-
Knowledge
เปลี่ยนมู้ดง่าย ๆ ด้วยไฟสวย ๆ ! แนะนำการเลือกแสงไฟสำหรับทุกห้อง
-
โพสต์เมื่อ 10 Dec 2024
-
โดย NocNoc Writer
-
479
เคล็ดลับการเลือกหลอดไฟในบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งาน
NocNoc สรุปให้
- การเลือกหลอดไฟในบ้านต้องดูทั้งพื้นที่ที่จะติดตั้ง รูปแบบหลอด ขั้วหลอด กำลังวัตต์ ไปจนถึงฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ที่จะช่วยให้แสงไฟในบ้าน สว่างไสวและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากที่สุด
- หลอดไฟ แม้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กในบ้านที่หลายคนอาจมองว่าแบบใดก็สามารถใช้งานได้เหมือนกันเพราะให้ความสว่างเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงโทนสีของแสงไฟมีผลต่อความรู้สึกและสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกัน อย่างไฟแสงสีส้มช่วยสร้างความอบอุ่นและผ่อนคลาย ขณะที่ไฟแสงสีขาวให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่
เพราะแสงสว่างเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ภายในบ้าน การจัดแสงให้เข้ากับสไตล์การแต่งบ้านช่วยทำให้บ้านน่าอยู่มากกว่าเดิม และแสงสว่างที่มากเพียงพอ มองเห็นจุดต่าง ๆ ได้ทั่วถึง ช่วยป้องกันอุบัติเหตุต่าง ๆ ในบ้านได้อีกด้วย การเลือกหลอดไฟในบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งานของสมาชิกทุกคนในบ้านจึงมองข้ามไม่ได้โดยเด็ดขาด ตาม NocNoc ไปดู 7 วิธีเลือกหลอดไฟให้ตอบโจทย์ว่าจะต้องดูที่อะไรกันบ้าง
7 เคล็ดลับการเลือกหลอดไฟในบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งาน
1. พื้นที่ที่จะติดหลอดไฟ

ภาพ: พื้นที่ภายในบ้าน
จะเลือกหลอดไฟติดในบ้านทั้งที ก็ต้องรู้ก่อนว่าจะนำไปติดตรงไหนของบ้าน เพราะหลอดไฟแต่ละแบบก็ให้ความสว่างได้แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกหลอดไฟในบ้านต้องดูก่อนว่าจะติดไว้ที่จุดใด เพื่อให้เลือกได้ทั้งรูปแบบหลอด สีสัน ค่าความสว่าง และกำลังวัตต์ที่ประหยัดไฟมากที่สุด โดยการเลือกหลอดไฟตามห้องต่าง ๆ สามารถเลือกได้ดังต่อไปนี้
ติดหลอดไฟที่ห้องนอนเลือกใช้หลอดไฟแสงสีเหลืองอมส้ม เปลี่ยนมู้ดให้อบอุ่น น่าพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

ภาพ: ห้องแสงไฟส้ม
เพราะห้องนอนเป็นห้องแห่งการพักผ่อน การเลือกใช้หลอดไฟแสงสีเหลืองอมส้มจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับสนิทมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามแนะนำให้ติดหลอดไฟสีขาวในบางพื้นที่อย่างบริเวณสำหรับอ่านหนังสือหรือแต่งหน้า เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว
ไฟติดห้องนอนดีไซน์ทรงกลม มินิมอล ไฟสีส้ม เปลี่ยนมู้ดห้องนอนให้อบอุ่น
ทำไมต้องลองใช้ไฟเซนเซอร์ติดห้องนอน
- ไฟ LED ช่วยประหยัดพลังงาน โคมไฟจะมีระบบเซนเซอร์ จะทำงานเมื่อมีคนเดินผ่านในระยะประมาณ 3 เมตร
- ไฟ 0.6 วัตต์ ใช้งานได้นาน 90 วันเมื่อชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
- กาวคุณภาพ ติดตั้งได้บนทุกพื้นผิว ทั้งในตู้เสื้อผ้า หรือติดไว้ข้างเตียง
- สีไฟโทนส้ม ช่วยให้มู้ดในห้องนอนอบอุ่นยิ่งขึ้น
- ดีไซน์โค้งมน เปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็นห้องนอนสไตล์โมเดิร์นได้ง่าย ๆ
ราคา 48 บาท*
หลอดไฟติดผนังแสงสีส้ม อบอุ่นสบายตา สัมผัสใหม่ที่สว่างกว่าที่เคย
ทำไมต้องลองใช้ไฟเซนเซอร์ 500 mAh
- โคมไฟไร้สาย ที่สามารถปรับไฟได้ถึง 3 สี ได้แก่ แสงวอร์ม แสงขาว และแสงเหลือง ช่วยถนอมสายตาได้ดีเมื่อเปิดในที่มืด
- ใช้ระบบแบบเซนเซอร์ ชาร์จไฟด้วย USB สะดวกสบาย ไม่ต้องใช้ถ่าน แถมแบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานได้นานขึ้น
- ใช้งานสะดวกเพียงกดปุ่มเลือกความสว่าง สามารถหรี่หรือเพิ่มแสงไฟได้เองตามความต้องการเพียงปลายนิ้ว
ราคา 28.8 บาท*
ติดหลอดไฟห้องนั่งเล่น เลือกใช้หลอดไฟแสงสีขาว หรือสีโทนส้ม พร้อมดีไซน์เก๋ ๆ เปลี่ยนมู้ดห้องนั่งเล่นให้มีเสน่ห์ และโดดเด่น

