ชีวิตง่ายขึ้นด้วยเครื่องอบผ้า! เลือกเครื่องอบผ้าแบบไหนดีให้ตอบโจทย์ตัวเองและคนทั้งบ้าน

Key Takeaways

• เครื่องอบผ้าลดปัญหากลิ่นอับเมื่อต้องตากผ้าเวลาไม่มีแดด หรือปัญหาผ้าไม่แห้งเวลาเกิดฝนตกหนัก ๆ อีกทั้งยังช่วยประหยัดทั้งเวลาและพื้นที่ตากผ้าได้อีกด้วย
• ระบบการทำงาน ความจุของเครื่องอบผ้า ขนาดของตัวเครื่อง ความประหยัดพลังงาน รวมไปถึงโปรแกรมการทำงานที่หลากหลาย คือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องเลือกซื้อเครื่องอบผ้าสักเครื่อง เพื่อช่วยให้เราได้เครื่องอบแห้งผ้าที่ตอบโจทย์และตรงใจมากที่สุด

เข้าหน้าฝนทีไรตากผ้าเท่าไรก็ไม่แห้ง บางวันเพิ่งตากผ้าได้ไม่นานฝนก็เทลงมา จนต้องรีบวิ่งไปเก็บเข้าบ้าน หรือบางทีตากผ้าทิ้งไว้แล้วออกไปทำงานแต่ระหว่างวันฝนตก กลับถึงบ้านก็ต้องซักใหม่อีกรอบ หลาย ๆ คนคงเหนื่อยและปวดหัวกับปัญหาเหล่านี้ จนอยากจะมีเครื่องอบผ้าไว้สักเครื่องแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อเครื่องอบผ้าแบบไหนดี วันนี้ NocNoc จึงรวบรวมวิธีเลือกเครื่องอบผ้ามาฝากกัน เพื่อให้ทุกคนได้เครื่องอบแห้งผ้าที่ตอบโจทย์และตรงใจทั้งคุณและคนทั้งบ้าน

• หมดกังวลเรื่องกลิ่นอับและผ้าไม่แห้ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่เมฆเยอะและไม่ค่อยมีแดด ทำให้ผ้าที่ตากไว้เกิดกลิ่นอับ หรือในบางช่วงที่ฝนตกหนักและบ่อยติดต่อกันหลาย ๆ วัน ทำให้ผ้าเกิดความชื้นที่ตากเท่าไรก็ไม่แห้งสักที
• สามารถซักผ้าได้ทุกช่วงเวลา โดยปกติหลายคนจะชอบรีบตื่นมาซักผ้าในตอนเช้า เพื่อให้เวลาตากผ้า ผ้าจะได้โดนแดดในช่วงเที่ยง ๆ บ่าย ๆ แต่หากมีเครื่องอบผ้าไว้ในครอบครองแล้ว ไม่ว่าจะซักผ้าตอนไหน ผ้าก็แห้งสนิทไม่มีชื้น
• ช่วยทุ่นแรงแถมประหยัดทั้งเวลาและพื้นที่ตากผ้า เพราะไม่ต้องมาเหนื่อยและเสียเวลากับการตากผ้าที่ต้องวิ่งวุ่นหาไม้แขวนเสื้อและไม้หนีบอีกต่อไป แถมยังสามารถเอาพื้นที่ที่เคยใช้ตากผ้าไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน เช่น ทำเป็นมุมนั่งพักผ่อน เป็นต้น

หลังจากที่ทุกคนได้รู้ประโยชน์และข้อดีของเครื่องอบแห้งผ้ากันไปแล้ว ตามมาดูวิธีเลือกซื้อเครื่องอบผ้าแบบไหนดีที่จะเหมาะกับบ้านของคุณมากที่สุด

เหมาะกับคนที่อยู่บ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมที่มีพื้นที่เหลือสำหรับการติดตั้ง เพราะด้วยวิธีการทำงานของระบบเครื่องอบผ้าชนิดนี้จะต้องดึงอากาศภายนอกเข้าไปด้านในของเครื่อง จากนั้นจะสร้างความร้อนพร้อมกระจายความร้อนนั้นไปรอบ ๆ ตัวถัง เพื่อทำให้ผ้าแห้ง และลมร้อนหรือไอน้ำที่เกิดขึ้นจะถูกระบายออกทางท่อ ดังนั้นจึงต้องอาศัยพื้นที่ในการติดตั้งท่อลมร้อน แต่ถือเป็นเครื่องอบแห้งผ้าที่มีราคาถูกกว่าระบบเครื่องอบผ้าแบบอื่น ๆ

ตอบโจทย์สำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด เพราะไม่ต้องเจาะกำแพงเพื่อติดตั้งท่อระบายอากาศเหมือนในระบบเครื่องอบผ้าแบบอื่น ๆ ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดหาที่วางได้ง่าย โดยการทำงานของระบบเครื่องอบผ้าชนิดนี้จะใช้การควบแน่นความชื้นในผ้าเพื่อให้ออกมาเป็นหยดน้ำ และหยดน้ำเหล่านั้นจะถูกเก็บไว้ในภาชนะ ซึ่งต้องถอดไปทิ้งเองหลังเครื่องอบแห้งผ้าทำงานเสร็จแล้ว

