สู้ PM 2.5 ด้วยเครื่องฟอกอากาศ เลือกอย่างไรให้ถูกใจและกรองได้จริง

NocNoc สรุปให้

• เครื่องฟอกอากาศที่ดีคือเครื่องฟองอากาศที่ตอบโจทย์ความต้องการเราทุกด้าน ไม่ใช่แค่ดูตามรีวิวที่ว่าดีเท่านั้น ก่อนจะซื้อ อย่าลืมเช็คขนาดพื้นที่ห้องเรา ค่า CADR ระบบการกรอง ค่า Airflow และเช็คเสียงขณะทำงาน เพื่อการกำจัดฝุ่น PM 2.5 ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
• นอกจากนี้ ไลฟ์สไตล์ก็เป็นอีกโจทย์ของการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ บางบ้านมีสัตว์เลี้ยง บางบ้านเน้นเรื่องหอบหืดหรือภูมิแพ้ บางบ้านต้องการวางในที่ที่อยากกำจัดกลิ่น ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการใช้งานในระยะยาวทั้งนั้น เลือกให้ดีเพื่อคุ้มค่าที่สุด

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากฝุ่น PM 2.5 และยังคงไม่มีท่าทีว่าจะไม่ได้หมดไปในเร็ววันนี้ สิ่งที่พวกเราทุกคนคนทำได้ดีที่สุดคงเป็นการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวให้ดี และต้องมั่นใจว่าพื้นที่อยู่อาศัยของเราต้องสะอาดปลอดจากฝุ่นด้วย แต่สมัยนี้มีเครื่องฟอกอากาศหลากหลายรูปแบบวางขายในท้องตลอด เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเลือกซื้อเครื่องไหน? วันนี้ NocNoc จะพาไปดูวิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศ  พร้อมแนะนำเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

การจะกำจัดฝุ่น PM 2.5 ในบ้านของเราได้นั้น ไม่ใช่แค่เลือกรุ่นที่คนรีวิวเยอะ ๆ มาแล้วก็จบไปนะ เพราะแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ขนาดห้องที่ไม่เท่ากัน ความต้องการที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ตอบโจทย์เพื่อให้การฟอกอากาศนั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไป วันนี้ NocNoc มี 5 วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ทุกคนควรรู้ก่อนจะเริ่มซื้อ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

เป็นข้อที่หลายคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่าขนาดห้องมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพในการกรองอากาศ ยิ่งห้องมีขนาดใหญ่เท่าไร ก็ต้องเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศเลย เพราะฉะนั้น ควรทราบขนาดของห้อง แล้วดูค่าเปลี่ยนถ่ายอากาศทุกชั่วโมงของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ว่าค่าคือเท่าไร และแนะนำว่าให้คุณเลือกซื้อเครื่องที่ฟอกอากาศได้กว้างกว่าพื้นที่ห้องจริงประมาณ 20-40%

ข้อนี้จะเกี่ยวข้องกับขนาดพื้นที่ของห้องด้วยนะ เพราะต่า CADR หรือ Clean Air Delivery Rate เป็นการวัดอัตราเปลี่ยนถ่ายอากาศต่อชั่วโมง โดยจะคำนวณจากการวัดปริมาณอากาศทั้งหมดในพื้นที่ที่ระบบฟอกอากาศทำความสะอาดได้ภายใน 1 นาที ซึ่งนั้นเท่ากับว่า ยิ่งมีห้องขนาดใหญ่ก็ต้องการค่า CADR ที่สูงตามขึ้นไป

สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเช็ค เรามีตารางค่า CADR ที่แนะนำสำหรับแต่ละขนาดพื้นที่ห้องมาให้เป็นแนวทางตามด้านล่างนี้เลย:

สมัยนี้มีเทคโนโลยีในการกรองอากาศที่หลากหลาย เราเลยต้องมาเลือกกันว่าระบบการกรองแบบไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด

1. ตัวกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air)

ตัวกรองนี้เหมาะมากสำหรับบ้านที่มีอาการภูมิแพ้หรือเป็นโรคหอบหืด เพราะสามารถขจัดฝุ่นละอองอนุภาคเล็กจิ๋วเพียง 0.3 ไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 99.98% นอกจากนี้ยังกรองฝุ่นผง ละอองเกสร เชื้อรา และสะเก็ดละอองจากคนในบ้านสัตว์เลี้ยงได้ด้วย