ภาพ: แสงไฟห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่น พื้นที่สำคัญที่เป็นศูนย์กลางของครอบครัว สำหรับการทำกิจกรรมและใช้เวลาร่วมกันอย่างอบอุ่น นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สำหรับต้อนรับแขกผู้มาเยือน สร้างความประทับใจในทุกโอกาส การเลือกหลอดไฟสำหรับห้องนั่งเล่นจึงควรพิถีพิถันในทุกรายละเอียด โดยแนะนำให้ใช้หลอดไฟโทนสีขาวที่ให้ความรู้สึกสบายตา หรือโทนแสงอบอุ่นที่ช่วยเสริมบรรยากาศผ่อนคลาย อีกทั้งควรเลือกหลอดไฟที่ประหยัดพลังงาน เพื่อเพิ่มความสะดวกและความคุ้มค่าในระยะยาว
โคมไฟเพดานสุดเก๋ ดีไซน์สุดล้ำ ช่วยเปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้อบอุ่นกว่าเดิม
ทำไมถึงควรติดตั้งโคมไฟเพดาน ในห้องนั่งเล่น
- โคมไฟดีไซน์สวย เก๋สไตล์โมเดิร์น ช่วยให้ห้องนั่งเล่น น่าอยู่ดูทันสมัย
- สายโคมไฟมีความแข็งแรง แน่นหนา แขวนได้แบบไร้กังวล อีกทั้งวัสดุโคมไฟผลิตจากโพลีสไตรีน มีความหนาแน่นสูง
- ปลอดภัยต่อการต่อการใช้งาน ผู้อยู่อาศัยสบายใจหายห่วง
ราคา 5,624.96 บาท*
ที่สุดของสไตล์สุดล้ำ กับโคมไฟติดผนังดีไซน์ Modern เพิ่มความสวยเก๋ มีชีวิตชีวา

ภาพ: โคมไฟติดผนัง
ทำไมถึงควรติดตั้งโคมไฟติดผนัง ในห้องนั่งเล่น
- เพิ่มดีไซน์ที่สวยหรูดูแพงให้กับห้องนั่งเล่น ติดตั้งง่ายไม่ยุ่งยาก
- ให้แสงที่อบอุ่น สร้างบรรยากาศในห้องให้น่าอยู่ เหมาะกับการใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน
- ดีไซน์สุดเก๋ ที่รวมความโมเดิร์นและฟังก์ชันการให้แสงสว่างไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เปลี่ยนมู้ดให้ห้องนั่งเล่นมีความสนุกสนานและแปลกใหม่
ราคา: 3,343.12 บาท*
ติดหลอดไฟห้องน้ำ เลือกใช้หลอดไฟแสงสีขาว มองเห็นคราบสกปรกได้ง่าย และเพิ่มความปลอดภัย

