เช่าคอนโด vs ซื้อคอนโด อยู่คอนโดแบบไหนคุ้มกว่ากัน?

NocNoc สรุปให้

• การติดสินใจเลือกระหว่างเช่าหรือซื้อคอนโดดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ทั้งด้านค่าใช้จ่าย ด้านไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ด้านการตกแต่งภายใน ด้านสิทธิทางภาษี ด้านการดูแลบำรุงรักษา และด้านการลงทุนในอนาคต
• โดยการเช่าคอนโดเหมาะกับคนที่ชอบไลฟ์สไตล์ยืดหยุ่น ไม่ผูกมัด จะย้ายที่ทำงาน ย้ายที่อยู่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่การซื้อคอนโด จะเหมาะกับคนที่พร้อมวางแผนชีวิตในระยะยาว หรือคนที่อยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่มั่นคงและคุ้มค่า

ทุกวันนี้คอนโดกลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตของคนเมือง ทั้งคนที่เพิ่งจบใหม่ คนทำงานประจำ รวมถึงฟรีแลนซ์ แต่หลายคนยังติดสินใจไม่ได้ว่าจะเช่าหรือซื้อคอนโดดี วันนี้ NocNoc เลยจะมาเปรียบเทียบระหว่างการซื้อหรือเช่าคอนโดแบบไหนดีกว่ากัน ทั้งในด้านการเงิน ไลฟ์สไตล์ การตกแต่ง สิทธิทางภาษี การดูแลรักษา และการลงทุน เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนสามารถเลือกในสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด

• เช่าคอนโด: เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการการผูกมัดระยะยาว ชอบการใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่นไม่ต้องเสียค่าจอง ค่าทำสัญญา หรือค่าโอนกรรมสิทธิ์ สามารถเลือกเรทค่าเช่าได้ตามต้องการ ตามทำเลและขนาดห้อง โดยค่าใช้จ่ายในการเช่าคอนโดจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะต้องจ่ายตอนทำสัญญาเช่ากับ เจ้าของห้อง ซึ่งจะมีค่าประกันห้อง 2 เดือน และค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน และหากเช่าครบตามสัญญาและย้ายออกโดยที่ห้องอยู่ในสภาพเดิมจะได้ค่าประกันห้องคืนเต็มจำนวน และส่วนที่ 2 จะเป็นค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ และค่าไฟ ที่ต้องจ่ายเป็นรายเดือน

ตัวอย่างเช่น: ค่าประกันห้อง 9,000 บาท ค่าเช่าคอนโดเดือนละ 9,000 บาท ตอนทำสัญญาเช่าคอนโดจะมีค่าใช้จ่าย 27,000 บาท และถ้าค่าน้ำค่าไฟเฉลี่ยเดือนละ 2,000 บาท จะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนอยู่ที่ 11,000 บาท

• ซื้อคอนโด: เหมาะกับคนที่มีรายได้ที่มั่นคง เพื่อให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างค่างวดผ่อนระยะยาวที่ต้องรับผิดชอบ

สำหรับคนที่อยากซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง จะมีค่าใช้จ่าย 2 ส่วนเช่นกัน โดยส่วนแรกจะเป็นค่าใช้จ่ายช่วงทำสัญญา ไม่ว่าจะเป็น เงินดาวน์ ค่าจองคอนโด ค่าทำสัญญา และค่าใช้จ่ายวันโอน

• เงินดาวน์: อยู่ที่ประมาณ 5-10% ของราคาคอนโด
• ค่าจองคอนโด: อยู่ที่ประมาณ 1,000-10,000 บาท โดยจ่ายตรงกับโครงการ เพื่อทำการจองห้องคอนโดที่ต้องการ
• ค่าทำสัญญา: อยู่ที่ประมาณ 5,000-100,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ
• ค่าใช้จ่ายวันโอน: จะมีทั้งค่าโอนกรรมสิทธิ์ อยู่ที่ประมาณ 2% และค่าจดจำนอง อยู่ที่ประมาณ 1% และค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขายคอนโด โดยบางโครงการคอนโด อาจมีโปรโมชันฟรีค่าโอน

นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายหลังเข้าอยู่ ที่ต้องคำนวณให้รอบคอบ เพื่อนำไปประเมินเทียบกับรายได้ว่าเหมาะสมหรือเพียงพอหรือไม่

• ค่างวดผ่อน: อยู่ที่ประมาณ 10,000-30,000 บาท แล้วแต่ราคาคอนโด ระยะเวลาการผ่อน และดอกเบี้ย ตามโปรโมชันธนาคารที่ทำเรื่องกู้มา 
• ค่าสาธารณูปโภค: ค่าน้ำและค่าไฟ
• ค่าส่วนกลาง: จะแตกต่างกันไปตามโครงการและขนาดห้อง
• ค่าตกแต่ง: อย่างค่าปูพื้น ค่าเฟอร์นิเจอร์ และค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า

 ตัวอย่างเช่น: นางสาว A ต้องการซื้อคอนโด 3,000,000 บาท จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมดังนี้ 

• ค่าใช้จ่ายช่วงแรก: เงินดาวน์ 300,000 บาท, ค่าจองคอนโด 5,000 บาท, ค่าทำสัญญา 30,000 บาท, ค่าโอนกรรมสิทธิ์ 60,000 บาท, ค่าจดจำนอง 30,000 บาท ค่าตกแต่งห้องโดยประมาณ 200,000 บาท รวมเป็นเงินที่ใช้ประมาณ 625,000 บาท
• ค่าใช้จ่ายเมื่อเข้าอยู่: ค่างวดผ่อน 20,000 บาท, ค่าน้ำค่าไฟ 1,500 บาท, ค่าส่วนกลาง 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 22,500 บาท / เดือน

• เช่าคอนโด: ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตไม่หยุดนิ่ง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยังไม่เจองานที่ใช่ ยังคิดว่ามีโอกาสที่ต้องย้ายที่ทำงานในอนาคต มีแพลนจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ การเช่าคอนโดจะเหมาะสมกว่า เพราะสามารถย้ายออกได้ง่ายเมื่อหมดสัญญา ไม่ต้องเสียเวลาทำเรื่องปล่อยเช่าหรือขายต่อ ดังนั้นใครที่กำลังชั่งใจว่าจะเช่าหรือซื้อคอนโดดี ต้องไม่ลืมนึกถึงเรื่องไลฟ์สไตล์ของตัวเองเด็ดขาด

• ซื้อคอนโด: ตอบโจทย์กับคนที่มีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน เช่น อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง หรือวางแผนปักหลักอยู่ในเมืองแบบยาวๆ รวมไปถึงคนทำงานประจำที่รู้สึกว่างานที่ทำอยู่ลงตัวในทุกด้าน จนไม่คิดจะย้ายออฟฟิศไปไหน การซื้อคอนโดอาจจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว เพราะช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตได้ดี หรือเป็นคนที่ติดบ้านมากๆ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน การมีบ้านเป็นเซฟโซนของตัวเอง การซื้อคอนโดก็ช่วยให้สามารถตกแต่งห้องได้เต็มที่ จัดสรรชีวิตได้ตามใจ ออกแบบมุมทำงานหรือมุมพักผ่อนได้ตามต้องการ หรือแม้แต่คนที่อยากเลี้ยงสัตว์ ก็สามารถหาโครงการที่อนุญาตแล้วเลี้ยงสัตว์ที่ตัวเองชอบได้

