• Knowledge

กระเบื้องเซรามิก มีกี่ประเภท?

  • โดย NocNoc Writer

  • 8

กระเบื้องเซรามิก สำหรับตกแต่งผิวงานพื้นและงานผนัง เป็นหนึ่งในวัสดุตกแต่งที่หลายคนนิยม เนื่องจากมีความหลากหลาย ทั้งโทนสี ลวดลาย ผิวสัมผัสที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งยังเป็นวัสดุปูพื้นที่หาซื้อได้ง่าย และมีราคาให้เลือกตั้งแต่ถูกยันแพง ซึ่งโดยปกติแล้วการที่จะเลือกกระเบื้องนั้น นอกจากจะดูจากความสวยงามในแบบที่เราชอบ และราคาอยู่ในงบประมาณแล้ว การทำความรู้จักกับกระเบื้องเซรามิกแต่ละประเภทก็สำคัญ เพราะจะช่วยให้เรารู้ว่ากระเบื้องแบบไหนที่ตอบโจทย์เราได้สูงสุดในแต่ละพื้นที่ใช้งานอีกด้วย หากแบ่งประเภทกระเบื้องตามวัสดุหรือเนื้อของกระเบื้อง จะสามารถแบ่งได้ ดังนี้

กระเบื้องบุผนัง (Wall Tile)

กระเบื้องที่มีเนื้อแบบ Earthen Ware มีเปอร์เซ็นต์การดูดซึมน้ำสูง (การดูดซึมน้ำไม่เกิน 17%) มีเนื้อละเอียด แต่มีความพรุนตัว สีของเนื้อกระเบื้องอาจเป็นสีขาวหรือสีแดง มีการเคลือบผิวหน้าทั้งแบบเรียบมันและเรียบด้าน มีความแข็งแกร่งน้อยกว่ากระเบื้องประเภทอื่น และไม่ทนต่อรอยขูดขีด จึงเหมาะสำหรับบุผนังภายในอาคาร (ไม่สามารถใช้เป็นกระเบื้องปูพื้นหรือใช้ภายนอกอาคาร)

กระเบื้องบุผนังที่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในอาคาร
กระเบื้องบุผนังที่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในอาคาร

ขอบคุณภาพ: COTTO

กระเบื้องปูพื้น (Floor Tile)

กระเบื้องที่มีเนื้อกระเบื้องแบบ Stone Ware ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์การดูดซึมน้ำปานกลาง (การดูดซึมน้ำไม่เกิน 6% โดยดูดซึมน้ำมากกว่าเนื้อแบบพอร์ซเลน) มีเนื้อแข็งแกร่งและทึบแสง โดยทั่วไปมีเนื้อกระเบื้องสีแดงอิฐหรือสีน้ำตาลเข้ม (แต่อาจมีเนื้อสีขาวได้) มีการเคลือบที่ผิวหน้าทั้งแบบด้าน แบบมัน แบบผิวสัมผัสหยาบ และแบบที่มีร่องตามลวดลาย มีความแข็งแกร่งและรับน้ำหนักได้มากกว่ากระเบื้องกรุผนัง ส่วนใหญ่จะเป็นแบบไม่ตัดขอบ มีความบางและเบากว่าเนื้อแบบพอร์ซเลน สามารถนำมาใช้ได้ทั้งงานพื้นและงานผนัง

ตัวอย่างกระเบื้องปูพื้นที่สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก
ตัวอย่างกระเบื้องปูพื้นที่สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก

ขอบคุณภาพ: COTTO

กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain Tile)

เป็นกระเบื้องที่มีเนื้อแน่นละเอียด มีความแข็งแกร่งสูง รับแรงได้มาก ทนต่อการเสียดสีขูดขีด มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ (การดูดซึมน้ำเพียง 0.05% หรือแทบไม่ดูดซึมน้ำเลย) มีเนื้อกระเบื้องสีขาว เหมาะสำหรับใช้เป็นกระเบื้องกรุผนังและปูพื้นทั้งภายในและภายนอก ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นตัดขอบจึงปูได้ชิดกว่ากระเบื้องเนื้อแบบ Stone Ware ในตลาดส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 แบบดังนี้

1)กระเบื้องพอร์ซเลนแบบเคลือบผิวหน้า มักเรียกว่ากระเบื้องเกลซพอร์ซเลน (Glazed porcelain Tile) ถ้ามองจากด้านข้างจะเห็นว่าส่วนของผิวหน้าแยกออกจากเนื้อกระเบื้องอย่างชัดเจน เมื่อมีอะไรมากระทบจนเกิดการกระเทาะหรือเกิดการสึกหรอที่ผิวหน้าไปจนถึงเนื้อกระเบื้อง จะสังเกตเห็นได้ว่าเป็นคนละสีกัน

กระเบื้องพอร์ชแลนแบบเคลือบผิวหน้า
กระเบื้องพอร์ชแลนแบบเคลือบผิวหน้า

ขอบคุณภาพ: COTTO

2)กระเบื้องพอร์ซเลนที่เป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น หรือกระเบื้องแกรนิโต (Homogeneous Tile) เป็นกระเบื้องที่มีความพิเศษคือสามารถทำผิวสัมผัสได้หลากหลายกว่ากระเบื้องประเภทอื่น มองจากด้านข้างจะเห็นเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด เมื่อถูกกระเทาะหรือเกิดการสึกหรอจะยังคงเห็นเป็นสีเดียวกัน