เป็นระบบเครื่องอบผ้าที่ช่วยประหยัดพลังงานมากที่สุด ด้วยวิธีการเพิ่มอุณหภูมิของอากาศที่อยู่ภายในตัวเครื่อง เพื่อดึงความชื้นออกจากเนื้อผ้า และกลายเป็นหยดน้ำที่ถูกเก็บไว้ในภาชนะ คล้าย ๆ กับระบบเครื่องอบผ้าแบบควบแน่น แต่ความร้อนที่ได้จะต่ำกว่า จึงเหมาะกับคนที่ต้องการถนอมเสื้อผ้าเป็นพิเศษ สามารถใช้ได้ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโด

โดนใจคนงบน้อยหรือคนที่อยู่ห้องพักขนาดเล็ก เพราะเป็นระบบเครื่องอบผ้าที่มีราคาย่อมเยาและด้วยลักษณะตัวเครื่องที่มีความกะทัดรัด สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและสะดวกกว่าแบบอื่น ๆ จึงถูกใจชาวคอนโดมากเป็นพิเศษ มาพร้อมการทำงานแบบระบบหมุนเวียนลมร้อนรอบทิศทาง เพื่อไล่ความชื้นออกจากผ้า ส่วนมากจะมาพร้อมอุณหภูมิคงที่ราว ๆ 60-70 องศาเซลเซียส

เลือกง่าย ๆ จากจำนวนสมาชิกในบ้านของเรา แต่อย่าลืมบวกกับพฤติกรรมการใส่เสื้อผ้าของแต่ละคนด้วย ซึ่งความจุของเครื่องอบแห้งผ้านั้นมีให้เลือกตั้งแต่ 7 – 9 กก. โดยขอแนะนำความจุของเครื่องต่อสมาชิกในครอบครัวคร่าว ๆ ดังนี้

ก่อนจะดูว่าเครื่องอบผ้าแบบไหนดีกว่ากัน อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องขนาดของตัวเครื่องที่จะต้องพอดีกับพื้นที่ที่มี โดยเฉพาะชาวคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด ควรเลือกเครื่องอบผ้าที่มีขนาดกะทัดรัดที่เข้ากับพื้นที่ที่เตรียมเอาไว้ หรือหากบ้านไหนที่ทำช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าหรือเครื่องอบผ้าไว้โดยเฉพาะ ก็จะต้องวัดพื้นที่และเช็กขนาดตัวเครื่องให้ดีก่อนที่จะกดสั่งซื้อ

แน่นอนว่าหากเราเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องอบผ้าเข้ามาในบ้านอีกหนึ่งตัว ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ค่าไฟเพิ่มสูงขึ้น แต่ด้วยตัวเลือกที่มีมากมายในปัจจุบัน ทั้งระบบเครื่องอบผ้าและความจุที่ควรเลือกให้แมทช์กับจำนวนเสื้อผ้าที่จะซักในแต่ละครั้ง เพื่อช่วยให้เครื่องอบแห้งผ้าสามารถทำงานได้อย่างเหมาะสมที่สุด

เครื่องอบผ้าแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อจะมีโปรแกรมการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องอบผ้าที่มีโปรแกรมตรงกับความต้องการของเรา อย่างเช่น

• โปรแกรมอบผ้าสำหรับผ้าที่มีความเซนซิทีฟ เหมาะกับคนที่ชอบใส่เสื้อผ้าราคาแพงที่ต้องการถนอมเสื้อผ้ามากเป็นพิเศษ หรือคนที่ชอบเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบอบบาง อย่างเสื้อลูกไม้หรือผ้าพันคอไหมอิตาลี
• โปรแกรมอบผ้าที่ไม่ทำให้เกิดรอยยับ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าแบบยับ ๆ และอยากหาตัวช่วยมาทำให้เสื้อผ้ายับน้อยลง เพื่อที่จะไม่ต้องเหนื่อยและใช้แรงเยอะเวลารีดผ้า
• โปรแกรมอบผ้าตามเนื้อผ้าแต่ละแบบ หากเป็นคนออกกำลังกายบ่อยก็ควรหาเครื่องอบผ้าที่มีโปรแกรมสำหรับชุดออกกำลังกาย หรือหากเป็นคนที่ชอบใส่เสื้อผ้าขนสัตว์ก็ควรหาเครื่องอบผ้าที่มีโปรแกรมสำหรับเนื้อผ้าขนสัตว์โดยเฉพาะ

เหมาะกับคนที่เบื่อกับการรีดผ้าหรือไม่มีเวลารีดผ้า เครื่องอบผ้าฝาหน้าจาก Haier ขนาด 7 กก. มาพร้อมโปรแกรมที่จะช่วยทุ่นแรงเวลารีดผ้าได้อย่างดีเยี่ยม