ภาพ: แสงไฟในห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นห้องที่เปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การเลือกแสงไฟที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรเลือกหลอดไฟโทนสีขาวที่ให้ความสว่างเพียงพอ สามารถมองเห็นคราบสกปรกได้ง่ายหรือบริเวณที่มีน้ำขังได้ชัดเจน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ควรใช้หลอดไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ เพื่อหลีกเลี่ยงแสงจ้าเกินไปในเวลากลางคืน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งานได้อย่างลงตัว
โคมไฟติดผนังไสตล์นอร์ดิก ดีไซน์เรียบหรู ยกระดับห้องน้ำให้พรีเมี่ยมกว่าเดิม
โคมไฟติดผนังในห้องน้ำ ดียังไง
- ประหยัดพื้นที่ พร้อมตกแต่งห้องน้ำไปในตัว
- ให้แสงสว่างกำลังดี ปลอดภัยเมื่ออยู่ในห้องน้ำ
- ดีไซน์สวย เปลี่ยนห้องน้ำธรรมดาเป็นห้องน้ำคุณภาพพรีเมียม
ราคา 1,350 บาท*
ติดหลอดไฟห้องครัว เลือกใช้หลอดไฟแสงสีขาว ทำอาหาร และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

ภาพ: แสงไฟในห้องครัว
ห้องครัวพื้นที่สำหรับการประกอบอาหาร ควรติดตั้งหลอดไฟที่ให้แสงสว่างเพียงพอ โดยเฉพาะไฟโทนสีขาวที่ช่วยสร้างบรรยากาศโปร่ง โล่ง มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ช่วยให้การทำอาหารเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากความร้อนและของมีคม อีกทั้งยังช่วยให้การทำความสะอาดคราบสกปรก คราบมัน หรือเศษอาหารต่าง ๆ เป็นเรื่องง่ายดาย ทำให้ห้องครัวดูสะอาดเรียบร้อยและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
โคมไฟเพดานทรงซาลาเปาสุดคิ้วท์ มาพร้อมดีไซน์โมเดิร์น ติดในห้องครัวยังไงก็สวย

ภาพ: โคมเพดาน โคมซาลาเปา
ติดโคมไฟบนเพดานในห้องครัว ดีกว่ายังไง
- ให้แสงสว่างทั่วทั้งห้อง มองเห็นชัด ปลอดภัยเมื่ออยู่ในครัว
- มาพร้อมกับรูปลักษณ์กะทัดรัด น้ำหนักเบา
- วัสดุโคมคุณภาพสูง ไร้กังวลเรื่องตัวโคมไฟเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง แม้เวลาผ่านไป ให้แสงนวลตา ไม่มีแสงสะท้อน (Anti Glare)
อยากได้แสงสว่างที่มาพร้อมความสะดวกสบาย ต้อง Mini Mounted Dowlight
ทำไมต้องมีไฟดาวน์ไลท์ในห้องครัว
- เล็ก กระทัดรัด มีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา สะดวก ติดตั้งง่าย เหมาะกับการใช้งานในครัว
- ปลอดภัย กันน้ำ ลดการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยให้การทำอาหารง่ายขึ้น
ราคา 340.20 บาท*

2. โทนสีของแสงหลอดไฟ

ภาพ: โทนสีของแสงไฟ
เพราะโทนสีของแสงจากหลอดไฟมีให้เลือกหลายโทน ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป การเลือกหลอดไฟในบ้านจึงต้องดูที่โทนสีด้วย เพื่อให้เข้ากับการตกแต่งบ้านมากที่สุด ซึ่งหน่วยเรียกอุณหภูมิของสีจะเรียกว่าองศาเคลวิน หรือเคลวิน (K) โดยโทนสีหลัก ๆ ที่นิยมใช้กันทุกวันนี้มี 3 แบบ ได้แก่
- วอร์มไวท์ (Warm White): เป็นแสงโทนสีแดงอมส้ม มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 2,500-3,300 เคลวิน ช่วยสร้างบรรยากาศสุดผ่อนคลาย ส่วนใหญ่จะใช้กันในห้องนอน ห้องนั่งเล่น เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นน่าพักผ่อนมากยิ่งขึ้น
- คูลไวท์ (Cool White): เป็นแสงโทนสีขาวที่สว่างกว่าสีวอร์มไวท์ มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 4,000-5,000 เคลวิน ดูสะอาด สบายตามากขึ้น ช่วยให้ความรู้สึกทันสมัย มักจะใช้กับห้องที่ต้องการความกระฉับกระเฉง เช่น ห้องครัว ห้องทำงาน
- เดย์ไลท์ (Daylight): เป็นแสงโทนสีขาวอมฟ้า ให้ฟีลเหมือนกับแสงธรรมชาติช่วงกลางวัน มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 6,000-6,500 เคลวิน ช่วยให้มองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ในห้องได้อย่างชัดเจน จึงเหมาะกับห้องหรือมุมที่ต้องการเห็นรายละเอียด เช่น ห้องน้ำ ห้องนอนที่มีมุมแต่งหน้า
3. ความสว่างและการกระจายแสง