• เช่าคอนโด: การตกแต่งภายในมีข้อจำกัดอยู่พอสมควร เพราะโดยส่วนใหญ่เจ้าของห้องจะจัดหาเฟอร์นิเจอร์แบบพร้อมอยู่มาให้แล้ว อย่างเช่น เตียง โซฟา ชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงาน และถ้าใครต้องการเปลี่ยนบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถประดับของตกแต่งที่ไม่ต้องเจาะ อย่างการเปลี่ยนผ้าม่าน ซื้อพรมมาวางเพิ่ม หรือใช้ของตกแต่งแบบลอยตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนหักค่าประกันห้องเวลาย้ายออก หรือต้องปรับปรุงห้องให้เหมือนสภาพเดิมก่อนย้ายออก
• ซื้อคอนโด: สายอาร์ตที่ชอบแต่งห้องเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำให้ซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง เพราะสามารถตกแต่งห้องในแบบที่ตัวเองต้องการ ทั้งทาสีใหม่ ติดวอลเปเปอร์ เปลี่ยนพื้น เปลี่ยนไฟ หรือบิ้วอินตู้เสื้อผ้า ตู้ครัว ก็จัดได้หมด ซึ่งการแต่งห้องในสไตล์ที่ตัวเองชอบถือเป็นความฝันของใครหลายคน เพราะการที่ได้เปลี่ยนพื้นที่เล็กๆ ให้กลายเป็น โลกส่วนตัว อย่างมุมนั่งอ่านหนังสือ มุมดูซีรีส์ มุมจิบกาแฟเล็กๆ ก็ช่วยเติมเต็มชีวิตได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าใครกำลังลังเลว่าจะซื้อหรือเช่าคอนโดดี ถ้าเป็นสายแต่งบ้านจริงจัง การซื้อคอนโดจะตอบโจทย์มากกว่าแน่นอน

• เช่าคอนโด: สำหรับคนที่เลือกเช่าคอนโด โดยทั่วไปจะไม่ได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จากค่าเช่าที่จ่ายในแต่ละเดือน เนื่องจากค่าเช่าไม่ถือเป็นทรัพย์สินของคนเช่า จึงไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้ 
• ซื้อคอนโด: การซื้อคอนโดจะมาพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากคนที่กู้ซื้อคอนโดจากธนาคาร จะสามารถใช้ดอกเบี้ยเงินกู้ มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจริงสูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี

• เช่าคอนโด: ไม่ต้องคอยจ่ายค่าส่วนกลาง ไม่ต้องออกเงินค่าซ่อมต่างๆ ถือเป็นข้อดีของการเช่าคอนโด เพราะการดูแลห้องหรือระบบต่างๆ ในห้อง ไม่ว่าจะเป็นแอร์เสีย น้ำรั่ว หรือเครื่องทำน้ำอุ่นพัง ส่วนใหญ่แล้วเจ้าของห้องจะต้องเป็นคนดูแลและออกค่าใช้จ่ายให้ (ยกเว้นในกรณีที่คนเช่าทำเสียหายเอง) นอกจากนี้ยังไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางรายเดือนหรือรายปีด้วย เพราะเจ้าของห้องจะเป็นคนชำระให้แทนอยู่แล้ว
• ซื้อคอนโด: แน่นอนว่าเมื่อซื้อคอนโดมาเป็นของตัวเองแล้ว จะต้องรับผิดชอบทุกอย่างเกี่ยวกับห้องคอนโดนั้น ทั้งการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ท่อน้ำ เฟอร์นิเจอร์ หรือส่วนอื่นๆ ภายในห้อง ในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้น จึงต้องเตรียมงบไว้ให้พร้อมในกรณีฉุกเฉิน อีกทั้งยังมีค่าส่วนกลาง ที่ต้องรับผิดชอบ โดยนิติของคอนโดจะเรียกเก็บทุกเดือนหรือทุกปี โดยค่าส่วนกลางจะขึ้นอยู่กับขนาดห้องและนโยบายของโครงการ อย่างเช่น ห้องขนาด 30 ตร.ม. ค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 50 บาทต่อเดือน ก็จะต้องจ่ายเดือนละ 1,500 บาท หรือปีละ 18,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้จะถูกเอาไปใช้ดูแลพื้นที่ส่วนกลางของคอนโด เช่น ลิฟต์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ รปภ. และค่าบำรุงรักษาทั่วไป

