• Others

  • Tips&Tricks

  • Knowledge

7 ทริคเลือกตู้เสื้อผ้าแบบไหนดี เลือกแล้วเก็บได้ครบไม่มีผิดหวัง

  • โดย NocNoc Writer

  • 217

Key Takeaways

  • การเลือกตู้เสื้อผ้าให้เข้ากับที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย ช่วยให้บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย เก็บของได้เป็นสัดส่วน เวลาจะหยิบของก็ไม่ลำบาก ไม่ต้องกลัวว่าจะเกะกะโดนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ
  • จะเลือกตู้เสื้อผ้าแบบไหนดีให้เข้ากับการใช้งาน ต้องเริ่มจากของที่เราเก็บว่ามีอะไรบ้าง เลือกรูปแบบตู้ให้เข้ากับการใช้งาน ขนาดเข้ากับพื้นที่ในห้อง หน้าบานที่ช่วยประหยัดพื้นที่ จำนวนบานที่เหมาะสม วัสดุที่แข็งแรงทนทาน และดูด้วยว่าผู้ขายมีช่างติดตั้งรับประกันหลังการขายด้วยหรือไม่

สำหรับสายช้อป สายแฟแล้ว เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า ไอเทมทุกชิ้นถือว่าขาดไม่ได้เลย พอนำมารวม ๆ กันแล้วเต็มไปหมด การเลือกตู้เสื้อผ้าให้เหมาะสมเลยต้องดูที่หลาย ๆ อย่าง เราจะได้เลือกซื้อตู้เสื้อผ้าที่เข้ากับไลฟ์สไตล์มากที่สุด ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี วันนี้ NocNoc มีทริคดี ๆ มาฝากกัน รับรองว่าเก็บของได้ครบ แถมยังใช้งานกันได้ยาว ๆ

การเลือกตู้เสื้อผ้าต้องคิดถึงอะไรก่อนบ้าง?

1. ดูของที่จะเก็บในตู้เสื้อผ้า จะได้เลือกช่องเก็บได้เหมาะสุด ๆ

ภาพ: เสื้อผ้าเครื่องประดับในตู้เสื้อผ้า

“เสื้อ กางเกง กระโปรง รองเท้า เครื่องประดับ ดูให้ครบ จะได้เลือกช่องเก็บได้เป๊ะ”

ซื้อตู้เสื้อผ้ามาแล้วเก็บได้แค่เสื้อผ้า แล้วรองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับจะเอาไปไว้ไหนล่ะทีนี้? ดังนั้นก่อนการเลือกตู้เสื้อผ้ามาไว้ที่บ้านสักตู้ เราต้องดูกันก่อนว่าของที่เราจะเก็บมีอะไรบ้าง เพราะนอกจากเสื้อผ้าเราอาจจะอยากเก็บกระเป๋าเดินทาง รองเท้า หรือเครื่องนอนไว้ในตู้เดียวกันด้วย จะได้เลือกตู้ที่มีช่องเก็บของตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด

นอกจากเสื้อผ้าที่เราจะเก็บก็ต้องดูว่ามีกี่ประเภท เช่น กางเกงขายาว ชุดเดรสยาว สูท เพราะเสื้อผ้าเหล่านี้ถ้าไม่เก็บให้ดีก็อาจจะเสียทรงได้ หรือจะเลือกตู้ที่มีช่องเก็บเครื่องประดับอย่างสร้อยคอ แว่นตา หรือนาฬิกาโดยเฉพาะด้วยเลยก็ได้ ก็จะช่วยให้เวลาหยิบใช้สะดวกกว่าเดิม ไม่ต้องมานั่งหาให้เสียเวลา

2. ประเภทตู้เสื้อผ้า ติดตั้งแบบไหนถึงจะสะดวกที่สุด

“สายดีเทลเลือกแบบบิวท์อิน คนขี้เบื่อเลือกแบบลอยตัว”