ภาพ: ไฟสว่าง
ความสว่างและการกระจายแสงเป็นเรื่องสำคัญที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะส่งผลโดยตรงกับเรื่องการใช้งานและบรรยากาศในบ้าน เพราะถ้าเลือกให้สว่างไม่เพียงพอก็อาจทำให้บ้านดูไม่น่าอยู่ แถมยังทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ยาก เช่น หากไฟสว่างไม่พอ เมื่ออ่านหนังสือแล้วก็อาจส่งผลเสียต่อสายตาได้ นอกจากนี้การเลือกหลอดไฟในบ้านตามรูปแบบการกระจายแสงก็มีหลายแบบ เลือกได้ดังต่อไปนี้
- ไฟบริเวณ (Ambient Light): เป็นแสงไฟที่ให้ความสว่างโดยรวม เหมาะสำหรับติดกลางห้อง เช่น ไฟแขวนเพดานกลางห้อง โคมไฟเพดาน
- ไฟส่องเน้น (Accent Light): เป็นแสงไฟที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับบางจุดของห้องให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น ไฟส่องภาพแขวนผนัง
- ไฟเฉพาะจุด (Task Light): เป็นหลอดไฟเล็ก ๆ ที่ใช้งานเฉพาะบางจุดในห้อง เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น หรือไฟหัวเตียง
- ไฟหลืบ (Concealed Light): เป็นไฟที่ติดตั้งไว้ตามมุมต่าง ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นหลอดไฟได้ เช่น ไฟใต้ตู้แขวนผนังในครัว
4. รูปทรงของหลอดไฟ

ภาพ: รูปทรงของหลอดไฟ
นอกจากการเลือกหลอดไฟจะส่งผลต่อการใช้งานและบรรยากาศโดยรวมแล้ว ก็ยังใช้เป็นส่วนหนึ่งของการแต่งบ้านได้ด้วย การเลือกหลอดไฟในบ้านจึงควรเลือกตามรูปทรงของหลอดไฟด้วย โดยรูปทรงที่เห็นกันได้บ่อย ๆ และนิยมใช้กันในบ้าน จะมีให้เลือกดังต่อไปนี้
- หลอดทรงกลม: เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการแสงไฟที่ส่องเป็นวงกว้าง เหมาะกับการแต่งบ้านทั่วไป เหมาะสำหรับติดตั้งในโคมไฟได้หลากหลายสไตล์ ช่วยให้กระจายแสงได้ดีมากขึ้น
- หลอดทรงยาว: เป็นหลอดไฟทรงยาวที่พบเห็นได้ทั่วไป กระจายแสงได้ดี เลือกใช้ได้กับที่อยู่อาศัยและการแต่งบ้านทุกรูปแบบตามความต้องการ
- หลอดจำปา: เป็นหลอดทรงเรียวยาวคล้ายกับแสงเทียน เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความแปลกใหม่ ให้บรรยากาศน่าค้นหา เพราะเป็นหลอดไฟที่มีแสงสลัว ๆ
- หลอดเกลียว: เป็นหลอดไฟที่เห็นกันได้บ่อยในปัจจุบัน รูปทรงเป็นเกลียวดูทันสมัย เหมาะกับบ้านที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น หรือแบบร่วมสมัยก็ได้เช่นกัน
5. ขั้วหลอดไฟ