กระเบื้องแกรนิโตกับงานพื้นห้องครัว
กระเบื้องแกรนิโตกับงานพื้นห้องครัว

หมายเหตุ:

  • กระเบื้องพอร์ซเลนมีหลากลวดลายและหลายผิวสัมผัส จึงสามารถนำไปใช้ตอบโจทย์งานดีไซน์ได้มากมาย
  • กระเบื้องประเภทนี้มีน้ำหนักมากกว่ากระเบื้องทั่วไป จึงต้องติดตั้งอย่างมีมาตรฐาน

กระเบื้องแก้ว (Glass Tile)

เป็นกระเบื้องที่มีลักษณะใส ผิวมัน แวววาว เนื้อโปร่งแสง มีทั้งแบบแผ่นและแบบโมเสกแก้วเม็ดเล็ก มีทั้งแบบลวดลายในเนื้อแก้วและแบบที่ทำลวดลายบนผิวกระเบื้องแก้วด้วย มีลวดลายและสีสันให้เลือกหลากหลาย มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ เหมาะสำหรับการตกแต่งผนังเท่านั้น ไม่ควรนำมาปูพื้นเนื่องจากรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้น้อย และหากเกิดการแตกหักอาจทำให้เกิดอันตรายกับคนในบ้านได้

กระเบื้องโมเสกแก้วกับการตกแต่งผนังห้องน้ำบางส่วน
กระเบื้องโมเสกแก้วกับการตกแต่งผนังห้องน้ำบางส่วน

กระเบื้องโมเสค (Mosaic Tile)

เป็นกระเบื้องขนาดเล็กๆ นิยมใช้สำหรับการตกแต่งเพื่อความสวยงาม ด้วยความที่มีขนาดเล็กจึงสามารถนำมาใช้สร้างสรรค์งานหรือแพทเทิร์นได้หลากหลาย มักนำมาใช้ติดตั้งคู่กับกระเบื้องอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์งานออกแบบไม่ว่าจะเป็นงานพื้นหรืองานผนัง (ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงความหนาและลักษณะของขอบกระเบื้องอื่นที่นำมาปูร่วมกันด้วย) มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลายลวดลาย หลายสีสัน หลายรูปทรง ส่วนใหญ่จะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1×1 นิ้ว, 1×2 นิ้ว, 2×2 นิ้ว หรือ 4×4 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีรูปทรงอื่นๆ เช่น สี่เหลี่ยมผืนผ้า วงกลม หกเหลี่ยม เป็นต้น โดยจะมีตาข่ายอยู่ด้านหลังเพื่อให้กระเบื้องแต่ละชิ้นอยู่ด้วยกันเป็นแผง ให้สะดวกต่อการติดตั้งมากขึ้น แต่ก็ยังคงใช้เวลาในการปูมากกว่ากระเบื้องทั่วไปเนื่องจากมีบริเวณที่ต้องยาแนวเป็นจำนวนมาก และการทำความสะอาดจะยากกว่ากระเบื้องทั่วไปเนื่องจากมีร่องยาแนวเยอะ

หมายเหตุ:

  • กระเบื้องโมเสคมีหลายวัสดุ ทั้งเนื้อแบบพอร์ซเลน และเนื้อแก้ว จึงควรเลือกประเภทกระเบื้องโมเสกให้เหมาะกับแต่ะละพื้นที่ใช้งาน เช่น งานผนังสามารถเลือกใช้โมเสกได้ทั้งแบบเนื้อพอร์ซเลนและเนื้อแก้ว ส่วนงานพื้นหรืองานสระว่ายน้ำควรเลือกใช้เนื้อแบบพอร์ซเลนเท่านั้น ไม่ควรเลือกเนื้อแก้วเพราะอาจเกิดอันตรายได้
กระเบื้องโมเสกแก้วกับการตกแต่งผนังห้องน้ำบางส่วน
กระเบื้องโมเสกแก้วกับการตกแต่งผนังห้องน้ำบางส่วน
กระเบื้องโมเสคแก้วรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
กระเบื้องโมเสคแก้วรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
กระเบื้องโมเสคแก้วรูปทรงแบบหลายเหลี่ยมที่ไม่เท่ากัน
กระเบื้องโมเสคแก้วรูปทรงแบบหลายเหลี่ยมที่ไม่เท่ากัน

นอกจากรายละเอียดกระเบื้องแต่ละประเภทข้างต้นที่ต้องติดตั้งให้ถูกวิธี สิ่งสำคัญ คือ เลือกใช้กระเบื้องให้ถูกประเภทโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักและอย่าลืมหมั่นดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ

 

TIPS:

  • สำหรับกระเบื้องที่ไม่ตัดขอบ ควรร่องยาแนวอย่างน้อย 3 มม. ขึ้นไป สำหรับกระเบื้องที่ตัดขอบควรเว้นร่องยาแนวประมาณ 2 มม. ขึ้นไป
  • หากเลือกใช้กระเบื้องกับพื้นห้องน้ำ ควรเลือกให้ถูกประเภท และควรเลือกผิวสัมผัสแบบด้านหรือหยาบหน่อยเพื่อกันลื่น
  • การคำนวณเพื่อเลือกซื้อกระเบื้อง ควรคำนวณเผื่อประมาณ 5-10% เพราะอาจต้องใช้กรณีที่ต้องเก็บเศษกระเบื้องตามขอบและมุมห้อง หากติดตั้งเสร็จแล้วควรเก็บสำรองเผื่อไว้สำหรับการซ่อมแซมในอนาคต เพื่อให้ได้รุ่นและเฉดสีเดียวกัน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง