• Idea&Inspiration

แต่งบ้านให้ชิคด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบเจแปนนีสสไตล์

  • โดย NocNoc Writer

  • 3

หลายคนน่าจะเคยสงสัยว่า ทำไมบ้านหรือโรงแรมที่เคยไปพักที่ญี่ปุ่น ถึงจะมีพื้นที่ขนาดเล็กแต่กลับดูเป็นสัดส่วน มีฟังก์ชันการใช้งานครบครันและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เรียกได้ว่ามีพร้อมทั้งประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามถึงแม้จะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม วันนี้ NocNoc.com เลยขอนำ Tips & Tricks แต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ญี่ปุ่น ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้มาเอาใจคนรักการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ Ikimashou! ไปดูพร้อมกันเลย

1. ดีไซน์น้อยแต่มากเรียบแต่โก้ สโลแกนมินิมอลสไตล์

การแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่พบเห็นได้บ่อย คือการออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ ความเรียบง่ายในสไตล์ญี่ปุ่นนั้นมีความใกล้เคียงกับ loft design ของทางตะวันตกแต่ minimal style ของญี่ปุ่นนั้นจะให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่า สไตล์การแต่งบ้านแบบญี่ปุ่นนี้จึงสามารถแต่งออกมาให้สวยได้ง่ายโดยใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งน้อยชิ้น

kNOCK Tips : การ แต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ญี่ปุ่น ควรเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ “ชิ้นหลัก” ของห้องก่อน เช่น เตียง โต๊ะ โซฟาซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น โดยใช้ให้น้อยชิ้นมากที่สุดและควรเลือกที่มีดีไซน์เรียบง่าย ส่วนของตกแต่งควรเลือกที่มีขนาดเล็กทำจากไม้หรือโลหะ หรือจะเป็นต้นไม้ขนาดเล็กก็ได้ เพื่อให้ห้องยังคงมีเอกลักษณ์ของ “Less is more” น้อยแต่มากของสไตล์มินิมอลอยู่

2. เพิ่มความรู้สึกอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้

ไม้เป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะมีความแข็งแรงทนทาน โดยเฟอร์นิเจอร์ไม้แต่ละชิ้นก็จะมีสีและลวดลายของไม้ที่แตกต่างกัน เฟอร์นิเจอร์ไม้บางชนิดจึงไม่นิยมลงสีย้อม เพื่อโชว์สีและลวดลายธรรมชาติของไม้ สีธรรมชาติของไม้ทางจิตวิทยายังให้ความรู้สึกความอบอุ่น โดยส่วนใหญ่มักจับคู่เฟอร์นิเจอร์ไม้กับสีขาวเป็นหลักเพื่อให้ดูเรียบง่าย มีความสะอาดและสบายตา นอกจากนี้เฉดสีของไม้ยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่น ไม้สีอ่อนจะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตาสามารถมองได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ

kNOCk Tips : เพิ่มความรู้สึกอบอุ่นในบ้านด้วยวัสดุปูพื้นลายไม้ทดแทนพื้นไม้จริงที่มีราคาถูกกว่าและการดูแลรักษาที่ง่ายกว่า อย่างกระเบื้องยางลายไม้ พื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เป็นต้น

3. คุมโทนไว้ไม่ให้เอาท์

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเริ่มตกแต่งห้องสไตล์มินิมอล วิธีหนึ่งที่ใครๆก็สามารถทำได้คือ คุมโทนสีทั้งห้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสีผนังห้อง สีเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่สีของตกแต่ง โดยสีที่ “เจแปนนีสมินิมอลลิสต์” ส่วนใหญ่นิยมใช้ตกแต่งห้องคือ สีขาว สีครีม และสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งเป็นสีเอิร์ธโทนที่ให้ความคลาสสิค นอกจากนี้อาจเพิ่มของตกแต่งชิ้นเล็กอย่างกรอบรูปตั้งโต๊ะ กระถางต้นไม้ขนาดเล็กที่มีโทนสีเดียวกัน เช่น สีฟ้า น้ำเงิน เขียวซึ่งเป็นสีโทนเย็นเหมือนกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับห้องและไม่ให้ความรู้สึกจำเจมากจนเกินไป

kNOCk Tips : หากต้องการคุมโทนสีทั้งห้องให้ไปในทิศทางเดียวกันแต่ยังมีความโดดเด่นสะดุดตาขึ้นมาบ้าง อาจเลือกใช้สีพื้นหรือผนังให้ตัดกันเล็กน้อย แต่ยังคงโทนสีที่ใกล้เคียงกันอยู่ เช่น ใช้วอลเปเปอร์สีครีมกับปูพื้นกระเบื้องยางลายไม้สีน้ำตาล

4. มัลติฟังก์ชันเฟอร์นิเจอร์คือคำตอบ!