ภาพ: หลอดไฟ
นอกจากรูปทรงของหลอดไฟแล้ว ส่วนที่เป็นขั้วหลอดไฟก็เป็นอีกส่วนที่ใช้เป็นตัวช่วยในการเลือกหลอดไฟในบ้านด้วย โดยขั้วหลอดแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือแบบเกลียวและแบบเขี้ยว ซึ่งจะต้องเลือกให้ถูกต้อง เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เปิดไฟไม่ติด ต้องกลับไปซื้อมาเปลี่ยนใหม่ ใครที่ยังไม่รู้จักขั้วทั้งสองแบบนี้ NocNoc จะมาอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ กัน
- ขั้วแบบเกลียว: มีลักษณะเป็นเกลียวแบบที่เราใช้กันทุกวันนี้ ใช้หมุนเข้ากับขั้วอีกด้านหนึ่งได้เลย เป็นขั้วหลอดไฟที่อยู่ในหลอดไส้ หลอดกลม หรือหลอดไฟ LED
- ขั้วแบบเขี้ยว: มีลักษณะเป็นแง่งเหมือนกับเขี้ยว ใช้เสียบเข้ากับรางหลอดไฟได้เลย เห็นได้บ่อยในหลอดไฟยาว เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์
6. เลือกกำลังวัตต์ที่เหมาะสม

ภาพ: ติดตั้งหลอดไฟ
ค่าพลังงานหรือกำลังวัตต์ที่อยู่บนกล่องหลอดไฟ เป็นอีกส่วนที่อย่าลืมเลือกให้ดีก่อนการเลือกหลอดไฟในบ้าน เพราะจะส่งผลต่อค่าไฟที่บ้านเราโดยตรง วิธีเลือกหลอดไฟตามกำลังวัตต์ คือเลือกตามการใช้งานเป็นหลัก เพราะยิ่งกำลังวัตต์มากก็จะกินไฟมากขึ้นไปด้วย อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้หลอดไฟก็ถูกพัฒนาให้ประหยัดไฟมากขึ้น โดยเฉพาะหลอดไฟ LED ที่ปล่อยความร้อนน้อยลง ทำให้ประหยัดไฟมากขึ้น และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
7. ฟังก์ชันอื่น ๆ ของหลอดไฟ
ทุกวันนี้หลอดไฟทำงานได้มากกว่าแค่ให้ความสว่างทั่วไป ฟังก์ชันเสริมในหลอดไฟจึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกหลอดไฟในบ้าน โดยฟังก์ชันเสริมที่ว่านี้มีตั้งแต่การปรับความสว่าง ปรับโทนสีให้เข้ากับบรรยากาศหรือการใช้งาน ไปจนถึงการควบคุมแสงไฟผ่านสมาร์ทโฟน หรือระบบสั่งการเปิด-ปิดด้วยเสียง ซึ่งควรเลือกใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และงบประมาณในกระเป๋าให้มากที่สุดนั่นเอง
หลอดไฟที่นิยมใช้กันในบ้านมีแบบไหนบ้าง
1. หลอดไส้ (Incandescent)

ภาพ: หลอดไส้
เป็นหลอดไฟที่ใช้กันมาตั้งแต่อดีตแล้ว มีลักษณะเป็นทรงกลม อาจเป็นได้ทั้งแบบใสและแบบฝ้า ภายในหลอดจะมีขดลวด เมื่อกดเปิดสวิตช์จะมีแสงสว่างมาก แต่ก็มาพร้อมความร้อนสูงด้วยเช่นกัน และเมื่อร้อนมากก็ทำให้กินไฟมากขึ้นตามไปด้วย แถมยังมีอายุการใช้งานสั้นกว่าหลอดไฟสมัยใหม่ จึงเป็นหลอดไฟที่ยังมีคนใช้อยู่ แต่ไม่นิยมเท่าประเภทอื่น
ราคา 63.9 บาท*
2. หลอดไฟ LED (Light Emitting Diodes)
หลอดไฟแบบยุคใหม่ที่ค่อย ๆ เข้ามาแทนที่หลอดไส้ คือ หลอดไฟ LED ซึ่งย่อมาจาก Light Emitting Diodes เป็นหลอดไฟที่มีขนาดเล็กลง สว่างมาก ไม่ส่งผลเสียต่อสายตา แถมยังไม่ทำให้เกิดความร้อน จึงประหยัดไฟและมีอายุการใช้งานยาวขึ้น โดยหลอดไฟ LED นั้นทำงานโดยกระแสไฟฟ้าจะเคลื่อนที่ไปยังสารกึ่งตัวนำภายในหลอดไฟ ทำให้อิเล็กตรอนภายในเกิดการเคลื่อนที่ ส่งผลให้เกิดแสงสว่างขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้หลอดไฟประเภทนี้ก็ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีสารพิษอีกด้วย
ราคา 889.20 บาท*
3. หลอดไฟคอมแพคฟลูออเรสเซนต์
หลอดไฟคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ หรือที่รู้จักกันในชื่อหลอดตะเกียบ เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ (หลอดนีออน) ซึ่งพัฒนาให้ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม โดยหลอดไฟแบบนี้มีขนาดกะทัดรัด แต่ให้แสงสว่างมาก ใช้งานได้ยาวนานมาก นานกว่าหลอดไส้ถึง 8 เท่า มีรูปร่างให้เลือกหลายแบบ เช่น แบบหลอดตะเกียบ หลอดเกลียว จึงเป็นหลอดไฟอีกแบบที่พบเห็นได้ในที่อยู่อาศัยทั่วไป
ราคา 5,940 บาท*
หลากหลายไอเดียเรื่องโคมไฟ เลือกที่ใช่ในดีไซน์ที่ชอบ อ่านเพิ่มเติมได้ที่…..
เลือกหลอดไฟให้เหมาะสม ก็เปลี่ยนมู้ดบ้านได้แบบง่าย ๆ ตามหาหลอดไฟสวย ๆ ได้ที่ NocNoc
การเปลี่ยนหลอดไฟถือเป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านให้ดูน่าอยู่และอบอุ่นยิ่งขึ้น โดยอย่าลืมนำเคล็ดลับการเลือกหลอดไฟที่เหมาะสมไปปรับใช้กับห้องต่าง ๆ ในบ้าน เพื่อสร้างมู้ดและโทนที่ตอบโจทย์ความต้องการ และสำหรับใครที่กำลังมองหาหลอดไฟหลากหลายรูปแบบ สามารถเข้ามาเลือกได้ที่ NocNoc มีสินค้าคุณภาพพร้อมโปรโมชันปัง ๆ ไว้รอทุกคนมาช้อปกัน
นอกจากนี้ใครที่อยากหาแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านสวย ๆ เข้าไปโหลดแอปพลิเคชัน NocNoc ได้เลย มีฟีเจอร์ Your Style Quiz เพื่อค้นหาสไตล์แต่งบ้านที่ตรงใจและ Inspiration Feed ให้เห็นการแต่งบ้านหลากหลายไอเดีย พร้อมช้อปแบบเพลิน ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะเรื่องบ้าน เลือกจนกว่าจะชอบ
- สินค้าเรื่องบ้านให้เลือกเยอะกว่า 900,000 รายการ จากหลากหลายร้านค้าชั้นนำ
- มี AI ช่วยเลือกสินค้าตามสไตล์ที่ทุกคนชื่นชอบ
- ช้อปง่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดส่งทั่วไทย
- บริการงานช่างครบวงจร ไว้ใจได้ ทั้งบริการทำความสะอาด ซ่อมบำรุง ติดตั้ง และตกแต่ง
ส่วนใครที่อยากปรับปรุงบ้านหรือสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง มองหาที่ปรึกษาเรื่องบ้านและธุรกิจแบบครบวงจร ลองให้ NocNoc Home Solution เป็นตัวช่วย เพราะเรามีบริการครบจบในที่เดียว ทั้งเรื่องสินค้าและช่างผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้าน ให้เรื่องการทำบ้านกลายเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็น
- ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางพร้อมตอบทุกคำถาม พร้อมแนะนำสินค้าและบริการ
- ผู้ช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์และของแต่บ้านที่ตรงใจ สำหรับทุกไลฟ์สไตล์
- ตามหาแบบที่ใช่ด้วยบริการออกแบบ 3D โดย NocNoc Designer
- ศูนย์รวมช่างที่มีประสบการณ์ ควบคุมคุณภาพโดย NocNoc
- รับประกันงานนานสูงสุด 12 เดือน*
สามารถติดต่อเพื่อใช้บริการงานทุกเรื่องบ้าน และบริการงานช่างได้ที่ Line@ https://lin.ee/60NG362
“
เรื่องบ้าน…เลือกจนกว่าจะชอบ NocNoc
เรื่องบ้าน…เลือกจนกว่าจะชอบ NocNoc
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
ติดตามโปรโมชั่นเด็ดและสาระดี ๆ เรื่องบ้านได้ที่
LINE: lin.ee/27iSjiz
Facebook : facebook.com/nocnocth
TikTok: tiktok.com/@nocnocth
Instagram: instagram.com/nocnocth/
Twitter: twitter.com/NocNocTH
Youtube: youtube.com/nocnocth