2. ตัวกรองพรีฟิลเตอร์

บ้านไหนที่มีสัตว์เลี้ยงขอแนะนำเลยเพราะตัวกรองพรีฟิลเตอร์ช่วยกรองฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดใหญ่ได้ดี เช่น ขนสัตว์ โดยจะดักจับก่อนอากาศจะเข้าสู่การกรองชั้นต่อไป

3. ตัวกรอง Activated Carbon

Carbon จะช่วยดูดซับกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ รวมไปถึงแก๊ซ ขจัดควัน สารเคมี และกลิ่นอาหาร เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงแล้วต้องการกำจัดกลิ่น หรือห้องนั่งเล่นที่อาจจะมีทั้งกลิ่นอาหารหรือเลี้ยงสัตว์เลี้ยง

ค่า Airflow เรียกให้เข้าใจกันง่าย ๆ ก็คือค่าความเร็วและกำลังลมนั่นเอง ยิ่งมีค่านี้สูง ก็ยิ่งสามารถเปลี่ยนถ่ายอากาศบริสุทธิ์ออกมาได้เร็วเท่านั้น ในเครื่องกรองอากาศบางก็เราสามารถปรับตั้งค่าส่วนนี้ได้ตามที่ต้องการ หรือบางรุ่นก็สามารถปรับได้เองอัตโนมัติหากตรวจพบว่าอากาศในห้องมีการปนเปื้อนผิดจากปกติ

ข้อสุดท้ายที่หลายคนลืมนึกไปเสียงของเครื่องฟอกอากาศ ควรเลือกรุ่นที่ใช้เสียงขณะทำงานต่ำ เพื่อไม่ให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรืออย่างเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนควรมีค่าเสียงอยู่ที่ 30-31 เดซิเบลเท่านั้น และในบางเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นก็สามารถตั้งค่าการทำงานเป็นโหมดกลางคืนได้ด้วย อย่าลืมตรวจสอบให้ดี

หลังจากดูหลักการเลือกเครื่องฟอกอากาศกันไปแล้ว เราไปดูตัวอย่างสินค้าเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนกันดีกว่า โดยจะมีทั้งหมด 4 แบบให้ดูเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อ

รถยนต์เป็นจุดที่คนมักจะละเลยการกรองอากาศไป แต่เคยนั่งในรถยนต์แล้วได้กลิ่นท่อไอเสียจากรถคันข้างหน้ากันบ้างไหม? อย่าได้ปล่อยไว้เป็นอันขาดโดยเฉพาะในคนที่ป่วยเป็นหอบหืดและภูมิแพ้  แค่มีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น IG-NX2B จาก Sharp ก็วางใจได้หายห่วง มีขนาดเล็กติดตั้งได้ง่าย แถมรุ่นนี้ยังสามารถกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียในอากาศได้ดีอีกด้วย ไม่พกติดรถไว้คงไม่ได้แล้ว

ความปังของไอเทมเด็ดชิ้นนี้

• เพิ่มประสิทธิภาพการฟอกอากาศด้วยพลังเทอร์โบ (Turbo Model)
• ฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไข้หวัดนก H5N1 ในอากาศ กำจัดกลิ่นอับชื้น พร้อมทั้งสลายสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่น
• ใช้งานได้เลยผ่านสายต่อ USB พร้อมกับ Adapter สำหรับใช้ในรถยนต์

ราคา 2,599 บาท*

สำหรับห้องนอนหรือห้องคอนโดขนาดเล็กอาจจะไม่ต้องการวางเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่เทอะทะที่กินพื้นที่ของห้องไป แต่เครื่องฟอกอากาศพกพา Core 300S Air Purifier จาก Levoit มาในไซซ์เล็กที่จะวางพื้นก็ได้หรือจะตั้งโต๊ะก็ดี และยังให้ค่า CADR ถึง 195 ลบ.ม. อีกด้วย ดีไซน์สวยและมีฟังก์ชันการทำงานผ่านคำสั่งเสียงได้ด้วยนะ กระทัดรัดและสะดวกสบายเหมาะกับคนรุ่นใหม่จริง ๆ 

ความปังของไอเทมเด็ดชิ้นนี้

• และช่วยกำจัดกลิ่นและควันด้วยตัวกรองถ่านประสิทธิภาพสูง
• AirSight™ Plus สแกนหาอนุภาคอากาศโดยรอบและอัปเดตคุณภาพอากาศอัตโนมัติ
• ใช้คำสั่งเสียงกับ Amazon Alexa หรือ Google Assistant และควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วยแอปพลิเคชัน VeSync

