-
Knowledge
พื้นไม้ลามิเนตคืออะไร ?
-
โพสต์เมื่อ 01 Feb 2019
-
โดย NocNoc Writer
-
27
ในปัจจุบันไม้ธรรมชาติมีจำนวนลดลง จึงมีการผลิตวัสดุประเภทอื่นเพื่อทดแทนไม้พื้นที่เป็นไม้จริงทั้งชิ้น หนึ่งในวัสดุที่ใช้ทดแทนไม้พื้นธรรมชาติที่นิยมกันมาก ก็คือ ไม้พื้นลามิเนต (Laminate Wood Floor) หรือที่เรามักเรียกติดปากกันว่า “พื้นไม้ลามิเนต” ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายไม้จริง มีลวดลายสีสันให้เลือกใช้หลากหลายในราคาที่ย่อมเยากว่าไม้จริง ติดตั้งและดูแลรักษาง่าย แข็งแรงทนทานเหมาะจะใช้งานเป็นพื้นไม้ในบ้าน ใครที่ยังลังเลหรือกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับพื้นไม้ลามิเนต วันนี้เราจึงมีความรู้เรื่อง “พื้นไม้ลามิเนต” มาแชร์กัน
ลักษณะของพื้นไม้ลามิเนต
ความหมายของคำว่า “ลามิเนต” หมายถึง เป็นชั้นๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พื้นไม้ลามิเนตเองก็มีลักษณะเป็นชั้นๆ เช่นกัน ประกอบไปด้วย
ขอบคุณภาพจาก : www.dongjiacn.com/product/Laminate-floor-structure.html
ชั้นแกนหลัก (Substrate Layer / Core Board) จะผลิตจากเส้นใยหรือชิ้นไม้ย่อยๆ ผสมกาวและสารเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ นำมาบีบอัดเข้าด้วยกันด้วยความร้อนและแรงดันสูงให้เป็นแผ่น
ชั้นแผ่นรองพื้น (Backing Layer / Stabilizing Film) จะอยู่ใต้ชั้นแกนหลัก มีหน้าที่ช่วยป้องกันความชื้นจากพื้นคอนกรีตที่จะส่งผลต่อความแข็งแรงของแผ่นไม้
ชั้นลวดลายไม้ (Pattern Layer) มีลักษณะเป็นแผ่นวัสดุพิมพ์ลายไม้ปิดทับด้านบน
ชั้นเคลือบผิว (Overlay หรือ Wear Layer) เคลือบผิวชั้นบนสุดด้วยวัสดุป้องกันรอยขีดข่วน
โดยขนาดของพื้นไม้ลามิเนตแต่ละแผ่น มักมีขนาดเทียบกับไม้จริง คือ หน้ากว้างประมาณ 4”, 6” และ 8” ยาวประมาณ 1.20 -1.80 ม. มีหลายความหนาให้เลือกใช้ แต่ที่มีจำหน่ายโดยทั่วไปได้แก่ 8 มม. และ 12 มม.
ประเภทของพื้นไม้ลามิเนต
พื้นไม้ลามิเนตจะมีทั้งที่ติดตั้ง แบบเข้าลิ้น เหมือนไม้พื้นทั่วไป กับอีกแบบหนึ่งซึ่งติดตั้งได้สะดวกรวดเร็วกว่า คือแบบ Click Lock โดยใช้ระบบล็อกเชื่อมต่อกันระหว่างแผ่นไม้ นอกจากนี้พื้นไม้ลามิเนตยังมีทั้งแบบ MDF และ HDF ซึ่งแตกต่างกันที่ความหนาแน่นของไม้ โดย MDF (ย่อมากจาก Medium Density Fiberboard) มีความหนาแน่นที่ 600-800 kg./m3 ส่วน HDF (ย่อมาจาก High Density Fiberboard) จะมีความหนาแน่นเกิน 800 kg./m3 HDF ซึ่งมีความหนาแน่นสูงกว่า จึงมีความทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี และมีอัตราการขยายตัวจากความชื้นน้อยกว่า
พื้นไม้ลามิเนตในท้องตลาดยังมีหลายมาตรฐาน สำหรับพื้นไม้ลามิเนตคุณภาพสูงจะมี Core Board หนาแน่นมาก ผิวหน้าแข็งแรงไม่บวมง่าย มีการเคลือบกันน้ำอย่างดีไม่เว้นแม้แต่ส่วนของร่องลิ้น พื้นไม้ลามิเนตคุณภาพปานกลางจะมี Core Board ที่หนาแน่นน้อยกว่าพื้นไม้ลามิเนตคุณภาพสูง แต่ผิวหน้าจะแข็งแรงพอสมควร ในขณะที่พื้นไม้ลามิเนตคุณภาพต่ำส่วน core board จะมีความหนาแน่นน้อยและผิวหน้าบวมง่ายเมื่อโดนน้ำ
นอกจากนี้ พื้นไม้ลามิเนตยังมีการแบ่งระดับค่าความคงทนของผิวหน้าพื้นไม้ ที่เรียกว่าค่า AC Rating (Abrasion Resistance Class) ซึ่งเป็นไปตามลักษณะการใช้งาน โดยมีระดับตั้งแต่ AC1 ไปจนถึง AC5 อีกด้วย โดยค่ายิ่งสูง ก็ยิ่งมีความคงทนต่อรอยขีดข่วนและแรงกระแทกนั่นเอง
การติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต
พื้นไม้ลามิเนตสามารถนำมาติดตั้งบนพื้นซีเมนต์ หรือแผ่นพื้นซีเมนต์บอร์ด (เช่น ไฟเบอร์ซีเมนต์ ไม้อัดซีเมนต์)ได้ทันที โดยพื้นที่ติดตั้งต้องเรียบได้ระดับ ทั้งยังสามารถติดตั้งทับกระเบื้องเซรามิก กระเบื้องยางได้ (แต่กระเบื้องนั้นจะต้องติดกับพื้นเดิมอย่างสมบูรณ์แน่นหนา ไม่แตกหัก หรือหลุดล่อน) ในการติดตั้งจะต้องรองด้วยแผ่นโฟม PE เพื่อกันความชื้น และช่วยปรับระดับพื้นไปในตัว ไม้พื้นลามิเนตแต่ละแผ่นสามารถตีเข้าลิ้นหรือล็อกเข้าด้วยกัน ซึ่งทำได้ง่ายและรวดเร็ว เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถใช้งานได้โดยที่ไม่ต้องมีการขัดเปิดหน้าและทำสี
การติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตโดยปกติจะเว้นร่องห่างจากผนัง วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ติดกัน ประมาณ 1 เซนติเมตร เผื่อการยืดหดขยายตัวของวัสดุ ทำให้ต้องมีอุปกรณ์ประกอบเพื่อเก็บความเรียบร้อย ได้แก่ ตัวปิดขอบพื้นหรือตัวจบขอบต่าง ๆ บัวเชิงผนัง จมูกบันได โดยตัวจบเหล่านี้อาจจะนูนขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อยและมีสีในโทนใกล้เคียงกับพื้นไม้
จะเห็นได้ว่าการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งได้ช่างมืออาชีพผู้ชำนาญการมาติดตั้งให้ รับรองว่าคุณจะได้พื้นสวยในไม่กี่วัน แต่ทั้งนี้เพื่อทำให้หน้างานได้มาตรฐานยิ่งขึ้น หากเจ้าของบ้านได้เรียนรู้ เรื่องการเตรียมความพร้อมก่อนติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน
ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต
1)ทนทาน เนื่องจากไม้ลามิเนตผลิตโดยการบีบอัดไม้ด้วยความดันสูงจึงมีความทนทานต่อแรงกดและแรงกระแทก ทั้งยังมีผิวหน้าที่ทนต่อรอยขีดข่วนมากกว่าไม้จริง ทนความร้อนจากขี้เถ้าบุหรี่ แสงแดด
2)สวยงาม ใช้งานดี พื้นไม้ลามิเนตมีความสวยงามใกล้เคียงไม้จริง มีลวดลายสีสันให้เลือกหลากหลาย มีทั้งผิวสัมผัสแบบเรียบและผิวขรุขระเลียนแบบไม้ สีไม่ซีดง่าย พื้นผิวไม่ลื่น มีน้ำหนักเบา
3)ติดตั้ง ดูแลรักษาง่าย การติดตั้งสามารถทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ใช้งานได้ทันทีเมื่อติดตั้งเสร็จ และยังง่ายต่อการดูแลรักษา โดยสามารถเช็ดทำความสะอาดคราบเปื้อนได้ง่ายและไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค นอกจากนี้พื้นไม้ลามิเนตโดยทั่วไปมักมีราคาถูกกว่าไม้จริง
4)ราคาถูกกว่าไม้จริง เนื่องจากพื้นไม้ลามิเนตในท้องตลาดมีหลายมาตรฐาน หลายราคา โดยส่วนของวัสดุ (ไม่รวมค่าติดตั้ง) จะมีราคาตั้งแต่ตารางเมตรละ 300 บาท ไปจนถึง 2,000 บาท ตามระดับคุณภาพให้เลือกซื้อ
ข้อคำนึงในการใช้งานพื้นไม้ลามิเนต
1)ลวดลายซ้ำกัน เนื่องไม้ลามิเนตเป็นลวดลายที่เกิดจากการผลิตในโรงงาน ดังนั้น ไม้พื้นบางแผ่นจะมีลวดลายซ้ำกันซึ่งอาจปรากฏให้เห็นในพื้นที่ขนาด 1×1 หรือ 2×2 ตารางเมตรได้ ขึ้นอยู่กับความละเอียดในการจัดวางแพทเทิร์นของช่างปู
2)ไม่ทนต่อความชื้น เนื่องจากพื้นไม้ลามิเนตไม่สามารถทนต่อความชื้นหรือการขังของน้ำได้ จึงควรใช้กับพื้นภายในบ้านเท่านั้น โดยหลีกเลี่ยงการใช้งานตำแหน่งที่มีความชื้นสูง อย่างบริเวณใกล้ห้องน้ำ หรือประตูหน้าต่างที่เสี่ยงต่อการรั่วซึม หากพื้นไม้ลามิเนตโดนน้ำจะต้องรีบเช็ดทำความสะอาดทันที เพราะถึงแม้ผิวหน้าที่เคลือบไว้จะไม่ดูดซึมน้ำ แต่น้ำอาจจะไหลลงร่องไม้ไปโดน Core Board ด้านในจนเกิดอาการบวมและเสียหายได้ พื้นไม้ลามิเนตจึงไม่เหมาะกับการทำความสะอาดด้วยการล้างหรือขัด (หากต้องการเช็ดถู ควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ไม่เปียกชุ่ม หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับพื้นลามิเนตโดยเฉพาะ)
3)มีข้อจำกัดเรื่องการติดตั้ง เนื่องจากไม้ลามิเนตต้องติดตั้งบนพื้นเรียบเสมอกัน หากพื้นผิวที่ติดตั้งต่างระดับเล็กน้อย (ไม่เกิน 5 มม.) อาจเลือกใช้พื้นไม้ลามิเนตหนา 12 มม. แต่หากมีระดับที่ต่างกันเกิน 5 มม. ควรทำการปรับระดับให้เรียบร้อยก่อนติดตั้ง มิเช่นนั้นพื้นจะยุบตัวและเกิดเสียงดังขณะใช้งาน ไม่ควรติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตทับวัสดุปิดผิวเดิมที่ไม่แน่นหนา แตกร้าว หลุดล่อน หรือวัสดุที่ยุบตัวง่าย เช่น พรม ในการติดตั้งไม้พื้นลามิเนต
จะเห็นว่า พื้นไม้ลามิเนตเป็นวัสดุที่มีข้อดีหลายอย่าง ทั้งความแข็งแรง ทนทาน ติดตั้งง่าย แต่ก็มีข้อจำกัดในการใช้งานที่ควรคำนึง โดยเฉพาะเรื่องการหลีกเลี่ยงความชื้น รวมถึงพื้นผิวหน้างานซึ่งต้องเรียบได้ระดับก่อนการติดตั้ง และถึงแม้ไม้พื้นลามิเนตจะมีลวดลายและสีสันให้เลือกใช้ มากมาย แต่เนื่องจากไม้ลามิเนตเป็นวัสดุที่ไม่สามารถขัดผิวหน้าเพื่อทำสีใหม่ได้ ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อ เจ้าของบ้านควรพิจารณาเลือกโทนสีให้ดี ตามความชอบและความเหมาะสมกับสไตล์การตกแต่งพื้นที่ภายในบ้าน ถ้าใครอยากหาไอเดียที่นำไม้พื้นลามิเนตไปปรับใช้กับห้องสไตล์ต่างๆต่อ ก็สามารถคลิกอ่านได้ที่นี่เลย >> หลากสไตล์พื้นไม้ลามิเนต
29
-
Knowledge
บัวพื้นคืออะไร? ทำไมต้องมี แล้วต้องเลือกแบบไหนดีให้เข้ากับบ้าน
โพสต์เมื่อ 20 May 2021
29
-
Knowledge
5 ทริค เลือกกระเบื้องปูพื้นห้องน้ำให้สวยและปลอดภัยในครั้งเดียว
โพสต์เมื่อ 31 Mar 2020
27
-
Others
-
+2
ฮวงจุ้ยประตูหลังบ้าน ออกแบบอย่างไร ให้พร้อมรับโชคลาภ!
โพสต์เมื่อ 09 Sep 2022
27
-
Tips&Tricks
20 เครื่องฟอกอากาศห้องนอนยี่ห้อไหนดี ? พร้อมประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ
โพสต์เมื่อ 23 Nov 2024
26
-
Others
-
+2
หน้าฝนนี้ตกแรงแค่ไหนก็ไม่ซึม! 5 วิธีอุดรอยรั่วผนังปูน เอาอยู่ทุกรอยแตก!
โพสต์เมื่อ 24 Apr 2023