ทุกวันนี้เวลาเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ คนส่วนใหญ่จะนิยมใช้ตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน หรือตู้เสื้อผ้าลอยตัวที่เราพบเห็นได้ทั่วไป แต่ควรจะเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์ของเรามากที่สุด ตาม NocNoc ไปดูแนวทางดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันได้เลย

  • ตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน ฟังก์ชันแบบไหน ก็เลือกได้ตามใจชอบ

ภาพ: ตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน

สายดีเทลอยากจะออกแบบดีเทลทุกอย่างในตู้เสื้อผ้าด้วยตนเอง บอกเลยว่าตู้เสื้อผ้าบิวท์อินถือว่าตอบโจทย์สุด ๆ เพราะเราสามารถออกแบบทุกส่วนได้ตามใจ จะช่องเก็บของ ลิ้นชัก หรือช่องแขวนเสื้อผ้าเฉพาะแบบก็เลือกได้หมด แต่ตู้บิวท์อินจะมีจุดอ่อนเล็กน้อยตรงราคาค่อนข้างสูง และถ้าติดตั้งแล้วจะเคลื่อนย้ายไม่ได้เลย แต่ถ้าใครมั่นใจว่าอยากใช้ตู้ไปนาน ๆ ก็ลุยได้เลย

  • ตู้เสื้อผ้าลอยตัว ประหยัด ปรับเปลี่ยนได้ตลอด

ภาพ: RINA HEY ตู้เสื้อผ้า รุ่น GLASTON/2 ขนาด W161xD60xH220 cm สีขาว

เป็นคนขี้เบื่อกลัวเลือกตู้เสื้อผ้าบิวท์อินมาแล้วจะเบื่ออยากเปลี่ยนทีหลัง ควรเลือกตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัวจะเหมาะกว่า เพราะนอกจากจะปรับเปลี่ยนได้ ก็ยังติดตั้งง่าย แค่เลือกซื้อแล้วยกมาวางในห้องได้เลย แต่ถ้ากังวลอีกว่าจะเก็บของได้ไม่ครบ ก็ลองปรับเปลี่ยนใช้ตู้หลาย ๆ แบบมารวมกัน เพียงเท่านี้ก็เก็บของได้ครบแล้ว และเปลี่ยนใจจะปรับเปลี่ยนภายหลังก็ทำได้เลย ไม่ต้องรื้อออกให้เสียเวลา 

3. เลือกขนาดตู้เข้ากับพื้นที่ในห้อง ขนย้ายสบาย บรรยากาศไม่อึดอัด

ภาพ: ตู้เสื้อผ้าควรมีขนาดเข้าพื้นที่ในห้อง

“ขนาดตู้เข้ากับที่ตั้ง ใช้งานสบาย ลองเสื้อผ้าไม่กลัวที่แคบ”

ถ้าเลือกได้แล้วว่าจะเลือกตู้เสื้อผ้าแบบไหนดี ไม่ว่าจะเป็นแบบบิวท์อินหรือแบบลอยตัว ก็ต้องเลือกขนาดให้เข้ากับพื้นที่ ไม่อย่างนั้นห้องของเราจะออกมาอึดอัดคับแคบ จะลองเสื้อผ้าหรือเดินในห้องก็คงลำบากแย่ วิธีเลือกขนาดตู้เสื้อผ้าก็ง่ายมาก ลองดูจุดที่จะตั้งตู้ไว้แล้วใช้สูตรนี้กันได้เลย แล้วนำขนาดที่ได้ไปเป็นแนวทางในการซื้อตู้เสื้อผ้ากันได้เลย

ความกว้าง X ความยาว X ความสูง = ขนาดตู้เสื้อผ้าที่เหมาะสม

4. เลือกหน้าบานอย่าลืมคิดถึงตอนเปิดหยิบของ

“บานเปิดใช้งานสบายดูแลสะดวก บานเลื่อนประหยัดพื้นที่เปิดหยิบของไม่กลัวเกะกะ”

