวยถูกใจเหมือนในฝัน

*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน