• Knowledge

พื้นไม้ลามิเนต | 3 สิ่งต้องเตรียมให้พร้อมก่อนติดตั้ง

  • โดย NocNoc Writer

  • 8

พื้นไม้ลามิเนต เป็นวัสดุปูพื้นภายในบ้านที่มีลักษณะและผิวสัมผัสคล้ายไม้จริง มีลวดลายและสีสันให้เลือกหลากหลาย โดยส่วนใหญ่มีราคาไม่สูงมาก ติดตั้งได้รวดเร็ว หลังจากติดตั้งก็สามารถใช้งานได้ทันที มีน้ำหนักเบาและทนทาน และข้อดีที่เห็นได้ชัดคือผิวหน้าทนต่อรอยขีดข่วนมากกว่าไม้จริง อย่างไรก็ตาม มีปัญหาที่พบได้บ่อยหลังจากการติดตั้งหรือเมื่อได้ใช้งานไปแล้ว เช่น มีเสียงเกิดขึ้นขณะเดินไปมา โก่งนูน ลาดเอียง หรือบวม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่คุณภาพวัสดุของแผ่นไม้พื้นลามิเนต การเตรียมพื้นที่ก่อนติดตั้ง ตลอดจนมาตรฐานการติดตั้ง ดังนั้นก่อนติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่หรือบ้านเก่า NocNoc.com มี 3 แนวทางในการการตรวจสอบสภาพพื้นบ้านรวมถึงไม้พื้นลามิเนตที่เลือกใช้มาแนะนำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเวลาใช้งานภายหลัง

1.พื้นบ้านหรือพื้นผิวที่จะติดตั้งไม้พื้นลามิเนตควรปราศจากความชื้น

ถึงแม้ไม้พื้นลามิเนตจะมีคุณสมบัติหลายประการที่ใกล้เคียงไม้พื้นตามธรรมชาติ แต่ตัววัสดุหลักที่เป็น HDF หรือ MDF มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าไม้จริง และยังไม่ทนความร้อนกับความชื้นเท่าไรนัก เพราะอาจทำให้ไม้พื้นลามิเนตบวม รวมถึงมีปัญหาปลวกตามมาอีกด้วย ไม้พื้นลามิเนตจึงเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับพื้นภายในอาคารที่มีการระบายถ่ายเทอากาศที่ดี และปราศจากความชื้นหรือปัญหารั่วซึมต่าง ๆ โดยเฉพาะห้องน้ำ  ห้องครัว บริเวณที่อยู่ใกล้ห้องน้ำ บริเวณใกล้ประตูหน้าต่างที่มีปัญหารั่วซึมจากน้ำฝน รวมทั้งพื้นชั้นล่างของอาคารที่อาจได้รับความชื้นจากพื้นดิน ดังนั้น หากมีการเทปูนปรับระดับ (โดยเฉพาะบ้านสร้างใหม่) ควรติดตั้งไม้พื้นหลังจากเทปูนปรับระดับแล้ว 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นผิวก่อนจะติดตั้งไม้พื้นลามิเนตแห้งดี หรือมีความชื้นในเกณฑ์ที่เหมาะสม (สามารถใช้เครื่องวัดความชื้นที่พื้นผิววัสดุ โดยควรมีค่าความชื้นไม่เกิน 12%)

การติดตั้งไม้พื้นลามิเนต ควรเตรียมความพร้อมเรื่องพื้นที่จะติดตั้งเป็นอย่างดี เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาตามมา
การติดตั้งไม้พื้นลามิเนต ควรเตรียมความพร้อมเรื่องพื้นที่จะติดตั้งเป็นอย่างดี เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาตามมา
ห้องที่เหมาะสมจะติดตั้งไม้พื้นลามิเนต ควรเป็นห้องที่มีอากาศถ่ายเท ไม่โดนความร้อนหรือความชื้น เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เป็นตัน
ห้องที่เหมาะสมจะติดตั้งไม้พื้นลามิเนต ควรเป็นห้องที่มีอากาศถ่ายเท ไม่โดนความร้อนหรือความชื้น เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เป็นตัน

2.พื้นผิวที่จะติดตั้งต้องเรียบได้ระดับแข็งแรงดี

สิ่งสำคัญคือพื้นที่จะติดตั้งไม้พื้นลามิเนตจะต้องเรียบได้ระดับสม่ำเสมอกันทั้งผืน ไม่ว่าจะเป็นพื้นคอนกรีตหรือพื้นที่มีการติดตั้งวัสดุกรุผิวไปแล้ว สำหรับบ้านสร้างใหม่กรณีพื้นคอนกรีต หากเป็นโครงสร้างพื้นคอนกรีตที่เทปูนปรับระดับผิวขัดมันที่เรียบได้ระดับดีอยู่แล้วก็สามารถติดตั้งไม้พื้นลามิเนตได้เลย แต่หากว่ามีระดับต่างกันเกิน 3 มม. จะต้องมีการปรับระดับให้เรียบร้อย โดยเมื่อปรับระดับแล้วควรรอให้ปูนเซตตัวแห้งสนิทเสียก่อน (รอให้แห้งประมาณ 3 สัปดาห์ขึ้นไป) เพื่อป้องกันความชื้นที่จะทำความเสียหายกับพื้นลามิเนต สำหรับบ้านเดิมที่พื้นมีการกรุด้วยวัสดุตกแต่งผิว เช่น กระเบื้องเซรามิก หินขัด หินแกรนิต หินอ่อน หรือกระเบื้องยาง หากพื้นผิวเรียบได้ระดับ (มีระดับต่างกันไม่เกิน 3 มม.) ไม่แตกร้าว หลุดล่อน จะสามารถติดตั้งไม้พื้นลามิเนตทับได้โดยไม่ต้องรื้อถอน ส่วนกรณีที่มีวัสดุตกแต่งผิวแตกร้าวชำรุดหรือหลุดล่อน และกรณีที่พื้นเดิมกรุผิวด้วยพรม ไม้พื้นปาร์เกต์ จะต้องรื้อวัสดุกรุผิวเดิมออกทั้งหมด และอาจซ่อมแซมหรือปรับระดับพื้นผิวให้เรียบก่อนการติดตั้งไม้พื้นลามิเนต สำหรับกรณีพื้นระบบโครงเบาที่เรียบได้ระดับ ติดตั้งถูกวิธีตามมาตรฐานการติดตั้งอยู่แล้ว  ก็สามารถติดตั้งไม้พื้นลามิเนตทับได้เลย ทั้งนี้ การติดตั้งไม้พื้นลามิเนตทับพื้นเดิม ระดับพื้นจะสูงขึ้นซึ่งอาจกระทบการใช้งานอื่นๆ เช่น การเปิดปิดประตู ระดับขั้นบันไดขั้นแรก เป็นต้น

ตัวอย่างพื้นเดิมที่เรียบได้ระดับดีอยู่แล้ว จะสามารถติดตั้งไม้พื้นลามิเนตทับได้เลย
ตัวอย่างพื้นเดิมที่เรียบได้ระดับดีอยู่แล้ว จะสามารถติดตั้งไม้พื้นลามิเนตทับได้เลย
พื้นที่ปูด้วยพรม หรือกรุด้วยวัสดุตกแต่งผิวอื่นๆ ที่ชำรุดหลุดล่อน จะต้องรื้อวัสดุกรุผิวเดิมออกทั้งหมด ทำความสะอาดพื้นผิว ปรับพื้นให้เรียบได้ระดับ แล้วจึงติดตั้งไม้พื้นลามิเนต
พื้นที่ปูด้วยพรม หรือกรุด้วยวัสดุตกแต่งผิวอื่นๆ ที่ชำรุดหลุดล่อน จะต้องรื้อวัสดุกรุผิวเดิมออกทั้งหมด ทำความสะอาดพื้นผิว ปรับพื้นให้เรียบได้ระดับ แล้วจึงติดตั้งไม้พื้นลามิเนต
พื้นที่ปูด้วยพรม หรือกรุด้วยวัสดุตกแต่งผิวอื่นๆ ที่ชำรุดหลุดร่อน จะต้องรื้อวัสดุกรุผิวเดิมออกทั้งหมด ทำความสะอาดพื้นผิว ปรับพื้นให้เรียบได้ระดับ แล้วจึงติดตั้งไม้พื้นลามิเนต
พื้นที่ปูด้วยพรม หรือกรุด้วยวัสดุตกแต่งผิวอื่นๆ ที่ชำรุดหลุดร่อน จะต้องรื้อวัสดุกรุผิวเดิมออกทั้งหมด ทำความสะอาดพื้นผิว ปรับพื้นให้เรียบได้ระดับ แล้วจึงติดตั้งไม้พื้นลามิเนต

3.ตรวจสอบไม้พื้นลามิเนตที่ได้มาก่อนติดตั้ง

เมื่อได้ไม้พื้นลามิเนตแล้ว ควรตรวจสอบรุ่น สี ขนาด และจำนวนว่าถูกต้องตรงตามที่สั่งไว้ สังเกตคุณภาพแผ่นไม้ ต้องไม่โก่งแอ่น ไม่บิดเบี้ยว มีขนาดเท่ากันทุกแผ่น ตัวแผ่นไม้ไม่มีส่วนที่บิ่นหรือหัก โดยเฉพาะที่ผิวหน้าไม้ต้องไม่มีรอยขีดข่วน ลอก หรือบิ่น

ตรวจสอบรุ่น สี ขนาด จำนวน คุณภาพของไม้พื้นลามิเนตทุกแผ่นก่อนการติดตั้ง
ตรวจสอบรุ่น สี ขนาด จำนวน คุณภาพของไม้พื้นลามิเนตทุกแผ่นก่อนการติดตั้ง

นอกจาก 3 แนวทางข้างต้นแล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงคือ ช่วงเวลาติดตั้งไม้พื้นลามิเนตควรเข้าเป็นลำดับสุดท้ายในขั้นตอนงานตกแต่ง ซึ่งก็คือ หลังงานติดตั้งฝ้าเพดาน งานไฟฟ้า-ประปา งานเครื่องปรับอากาศ งานผนัง งานทาสี งานประตูหน้าต่าง เพื่อลดโอกาสที่แผ่นไม้พื้นเสียหาย โดยขนย้ายวัสดุต่างๆ ที่กองไว้บนพื้นออกให้หมด รวมถึงทำความสะอาดผิวพื้นให้เรียบร้อยและปล่อยให้แห้งสนิท ก่อนการติดตั้งจริง ควรกำหนดรูปแบบและทิศทางการปูให้เรียบร้อย (ว่าจะวางตามแนวยาวหรือแนวกว้างของห้อง) โดยลองจัดวางลวดลายหรือแพทเทิร์นการปูไม้พื้นลามิเนตก่อนเพื่อดูความสวยงามในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ลายไม้แต่ละแผ่นมีความต่อเนื่องกัน หรือเป็นลายไม้แบบสุ่ม (แบบ Random) เพื่อให้ได้พื้นไม้ลามิเนตที่สวยถูกใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง