-
Others
-
Tips&Tricks
-
Idea&Inspiration
ไอเทมสุดเจ๋งสำหรับมนุษย์ออฟฟิศ! ตัวช่วยให้ Work From Home อย่างมีประสิทธิภาพ
-
โพสต์เมื่อ 17 Mar 2022
-
โดย NocNoc Writer
-
165
Key Takeaways
- การทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้ร่างกายมีอาการปวดเมื่อย ทั้งส่วนหลัง คอ บ่า ไหล่ จนอาจกลายเป็นอาการออฟฟิศซินโดรม การเลือกใช้โต๊ะและเก้าอี้ที่มีคุณภาพ จะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ ไม่ให้กลายเป็นปัญหาเรื้อรังต่อไป
- โต๊ะที่เหมาะสำหรับการทำงานควรเป็นโต๊ะที่สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้ เพื่อให้เปลี่ยนท่าการทำงานได้สะดวก ทั้งการนั่งหรือยืน ส่วนเก้าอี้ก็จำเป็นต้องโอบรับสรีระของร่างกาย และปรับความสูงต่ำหรือองศาของส่วนต่าง ๆ เพื่อให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
ปัญหาที่ชาวมนุษย์ออฟฟิศเบื่อ และคอยตามหลอกหลอน จนต้องไปหาหมอเพื่อทำกายภาพบำบัด หรือแวะไปนวดสปาคลายเส้นกันบ่อย ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นอาการปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ ที่เรียกว่าออฟฟิศซินโดรม แต่จะดีกว่าไหมนะ หากมีโต๊ะและเก้าอี้ทำงานมาเป็นไอเทมที่ช่วยลดปัญหาที่แสนน่าเบื่อนี้ไปได้ แถมยังได้งานที่มี Productivity เรียกได้ว่าคุ้ม 2 ต่อเลยทีเดียว วันนี้ NocNoc จึงขอแนะนำเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดี อย่างโต๊ะและเก้าอี้ Work Form Home ที่ช่วยทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน พร้อมกับการรักษาสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรงอย่างเต็มที่!
โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าเป็นเทรนด์โต๊ะทำงานใหม่ ที่ช่วยให้ได้เปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานได้โดย ไม่ต้องนั่งอยู่กับที่ตลอดทั้งวัน ช่วยลดอาการเมื่อยล้าเป็นอย่างดี โดยจะต้องปรับความสูงของโต๊ะให้เหมาะสม อย่างตอนนั่งทำงานควรปรับให้สูงประมาณ 75 เซนติเมตร ส่วนตอนยืนต้องปรับให้เหมาะกับความสูงของตัวเอง แต่หลักการง่าย ๆ คือปรับให้สูงเหนือเอวขึ้นไปเล็กน้อย และให้สายตาทำองศากับหน้าจอคอมประมาณ 10 – 20 องศา ช่วยให้ก้มลงมองจอได้พอดี ลดอาการปวดคอและหลังลงได้
แนะนำ 5 โต๊ะทำงาน Work From Home
1. DF Prochair โต๊ะไฟฟ้ายืน - นั่งทำงาน
ใครที่มีอาการปวดหลังระหว่างทำงาน เพราะต้องนั่งทำงานอยู่กับที่นานเกินไป ลองหันมาใช้โต๊ะไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้ เหมาะสำหรับใช้เป็นโต๊ะทำงาน Work From Home เพราะช่วยให้ร่างกายได้เปลี่ยนท่าทางไม่ต้องนั่งจุ้มปุ๊กทั้งวัน สามารถเพิ่มลดความสูงให้เข้ากับสรีระร่างกายได้ง่าย ๆ ตั้งแต่ 72 – 121 เซนติเมตร แถมยังบันทึกระดับได้ 4 ตำแหน่ง เพิ่มความสะดวกในการทำงานยิ่งขึ้น
นอกจากนี้โต๊ะไฟฟ้าจาก DF Prochair ยังช่วยให้ Work From Home อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ Single Motor ทำให้มีเสียงรบกวนน้อยมาก ช่วยให้ยังคงมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการทำงาน และยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายอย่าง ทั้งพอร์ตชาร์จหัว Micro B และ Type C มีลิ้นชักขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะมีเอกสารเยอะแค่ไหน โต๊ะก็ไม่รกแน่นอน ได้ทำงานแบบ Productive อย่างเต็มที่
2. KIOSK Furniture โต๊ะทำงานปรับระดับไฟฟ้า
สำหรับเหล่ามนุษย์ออฟฟิศที่ยังต้องทำงานที่บ้าน แล้วยังไม่มีโต๊ะทำงาน Work From Home ดี ๆ แนะนำให้ใช้โต๊ะจาก KIOSK เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ Productive ยิ่งขึ้น พร้อมออกแบบให้โดดเด่นเป็นโต๊ะ 2 สี ที่มีเอกลักษณ์เป็นโครงสีขาว พร้อมท็อปหน้าโต๊ะสีดำให้ความเท่อย่างเรียบง่าย ไม่ว่าจะนำไปตั้งมุมไหน ก็ช่วยให้ได้ห้องทำงานที่ดูสวยมีสไตล์ยิ่งขึ้น
การปรับโต๊ะให้สูงต่ำทำให้เปลี่ยนท่าในการทำงาน ไม่ได้นั่งอยู่กับที่เฉย ๆ ซึ่งการเปลี่ยนท่ามันช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมให้ดีขึ้นได้ โดยโต๊ะรุ่นนี้ใช้ระบบปรับระดับไฟฟ้า ปรับผ่านหน้าจอ Touch Screen ตั้งแต่ 70 เซนติเมตรซึ่งเหมาะกับการนั่ง ไปจนถึง 110 เซนติเมตร ไว้สำหรับพักเมื่อย ลุกขึ้นมายืนทำงาน และที่สำคัญบันทึกระดับได้ถึง 3 ตำแหน่ง ไม่ต้องคอยปรับใหม่ให้เสียเวลา
3. Homu Craft โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Duo
คงจะดีไม่น้อยถ้ามีไอเทมเจ๋ง ๆ มาช่วยลดอาการปวดหลังปวดคอจากการนั่งทำงานนาน ๆ หลังขดหลังแข็ง ด้วยโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าจาก Homu Craft ที่ดีไซน์มาอย่างมินิมอล จะตั้งไว้มุมไหนของบ้านก็ดูสวยเรียบง่าย เข้ากับการตกแต่งได้หลากหลายสไตล์ มาพร้อมกับฟังก์ชันและระบบล้ำ ๆ ทั้ง Steelframe ที่รองรับน้ำหนักได้มากถึง 80 กิโลกรัม ด้วยขาโต๊ะจากเหล็กเกรดคุณภาพ และ Self-protection ที่จะหยุดทำงานโดยทันทีเมื่อกระแสไฟฟ้าเกิน เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานด้วย
อีกทั้งยังมี Intelligent Control ปุ่มกดอัจฉริยะทำหน้าที่ควบคุมการปรับความสูงต่ำ ให้เลือกยืนหรือนั่งทำงานได้ตามใจต้องการ พร้อมกับ Smooth Start-stop และ Anti-collision ที่ช่วยปรับให้โต๊ะขึ้นลงได้อย่างราบรื่น พร้อมกับระบบกันชน ป้องกันอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน นับเป็นโต๊ะคุณภาพที่ช่วยให้ Work From Home อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. Panaké โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Smart Pro- Dual Motor
สายมินิมอลต้องไม่พลาดกับโต๊ะทำงาน Work From Home สไตล์ไม้ที่ดูดีและมีคุณภาพ จาก Panaké ที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ สามารถปรับความสูงต่ำให้เหมาะทั้งการนั่งทำงาน หรือลุกขึ้นมายืนทำงานเวลาเมื่อย ช่วยให้ร่างกายได้เปลี่ยนท่าเปลี่ยนอิริยาบถ ระหว่างวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวช่วยลดอาการออฟฟิศซินโดรม
นอกจากนี้ยังสามารถจดจำระดับความสูงได้มากถึง 4 ระดับ และกดผ่านหน้าจอที่มุมโต๊ะได้เลย จึงใช้งานได้อย่างสะดวก และมาพร้อมกับมอเตอร์คู่ เพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างทรงพลัง เลื่อนขึ้นลงได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด แต่ใช้เสียงน้อยมากไม่รบกวนสมาธิในการทำงานอย่างแน่นอน
5. Modernform โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า FLEX
เปลี่ยนการทำงานให้สะดวกสบาย แถม Productive ยิ่งขึ้น คลายอาการปวดเมื่อยจากการทำงาน ด้วยโต๊ะทำงาน Work From Home แบบปรับระดับไฟฟ้าจาก Modernform โดดเด่นด้วยดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะตัวในสไตล์โมเดิร์น พร้อมปรับระดับได้ตั้งแต่ 57 – 124 เซนติเมตร และสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน เพื่อบันทึกข้อมูลการใช้งาน ช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของมนุษย์ออฟฟิศยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น
มีโต๊ะทำงานปรับระดับไฟฟ้าไปแล้ว ชาวมนุษย์ออฟฟิศต้องห้ามพลาดอีกหนึ่งไอเทมที่เป็นของคู่กัน ไม่มีทางแยกจากกันได้ นั่นคือเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ ตัวช่วยที่ทำให้การทำงานไหลลื่นยิ่งขึ้น โดยให้เลือกเก้าอี้ที่สามารถปรับส่วนต่าง ๆ เช่น ความสูงของเก้าอี้เพื่อปรับให้เท้าไม่ลอย สามารถวางเท้าไว้ที่พื้นได้พอดี
รวมถึงการปรับองศาพนักพิง ที่รองคอ ที่วางแขน เพื่อให้ส่วนต่าง ๆ ได้พักและผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ลดอาการเกร็งที่จะส่งผลต่อการปวดคอปวดหลัง และยังต้องเลือกให้พอดีกับสรีระของร่างกาย ให้ที่นั่งและพนักพิงหลังสามารถโอบรับช่วงตัวไว้ได้ โดยไม่กว้างหรือแคบจนเกินไป
แนะนำ 5 เก้าอี้ทำงาน Work From Home
1. Modernform เก้าอี้เพื่อสุขภาพ Think V2
อย่าทนให้อาการปวดหลังกลายเป็นปัญหาเรื้อรังจนรักษายาก หนึ่งไอเทมที่มนุษย์ออฟฟิศต้องมี คือ เก้าอี้เพื่อสุขภาพที่ช่วยให้ Work From Home ได้ไหลลื่นเพราะออกแบบตามหลักการยศาสตร์ โอบรับสรีระของร่างกายด้วยระบบ Lumbar Support สามารถปรับที่นั่งให้ลึกได้ตามความต้องการ เพื่อสร้างท่านั่งที่สบายและผ่อนคลายมากที่สุด
เก้าอี้ Work From Home รุ่นนี้ยังสามารถปรับส่วนอื่น ๆ ได้อีก ทั้งที่พักศีรษะ พนักพิง ที่วางแขน เพื่อปรับท่านั่งให้สบายมากที่สุด ตอบโจทย์คนทำงานที่ต้องนั่งเป็นเวลานาน ๆ แล้วก็ยังมีดีไซน์สวยเรียบง่าย ด้วยการหุ้มผ้าสีเทาเข้ม ใช้คู่กับโต๊ะทำงานได้หลากหลายสไตล์ เปลี่ยนการทำงานที่บ้านให้มีความสุขขึ้นทันตาเห็น
2. FULICO ErgoChair เก้าอี้สุขภาพ FULI X8
อาการปวดเมื่อยจากการทำงานมาทั้งสัปดาห์ คงจะกวนใจใครหลาย ๆ คนไม่น้อย เพราะต้องทนกับการปวดหลัง แม้จะเลิกงานแล้วก็ยังมีอาการอย่างต่อเนื่อง ลองเลือกเก้าอี้สุขภาพ จาก FULICO พิเศษที่ปรับพนักพิงส่วนหลังได้ถึง 155 องศา และมาพร้อมกับที่วางขาแบบพับได้ ตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้นั่งทำงานได้อย่างสบาย รู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น พร้อมเต็มที่กับการ Work From Home
นอกจากเก้าอี้รุ่นนี้ จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ และลดโอกาสเกิดออฟฟิศซินโดรมแล้ว ตัวดีไซน์ด้วยโครงสีขาว พร้อมหุ้มผ้าสีเทาอ่อน ให้ความรู้สึกเรียบง่าย เมื่อนำไปวางมุมไหนก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโปร่งสบาย เข้ากับโต๊ะทำงานและการตกแต่งหลากหลายสไตล์
3. Ergohuman Thailand เก้าอี้เพื่อสุขภาพ
ยืดเหยียดร่างกายให้ผ่อนคลาย พร้อมที่วางโน๊ตบุ๊กแบบพับเก็บได้ ตอบโจทย์ความสบายเพื่อคนทำงานยุคใหม่ ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นกับเก้าอี้ Work From Home จาก Ergohuman Thailand เป็นเก้าอี้อีกรุ่นที่ออกแบบมาให้รองรับสรีระของร่างกาย ซึ่งเหมาะสำหรับชาวมนุษย์ออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ เพราะนอกจากจะปรับส่วนต่าง ๆ ของเก้าอี้ได้แล้ว เก้าอี้เพื่อสุขภาพรุ่นนี้ต้องมีฟังก์ชันพิเศษที่แตกต่าง อย่างที่วางขา ซึ่งช่วยปรับเอนให้ร่างกายได้สบายยิ่งขึ้น
4. Workscape เก้าอี้ Ergonomic Chair
สายคิ้วท์ต้องไม่พลาดกับเก้าอี้ Work From Home รุ่นนี้ ยิ่งใครที่รู้สึกปวดหลังปวดคอ เหมือนจะมีอาการออฟฟิศซินโดรม การเลือกเก้าอี้เพื่อสุขภาพจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นได้ดี เพราะออกแบบมาให้สามารถปรับส่วนต่าง ๆ ทั้งความสูงต่ำพนักพิงศีรษะ ปรับองศาของพนักพิงและที่วางแขน ซึ่งล็อคให้คงที่ชั่วคราวได้ รวมถึงปรับความสูงให้พอดีกับโต๊ะ เพื่อให้นั่ง Work From Home ได้สบาย ๆ พร้อมรักษาสุขภาพให้ได้มากที่สุดด้วย
เก้าอี้ Work From Home จาก Workscape รุ่นนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับชาวออฟฟิศที่ยังต้องทำงานที่บ้าน และกำลังมองหาเก้าอี้ดี ๆ ที่รองรับสรีระของร่างกายสำหรับการนั่งทำงาน พร้อมต้องการแต่งห้องให้ดูหวานขึ้น ด้วยโครงไนลอนสีขาว หุ้มผ้า Mesh สีชมพูอ่อน เติมความละมุนให้มุมทำงานมีบรรยากาศที่ดียิ่งขึ้น
5. Ergotrend เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ
ไอเทมตัวสุดท้ายจาก Ergotrend เก้าอี้ Work From Home เพื่อสุขภาพ ซึ่งตอบโจทย์เหล่ามนุษย์ออฟฟิศที่มีอาการปวดหลังบ่อย ๆ ด้วยการใช้วัสดุคุณภาพดี ตัวเฟรมทำจากโครเมียมเกรดคุณภาพ รองรับน้ำหนักของผู้ใช้งานได้มากถึง 120 กิโลกรัม ให้ความแข็งแรงทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมกับเบาะหุ้มหนัง PU อย่างดี สัมผัสนุ่มเย็นสบาย
ด้วยฟังก์ชันสำคัญที่สามารถปรับความยืดหยุ่นของพนักพิง ความสูงต่ำของที่รองคอและตัวเก้าอี้ได้ รวมถึงพนักพิงแบบ Double Back โอบรับส่วนหลังให้ผ่อนคลาย ทำให้เป็นเก้าอี้อีกรุ่นที่ช่วยให้ Work From Home อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี
สำหรับมนุษย์ออฟฟิศที่กำลังมองหาโต๊ะและเก้าอี้ Work From Home เพื่อช่วยทั้งรักษาสุขภาพ ลดอาการปวดหลัง เมื่อยล้าตามร่างกาย รวมถีงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น ช่วยให้ Productive ได้ตลอดทั้งวัน สามารถเข้าไปชมไอเทมในห้องทำงานได้ที่ NocNoc ซึ่งได้รวบรวมทั้งโต๊ะ เก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ และของใช้อื่น ๆ อีกมากมาย ที่มาพร้อมดีลพิเศษราคาสุดประหยัดให้ช้อปแบบฟิน ๆ อย่างสบายกระเป๋า รวมถึงยังเป็นศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญงานช่างที่มีรีวิวจากลูกค้าที่ใช้บริการจริงมากกว่า 1,000 คน พร้อมคัดสรรช่างคุณภาพ งานเนี๊ยบ งานดี มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในราคาที่คุณเองเลือกได้ อีกทั้งยังชำระเงินจ้างช่างผ่าน NocNoc ไร้ปัญหาการทิ้งงาน รับประกันงานเสร็จ 100%
“
503
-
Tips&Tricks
-
+1
รวม 6 วิธีเก็บรักษาน้ำหอม เก็บแบบไหนถึงจะถูกต้อง
โพสต์เมื่อ 07 Aug 2023
499
-
Tips&Tricks
-
+1
7 ของมงคลเปิดร้านใหม่ เพื่อกิจการเฮง ๆ ปัง ๆ
โพสต์เมื่อ 04 Dec 2023
498
-
Idea&Inspiration
20 ไอเทมของขวัญจับฉลาก 300 บาท ประหยัดงบ แต่ได้ของปัง
โพสต์เมื่อ 18 Dec 2023
497
-
Knowledge
แนะนำ 5 หม้ออบลมร้อนยี่ห้อไหนดี รังสรรค์ได้ทุกเมนู
โพสต์เมื่อ 07 Dec 2023
494
-
Knowledge
4 สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนซื้อซิงค์ล้างจานให้ตอบโจทย์ใช้งาน
โพสต์เมื่อ 07 Jan 2021