มัลติฟังก์ชันเฟอร์นิเจอร์ คือ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลายเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ในพื้นที่จำกัด โดยเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่กำลังต้องการเพิ่มพื้นที่อันมีจำกัดในห้อง หรือต้องการลดจำนวนชิ้นเฟอร์นิเจอร์เพื่อลดความแออัดในห้องให้มากที่สุด โดยนอกจากจะมีความสวยงามแล้วยังมีประสิทธิภาพในด้านประโยชน์ใช้สอยอีกด้วย เช่นโซฟาที่สามารถปรับเป็นเตียงนอนได้ หรือตู้เสื้อผ้าที่บานตู้เป็นกระจกส่องในตัว มัลติฟังก์ชันเฟอร์นิเจอร์นับเป็นเฟอร์นิเจอร์ทางเลือกอีกประเภทที่กำลังมาแรงเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองโดยเฉพาะ

kNOCk Tips : มัลติฟังก์ชันเฟอร์นิเจอร์มักมาในรูปแบบของการบิวท์อิน (Built-in) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทานให้กับเฟอร์นิเจอร์ ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจเพราะเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินเมื่อติดตั้งแล้วจะแก้ไขได้ยาก และอาจเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลง

5. ผนัง…พื้นที่ที่ไม่ควรมองข้าม

ด้วยพื้นที่ที่มีจำกัดอาจทำให้หลายคนมีพื้นที่ในการเก็บของไม่เพียงพอ แต่รู้หรือไม่ว่าผนังห้องก็สามารคถเป็นที่เก็บของได้เช่นกัน โดยอาจเลือกเฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้หรือชั้นวางของที่ติดกับผนังเพื่อให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุด ซึ่งในปัจจุบันมีเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์หลากหลายที่ออกแบบมาให้คุณได้เลือกตามความชอบและความเหมาะสมและยังสามารถเป็นได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง อย่างไรก็ดีนอกจากจะให้ความสำคัญกับดีไซน์และความสวยงามแล้ว ต้องไม่ลืมนึกถึงความแข็งแรงทนทานของเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์อย่างตู้หรือชั้นวางของติดผนังซึ่งต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ

kNOCk Tips : ควรเลือกซื้อชั้นวางแบบติดผนังหรือชั้นวางแบบพิงผนังที่ไม่ปิดทึบเพื่อให้ห้องดูปลอดโปร่งโล่งสบาย นอกจากนี้สีของชั้นวางก็ควรเป็นไปในโทนเดียวกับห้องด้วย

6. แต่งบ้านเพื่อผ่อนคลายจากชีวิตประจำวัน

บ้านเป็นเหมือนสวรรค์บนดินสำหรับทุกคนที่ไม่ว่าใครก็ต่างใฝ่ฝันอยากจะมีเป็นของตัวเองทั้งนั้นซึ่งเปรียบเสมือนสถานที่ที่เราใช้พักผ่อนจากอาการเหนื่อยล้าและความวุ่นวายที่เราพบเจอในแต่ละวัน ดังนั้นบ้านจึงเป็นเหมือนแหล่งพลังงานที่ควรให้ความรู้สึกสดชื่น อบอุ่น และผ่อนคลาย เราจึงควรออกแบบตกแต่งให้สิ่งแวดล้อมภายในบ้านทำให้เกิดความรู้สึกดังกล่าวโดยการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีอ่อน มีประตูหน้าต่างเพียงพอเพื่อให้มีอากาศถ่ายเท มีแสงธรรมชาติเข้าไปในบ้านอย่างทั่วถึง มีอุณหภูมิเหมาะสมไม่เย็นหรือร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ควรจัดมุมสำหรับพักผ่อนส่วนตัวเพื่อเป็นที่ชาร์จพลังงานให้กับตัวคุณเองโดยเฉพาะ

kNOCk Tips : หาต้นไม้ขนาดเล็กมาประดับภายในบ้านเพื่อเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย และเติมความสดชื่นเหมือนได้ชาร์จแบตให้กับตัวเอง และอาจจัดมุมสำหรับงานอดิเรกที่ชื่นชอบ เช่นทำพื้นที่อ่านหนังสือข้างเตียง ด้วยการปูพรมสไตล์มินิมอลและนำโต๊ะญี่ปุ่นมาวาง เพียงเท่านี้ก็สามารถเพิ่มพื้นที่พักผ่อนเล็กๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่เติมความสุขให้ใหญ่ได้

7. เลือกขนาดเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับตัวเอง

สำหรับชาวมินิมอลลิสต์แล้ว การเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้มีขนาดเหมาะกับการใช้งานเป็นเรื่องสำคัญ เช่น ถ้าเป็นการตกแต่งคอนโดที่อยู่คนเดียว ก็อาจเลือกใช้โต๊ะทานอาหารขนาดเล็กกับเก้าอี้หนึ่งตัว ตั้งประกบคู่กับโซฟาเพื่อให้เกิดการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยนอกจากจะได้ประโยชน์ในเรื่องของการประหยัดพื้นที่แล้ว การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

kNOCk Tips : ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสไตล์การตกแต่งรวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่างๆเพื่อให้ได้ห้องที่ถูกใจคุณมากที่สุด โดยสามารถหาข้อมูลความรู้ ไอเดียและแรงบันดาลใจต่างๆในการตกแต่งห้องได้ที่ NocNoc.com เว็บไซต์ที่ได้ทำการรวบรวมร้านค้าวัสดุ ของแต่งบ้าน รวมถึงเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่นให้คุณได้เลือกซื้อและเปรียบเทียบในราคาที่คุณถูกใจ พร้อมบริการขนส่งถึงหน้าบ้านคุณ อย่ามัวรอช้า! มาช้อปความมินิมอลเข้าบ้านกัน ?

อ้างอิงข้อมูลจาก:
บทความที่เกี่ยวข้อง