เวลาเปิดตู้หยิบของ ถ้าอยู่ห้องใหญ่จะเลือกบานเปิดแบบไหนก็คงไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเป็นคนอยู่ห้องเล็กแล้วใช้ตู้ใหญ่แล้วละก็เปิดปิดหยิบของทีคงลำบากไม่ไหว ไปดูกันว่าจะเลือกบานตู้เสื้อผ้าแบบไหนดีให้เข้ากับการใช้งานของเรา

  • บานเปิด อยู่ห้องกว้างเลือกได้เลยไม่ต้องกังวล

ถึงตู้เสื้อผ้าบานเปิดจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเบสิกที่เราใช้กัน เพราะหาซื้อง่าย ทำความสะอาดก็ง่าย แต่ถ้าเป็นคนอยู่คอนโด หรือที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่จำกัด ถ้าการเลือกตู้เสื้อผ้าแบบนี้ก็อาจจะไปโดนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นได้ เช่น ถ้าเราวางไว้ใกล้เตียง ก็อาจจะเปิดไปชนเตียง ต้องมาจัดห้องกันใหม่ เพื่อให้เปิดได้ง่ายขึ้น ดังนั้นถ้ามีพื้นที่จำกัดจริง ๆ ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนก็น่าจะตอบโจทย์มากกว่า

  • บานเลื่อน ประหยัดพื้นที่ได้เยอะ ไม่ต้องกลัวชนเฟอร์นิเจอร์อื่น

อยากเก็บของตามต้องการ แต่ประหยัดพื้นที่ ก็ควรจะเลือกตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนหรือบานสไลด์ ที่เวลาเปิดใช้งานไม่ต้องกังวลว่าบานตู้จะไปชนกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ยิ่งถ้าเลือกหน้าบานติดกระจกก็จะยิ่งทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย แต่หน้าบานแบบนี้ก็มีจุดอ่อนเล็กน้อยตรงทำความสะอาดภายในได้ยากกว่าบานเปิด

5. จำนวนประตู ยิ่งหลายบาน ยิ่งเก็บได้เยอะ

ภาพ: INDEX LIVING MALL ตู้เสื้อผ้า 3 บานประตู รุ่นวาซ – สีบราวนี่ โอ๊ค/ขาว สีบราวนี่ โอ๊ค/ขาว

“ประตูเยอะ แปลว่าตู้ยิ่งกว้าง ก็เก็บของได้เยอะ”

จำนวนหน้าบานตู้เสื้อผ้านอกจากจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับปริมาณการเก็บของแล้ว ยิ่งมีหน้าบานเยอะก็แปลว่าเก็บของได้เยอะขึ้น ส่วนใหญ่จะมีให้เลือกตั้งแต่ 2 ประตู 3 ประตู 4 ประตู และอาจจะผสมผสานกับลิ้นชักด้วย เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งกว่าเดิม โดยควรจะเลือกให้เข้ากับพื้นที่ในห้อง ถ้าใหญ่ไปอาจทำให้ห้องทึบอึดอัดยิ่งกว่าเดิม จะเลือกติดกระจกให้ห้องดูกว้าง หรือราวแขวนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อยเลย

6. เลือกวัสดุให้เข้ากับการใช้งาน ได้ทั้งเก็บของ ได้ทั้งตกแต่ง

“ไม้จริง ไม้ทดแทน เหล็ก หรือพลาสติก เลือกตามงบและการใช้งานได้เลย”

นอกจากดีไซน์ภายนอกภายในแล้ว วัสดุก็เป็นอีกสิ่งที่เราต้องเลือกให้ดีก่อนซื้อตู้เสื้อผ้า เพราะจะได้ใช้งานกันยาวนาน ไม่ต้องกลัวตู้เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ต้องมาเปลี่ยนให้เสียเงิน เสียเวลา วัสดุแบบไหนที่จะเห็นได้บ่อย ๆ บ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก

  • ไม้จริง อบอุ่นเป็นธรรมชาติ ทนทาน

อยากได้ทั้งความอบอุ่น แถมยังแข็งแรงใช้งานได้นาน แน่นอนว่าก็ต้องเลือกวัสดุไม้จริงไว้ก่อนเลย เพราะมีลวดลายสวยงามไม่ซ้ำใคร แถมยังหนาแน่นมาก จึงแข็งแรงทนทาน โดยผลิตจากไม้ได้หลายชนิด เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ก ไม้ยางพารา ซึ่งก็จะส่งผลต่อราคาด้วย ยิ่งเป็นไม้หายาก ก็จะยิ่งแพงขึ้นนั่นเอง 

  • ไม้ปาร์ติเคิล ไม้ MDF ประหยัดขึ้น ยังคงความเป็นไม้เหมือนเดิม

ถ้าซื้อตู้เสื้อผ้าไม้จริงแล้วจะเกินงบที่มีไปหน่อย ลองเปลี่ยนมาเป็นวัสดุทดแทนไม้ ที่ยังคงมีส่วนผสมของไม้อยู่ แต่จะนำไปผสมกับส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ช่วยให้วัสดุแข็งแรง ทนทาน แถมนำไปปิดผิวทำลายอื่น ๆ ต่อไปได้ สำหรับวัสดุทดแทนที่นิยมมากในยุคนี้ก็ได้แก่

  • ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด (Particle Board) อยากประหยัดงบมาก ๆ ควรเลือกปาร์ติเคิลบอร์ด เพราะเป็นวัสดุที่ผลิตจากขี้เลื่อยผสมกาว และอัดขึ้นรูปเป็นแผ่นด้วยวิธีการสมัยใหม่ จึงมีราคาถูก แต่ก็มีจุดอ่อนตรงไม่ทนต่อความชื้นนัก
  • ไม้ MDF (Medium-Density Fiberboard) อยากได้วัสดุที่แข็งแรง แต่ราคาไม่แรง ไม้ MDF นี่ถือว่าตอบโจทย์เลย เพราะทำจากขี้เลื่อยผสมกาว แล้วนำไปอัดขึ้นรูปด้วยความร้อนสูงมาก ๆ ทำให้เนื้อไม้ออกมาแน่นกว่าเดิม แถมพื้นผิวก็เรียบเนียน จะไปปิดผิวแบบไหนต่อก็สะดวก

 

  • เหล็ก ถูกใจสายลอฟท์ ถึกทน ไม่กลัวพัง

เราอาจจะไม่ได้เห็นตู้เสื้อผ้าเหล็กกันบ่อย ๆ แต่วัสดุนี้ถือว่าตอบโจทย์สายลอฟท์ได้ดีเลยทีเดียว ถึงจะเป็นดีไซน์เรียบ ๆ ก็ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในห้องให้ดิบเท่มากขึ้น แถมยังแข็งแรงทนทาน จะปรับเปลี่ยนเป็นตู้เก็บของใช้อย่างอื่นก็ได้เช่นกัน ที่สำคัญผู้ผลิตสมัยนี้ก็ผลิตตู้เสื้อผ้าเหล็กให้มีมาตรฐานมากขึ้น เคลือบสารกันสนิมมาเป็นอย่างดี และยังมีสีสันให้เลือกหลากหลายขึ้นด้วย

 

  • พลาสติก ปรับเปลี่ยนที่ตั้งง่าย ราคาก็ประหยัด

ตู้เสื้อผ้าเดิมเก็บของไม่พอ อยากได้ตู้ขนาดกะทัดรัดมาเป็นตัวเสริมให้เก็บของได้เยอะขึ้น ก็เลือกเป็นตู้พลาสติกได้ โดยส่วนใหญ่เราจะเจอตู้พลาสติกที่เป็นตู้ลิ้นชักกันมากกว่า นอกจากจะนำมาเก็บเสื้อผ้าได้แล้ว ก็ยังปรับเปลี่ยนไปใช้งานด้านอื่น ๆ ได้ด้วย ถือว่าซื้อมาครั้งเดียวคุ้มค่าสุด ๆ

7. อย่าลืมดูเรื่องช่างติดตั้งและรับประกันหลังการขาย

ภาพ: การประกอบเฟอร์นิเจอร์

“ประกันก็มี ช่างก็มา ประหยัดเวลา ประหยัดเงินไปได้เยอะ”