• Anti-Crease Program เป็นโปรแกรมที่ช่วยป้องกันและลดรอบยับที่เกิดจากความร้อน
• Reversible Tumble เป็นระบบการหมุนแบบใหม่ ที่มีทั้งการหมุนแบบตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งจะช่วยคลี่ผ้าออกขณะกำลังอบผ้าได้ดียิ่งขึ้น
• Sensor & Timed Drying เป็นระบบเซ็นเซอร์ที่ช่วยคำนวนอุณหภูมิในการอบผ้า เพื่อช่วยลดรอยยับและทำให้ผ้าแห้งได้อย่างทั่วถึง

คนชอบใส่แจ็คเก็ตหรือกางเกงยีนส์จะต้องหลงรักเครื่องอบผ้าจาก Beko ขนาด 8 กก. เครื่องนี้ ที่มาพร้อมโปรแกรมการทำงานมากถึง 15 โปรแกรม

• โปรแกรมอบผ้ายีนส์ ที่ถูกตั้งเวลาและอุณหภูมิที่เหมาะสมไว้โดยเฉพาะ เพื่อให้อบผ้ายีนส์ได้แห้งสนิทและเนื้อผ้าไม่เสีย
• โปรแกรมสำหรับอบผ้าร่มหรือชุดกีฬา สำหรับสายออกกำลังกาย
• โปรแกรมอบแบบถนอมผ้า สำหรับบ้านที่มีเด็กน้อยหรือชอบใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบอบบาง

ถูกใจคนชอบใส่เสื้อผ้าสีสด เพราะเครื่องอบผ้าฝาหน้าจาก Electrolux ขนาด 8.5 กก. เครื่องนี้มาพร้อมนวัตกรรมหลากหลายทั้ง

• เซ็นเซอร์ที่ช่วยคำนวณเพื่อปรับรอบการอบอย่างเหมาะสม ที่จะช่วยลดเปอร์เซ็นต์ความซีดของเสื้อผ้าลงมากถึง 80% เมื่อเทียบกับการตากแดด จึงช่วยคงความสดของเสื้อผ้าได้ยาวนานมากขึ้น
• นวัตกรรมที่ใช้ระบบไอน้ำเข้ามาช่วย เพื่อป้องกันและลดรอยยับพร้อมคืนความสดชื่นให้เนื้อผ้า
• เทคโนโลยี Reverse Tumbling ที่ช่วยให้ผ้าไม่พันกัน จึงสามารถลดรอยยับของผ้าได้ดียิ่งขึ้น

เหมาะกับบ้านที่มีจำนวนสมาชิกในครอบครัวเยอะ เครื่องอบผ้าจาก LG ด้วยขนาดความจุที่มากถึง 10.5 กก. ตัวถังอบจึงมีขนาดใหญ่และสามารถรองรับผ้าจำนวนเยอะ ๆ ได้ดี มาพร้อมเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย

• Sensor Dry ที่ช่วยตรวจจับความชื้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอบผ้าให้ดียิ่งขึ้น
• Smart Diagnosis ที่สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นผ่านฟังก์ชัน NFC ของสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาการใช้งานได้อย่างตรงจุด
• ตัวถังอบมาพร้อมไฟ LED ที่ช่วยให้มองเห็นเสื้อผ้าด้านใน ขณะที่เครื่องอบผ้ากำลังทำงานอยู่

ตอบโจทย์คนชอบแต่งบ้าน เครื่องอบผ้าจาก Whirlpool ขนาด 10.5 กก. ด้วยการออกแบบตัวเครื่องให้มีความมินิมอล จึงช่วยให้บ้านของคุณดูสวยลงตัวมากขึ้น มาพร้อมโปรแกรมการทำงานที่หลากหลาย

• โปรแกรมสำหรับผ้าขนสัตว์ ผ้าบอบบาง และผ้าฝ้าย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอบให้เหมาะสม ซึ่งเป็นส่วนช่วยถนอมเนื้อผ้านั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี
• ฟิลเตอร์กรองใยผ้าแบบใหม่ ช่วยให้สามารถใช้งานเครื่องอบผ้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องทำความสะอาดฟิลเตอร์บ่อยครั้ง

ทั้งหมดนี้คือวิธีการดูว่าเครื่องอบผ้าแบบไหนดีและตอบโจทย์กับบ้านของเรามากที่สุด หากใครที่กำลังมองหาเครื่องอบผ้ามาใช้ที่บ้าน สามารถเข้ามาเลือกช้อปสินค้าได้ที่ NocNoc ตลาดออนไลน์ที่รวบรวมเครื่องอบผ้าไว้หลายยี่ห้อ สะดวกกว่าเพราะช้อปได้ทุกที่ทุกเวลา แถมยังไม่ต้องเหนื่อยเดินทางออกไปเดินซื้ออีกด้วย ส่วนใครอยากได้ไอเดียแต่งบ้านหรือคอนโดสวย ๆ สามารถเข้ามาดูได้ที่ แอปพลิเคชัน NocNoc เพื่อค้นหาสไตล์การแต่งบ้านที่ใช่ด้วยฟังก์ชัน Your Style Quiz และฟังก์ชัน Inspiration Feed ที่รวบรวมไอเดียหลากหลายเพื่อบ้านของคุณ ช่วยให้ทุกคนมีบ้านที่ตรงใจเหมือนบ้านในฝัน