• เช่าคอนโด: สำหรับการเช่าคอนโด แม้จะใช้ชีวิตได้แบบยืดหยุ่น ไม่ต้องแบกภาระหนี้หรือดูแลทรัพย์สิน แต่ในแง่ของการลงทุน ถือว่าไม่มีผลตอบแทนกลับมาเลย เพราะเงินค่าเช่าที่จ่ายไปในแต่ละเดือนถือเป็น ค่าใช้จ่ายถาวรที่ไม่ได้เปลี่ยนมาเป็นทรัพย์สิน แต่อย่างไรก็ตามการเช่าคอนโดจะเหมาะกับคนที่อยากเก็บเงินไปลงทุนในด้านอื่นๆ เช่น กองทุน หุ้น หรือการทำธุรกิจ ที่อาจให้ผลตอบแทนมากกว่า แถมยังไม่ต้องเสี่ยงกับปัญหาราคาตกหรือปล่อยเช่าไม่ได้ในอนาคต
• ซื้อคอนโด: ถือเป็นการลงทุนระยะยาว ที่มีโอกาสเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้ ยิ่งถ้าคอนโดของเราอยู่ในทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า มหาวิทยาลัย หรือแหล่งออฟฟิศ โอกาสที่จะมีคนเช่าก็มาก ส่วนราคาคอนโดก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย สายลงทุนที่กำลังคิดว่าจะซื้อหรือเช่าคอนโดดีนั้น แนะนำให้เลือกซื้อคอนโดไปเลย เพราะแม้จะใช้เงินก้อนและมีภาระผ่อนรายเดือน แต่สุดท้ายแล้วคอนโดก็จะกลายเป็นทรัพย์สินของเรา สร้างรายได้ประจำหรือขายทำกำไรในอนาคตได้ด้วย

ถ้าเพิ่งเริ่มทำงานสดๆ ร้อนๆ แนะนำให้เช่าคอนโด ไปก่อนจะเหมาะกว่า เพราะยังไม่รู้ว่าจะทำงานที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน หากมีการย้ายงานในอนาคตข้างหน้า การเช่าคอนโดจะง่ายต่อการย้ายมากกว่า เพราะไม่มีการผูกมัด ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ แถมยังเปิดโอกาสให้ได้ลองใช้ชีวิตในทำเลต่างๆ ก่อนตัดสินใจว่าจะลงหลักปักฐานที่ไหนในอนาคต

ความจริงแล้ว อายุไม่ใช่ตัวกำหนด ว่าควรซื้อคอนโดเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่ควรดูคือความพร้อมด้านการเงิน และเป้าหมายในชีวิต บางคนเริ่มคิดเรื่องซื้อคอนโดตั้งแต่อายุ 23-25 เพราะมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการที่อยู่เป็นของตัวเอง ในขณะที่บางคนอาจเริ่มตอนอายุ 30+ ในเวลาที่งาน รายได้ และไลฟ์สไตล์ มั่นคงแล้ว

สำหรับคนที่อยู่คนเดียว เหมาะกับการเช่าหรือซื้อคอนโดขนาด 25-35 ตารางเมตร เพราะไม่แคบหรือกว้างจนเกินไป ช่วยประหยัดค่าไฟ ดูแลและทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

• เลือกเช่าคอนโด: เพราะชอบความคล่องตัว แนะนำเป็นห้องสตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางง่าย ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง
• เลือกซื้อคอนโด: เพื่ออยู่ยาวๆ หรือมีแผนปล่อยเช่าในอนาคต แนะนำเป็น 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตรขึ้นไป เพื่อความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว แถมยังปล่อยเช่าได้ง่าย

จริงๆ แล้วอาจไม่มีคำตอบตายตัวว่าเช่าหรือซื้อคอนโดดีกว่า เพราะทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ไลฟ์สไตล์ เป้าหมายในชีวิต และสถานะทางการเงิน ของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป

ห้ามพลาด! บทความน่ารู้สำหรับชาวคอนโด อยู่คอนโดยังไงให้แฮปปี้ ต้องอ่าน

• เช็กให้ดีก่อนโอน! ตรวจคอนโดด้วยตัวเองต้องทำยังไงให้ไม่พลาด
• ฮวงจุ้ยคอนโดคนโสด เลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างไรให้ดวงความรักกระฉูด!
• วิธีทำความสะอาดคอนโด ช่วยลดฝุ่น ให้ห้องน่าอยู่กว่าเดิม

ตอนนี้ทุกคนคงเลือกได้แล้วว่าจะซื้อหรือเช่าคอนโดดี ซึ่งคอนโดที่ใช่ไม่ได้อยู่ที่การเป็นเจ้าของหรือผู้เช่า แต่อยู่ที่ความเหมาะสมและความลงตัวของชีวิต และถ้าใครกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สวยคุณภาพดีราคาเป็นกันเอง สามารถเข้าไปดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ NocNoc แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านคุณภาพดี จัดเต็มด้วยโปรโมชันและโค้ดส่วนลดสุดปังมาให้ช้อปกัน

นอกจากนี้ใครที่อยากหาแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์มินิมอล สไตล์โมเดิร์น สไตล์แสกนดิเนเวีย หรือสไตล์อินดัสเทรียล ก็เข้าไปโหลดแอปพลิเคชัน NocNoc ได้เลย แล้วเลือกที่เมนู  “เทรนด์บ้าน”  ชุมชนที่เชื่อมโยงผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้ใช้จริง ให้เข้ามาแลกเปลี่ยนไอเดียและช่วยสร้างแรงบันดาลใจเรื่องบ้านให้กลายเป็นจริงได้!

โดยเราได้รวบรวมไอเดียกว่า 15,000 ไอเดียจากร้านค้าและ Content Creators ที่มาร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์ และข้อมูลเกี่ยวกับ Home&Living เพื่อช่วยให้การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ช่วยเติมเต็มคอมมูนิตี้ให้อบอุ่นพร้อมต้อนรับคนรักบ้านทุกคน

อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Your Style Quiz เพื่อค้นหาสไตล์แต่งบ้านที่ตรงใจและ Inspiration Feed ให้เห็นการแต่งบ้านหลากหลายไอเดีย พร้อมช้อปแบบเพลินๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะเรื่องบ้าน เลือกจนกว่าจะชอบ

• สินค้าเรื่องบ้านให้เลือกเยอะกว่า 900,000 รายการ จากหลากหลายร้านค้าชั้นนำ
• มี AI ช่วยเลือกสินค้าตามสไตล์ที่ทุกคนชื่นชอบ
• ช้อปง่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดส่งทั่วไทย
• บริการงานช่างครบวงจร ไว้ใจได้ ทั้งบริการทำความสะอาด ซ่อมบำรุง ติดตั้ง และตกแต่ง

ส่วนใครที่อยากปรับปรุงบ้านหรือสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง มองหาที่ปรึกษาเรื่องบ้านและธุรกิจแบบครบวงจร ลองให้ NocNoc Home Solution เป็นตัวช่วย เพราะเรามีบริการครบจบในที่เดียว ทั้งเรื่องสินค้าและช่างผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้าน ให้เรื่องการทำบ้านกลายเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็น

• ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางพร้อมตอบทุกคำถาม พร้อมแนะนำสินค้าและบริการ
• ผู้ช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์และของแต่บ้านที่ตรงใจ สำหรับทุกไลฟ์สไตล์
• ตามหาแบบที่ใช่ด้วยบริการออกแบบ 3D โดย NocNoc Designer
• ศูนย์รวมช่างที่มีประสบการณ์ ควบคุมคุณภาพโดย NocNoc
• รับประกันงานนานสูงสุด 12 เดือน*

สามารถติดต่อเพื่อใช้บริการงานทุกเรื่องบ้าน และบริการงานช่างได้ที่ Line@  https://lin.ee/60NG362

*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

*รีวิวอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

ติดตามโปรโมชันเด็ดและสาระดีๆ เรื่องบ้านได้ที่

💚LINE: lin.ee/27iSjiz

🖤TikTok: tiktok.com/@nocnocth

💜Instagram: instagram.com/nocnocth/

❤️YouTube: youtube.com/nocnocth

💙X: x.com/NocNocTH

🤍Pinterest: pinterest.com/nocnocth