จะซื้อตู้เสื้อผ้าใหม่ทั้งที อย่าดูแค่ตัวสินค้าอย่างเดียว แต่ต้องดูด้วยว่าแบรนด์มีช่างที่จะมาช่วยประกอบสินค้า และมีประกันหลังการขายหรือไม่ ถึงเราจะเลือกตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว แต่พอถึงเวลาซื้อมาจริงก็จะต้องมาประกอบกันใหม่ ถ้ามีช่างมาช่วยก็คงจะประหยัดแรง ประหยัดเวลาไปได้เยอะ หรือหากมีปัญหาครอบคลุมในประกัน ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะอยู่ในสเต็ปไหนของชีวิต ก็เลือกตู้เสื้อผ้าให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้ แต่คนวัยไหนจะเหมาะกับตู้เสื้อผ้าแบบใด NocNoc สรุปมาให้ดูเป็แนวทางกันแล้ว!

สเต็ปไหนของชีวิต ควรจะเลือกตู้เสื้อผ้าแบบไหนดี?

ซื้อตู้เสื้อผ้าที่ไหนดี? ให้ได้แบบที่ใช่ แถมเซฟเงินในกระเป๋า

นอกจากการเลือกตู้เสื้อผ้าให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เก็บเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ได้ครบทุกชิ้นแล้ว ก็อย่าลืมซื้อตู้เสื้อผ้าจากผู้ให้บริการที่ไว้ใจได้อย่าง NocNoc เพราะเราได้รวบรวมสินค้าคุณภาพเอาไว้มากมาย จะชอบแต่งบ้านสไตล์ไหนก็เลือกได้เลยตามแบบที่ชอบ  แถมยังผ่อน 0% นาน 10 เดือน* พร้อมส่งฟรีทั่วไทย 

พิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 66 – 28 ก.พ. 66 NocNoc แจกโค้ดลดเพิ่ม!*

  • ช้อปไม่มีขั้นต่ำ ลดเพิ่ม 5% สูงสุด 400 กรอกโค้ด BLNFEB5
  • ช้อปครบ 10,000 ลดเพิ่ม 8% สูงสุด 2,000 กรอกโค้ด BLNFEB8
  • ช้อปครบ 30,000 ลดเพิ่ม 10% สูงสุด 10,000 กรอกโค้ด BLNFEB10

ไม่ใช่แค่เพียงเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านสุดปังเท่านั้น เพราะเรายังมีบริการช่างผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้าน ที่จะมาช่วยปรับเปลี่ยนบ้านของทุกคนให้เข้ากับการใช้งาน หรือตามสไตล์ที่ชอบ ด้วยงบไม่แรง แถมไม่ต้องกลัวช่างทิ้งงาน เพราะทีมงาน NocNoc พร้อมให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ต้นจนจบ

 

สนใจเคล็ดลับเรื่องตู้เสื้อผ้า อยากรู้มากกว่านี้ ไปอ่านกันต่อได้เลยที่

ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกตู้เสื้อผ้าแบบไหนดี หรือจะแต่งบ้านสไตล์ไหนให้ตรงใจพร้อมรับทุกเหตุการณ์สำคัญในชีวิต ก็ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน NocNoc มาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นห้องไหนในบ้านก็มีไอเดียดี ๆ รอเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนอยู่แล้วใน Inspiration Feed หรือยังไม่ชัวร์ว่าชอบแนวไหน ฟีเจอร์ Your Style Quiz ก็พร้อมเป็นตัวช่วยหาสไตล์ที่ใช่ให้กับทุกคน เท่านั้นยังไม่พอ ถ้าถูกใจสินค้าชิ้นก็ช้อปผ่านแอปได้เลยทุกที่ทุกเวลา!

*เฉพาะบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

NocNoc Writer

กองบรรณาธิการ NocNoc ที่อยากถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับบ้าน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนสามารถสร้างบ้านในฝันให้เป็นจริง

บทความที่เกี่ยวข้อง