ราคา 4,190 บาท*

บ้านไหนมีสัตว์เลี้ยงมาฟังทั้งนี้ เพราะ Air Magicube จาก PETKIT  แก้ทุกปัญหาให้พ่อแม่สัตว์เลี้ยงหมดเลย ทั้งดักจับขนและอนุภาคได้ดี และยังกำจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ เชื้อรา และแบคทีเรียในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะใช้น้ำยาในการทำงาน แต่ผ่านการรับรองมาแล้วว่าปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อเราและสัตว์เลี้ยงอย่างแน่นอน

ความปังของไอเทมเด็ดชิ้นนี้

• กำจัดแก๊สแอมโมเนีย สารฟอร์มัลดีไฮด์ (HCHO) และ ไฮโดรเจน ซัลไฟด์ ต้นเหตุของกลิ่นฉุนได้มากกว่า 80% 
• ช่วยยับยั้งการก่อตัวของแบคทีเรีย และลดการเน่าเสียจากการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ 
• ใช้งานง่าย เพียงแค่ตั้งค่าการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน

ราคา 1,691.50 บาท*

สำหรับเครื่องฟอกอากาศรุ่นสามัญประจำบ้านอย่าง Mi Air Purifier 4 Lite จาก Xiaomi นั้นเราคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก การันตีด้วยความนิยมที่ไม่ว่าจะไปบ้านไหนก็ต้องเจอ ดีไซน์มินิมอลดูสวยเข้ากับบ้านได้หลายสไตล์ การทำงานที่มีประสิทธิภาพ และการออกแบบมาเพื่อสู้กับฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะ เครื่องนี้น่าจะยังได้รับความนิยมจากคนไทยไปอีกนาน

ความปังของไอเทมเด็ดชิ้นนี้

• ประสิทธิภาพการกรองสูงถึง 99.97% กำจัดอนุภาคขนาดเล็กได้ (0.3 ไมครอน)
• ปล่อยอากาศบริสุทธิ์ 6330 ลิตรในทุก ๆ นาที ฟอกอากาศในห้องให้บริสุทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว 
• เสียงรบกวนต่ำเพียงแค่ 33.4dB ในโหมดกลางคืน ไม่รบกวนการพักผ่อน

ราคา 4,004.10 บาท*

วันนี้น่าจะได้เคล็ดลับดี ๆ ก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศกันไปเยอะพอสมควร หลังจากดูวิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศไปแล้ว และถูกไอเทมชิ้นไหนที่เราแนะนำก็ช้อปได้เลย เพราะที่ NocNoc เรารวมมาให้ทุกคนได้ช้อปกลับไปเปลี่ยนบ้านให้ตรงใจ แถมถ้าจะซ่อมบ้าน รีโนเวทบ้านกันแบบปัง ๆ เราก็มีช่างผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้านรอให้บริการ เพราะเรื่องบ้านเลือกแทนกันไม่ได้จริง ๆ

• สินค้าเรื่องบ้านให้เลือกเยอะกว่า 500,000 รายการ จากหลากหลายร้านค้าชั้นนำ
• มี AI ช่วยเลือกสินค้าตามสไตล์ที่ทุกคนชื่นชอบ
• ช้อปง่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดส่งทั่วไทย
• บริการงานช่างครบวงจร ไว้ใจได้ ทั้งบริการทำความสะอาด ซ่อมบำรุง ติดตั้ง และตกแต่ง

ใครชอบแต่งบ้าน อยากเปลี่ยนมู้ดให้ถูกใจ แต่ยังไม่มีไอเดีย ลองโหลดแอป NocNoc มาเลย! Inspiration Feed มีไอเดียดี ๆ เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน แถมยังมีฟีเจอร์ Your Style Quiz เป็นตัวช่วยเลือกสไตล์ที่ใช่มาให้ด้วย ถ้าถูกใจสินค้าชิ้นไหน ก็ช้อปผ่านแอปได้เลยทุกที่ทุกเวลา พร้อมจัดส่งถึงบ้าน!

หาแรงบันดาลใจแต่งบ้านตามเทรนด์ต่าง ๆ ตามดูต่อได้ที่

ป้องกันฝุ่น PM2.5 เลือกเครื่องฟอกอากาศแบบไหนดี

เครื่องฟอกอากาศเปิดตอนไหนดี หายใจได้เต็มปอด ไม่กลัว PM2.5

*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน

ติดตามโปรโมชั่นเด็ดและสาระดี ๆ เรื่องบ้านได้ที่

💚LINE: lin.ee/27iSjiz

💙Facebook : facebook.com/nocnocth

🖤TikTok: tiktok.com/@nocnocth

💜Instagram: instagram.com/nocnocth/

💙Twitter: twitter.com/NocNocTH

❤️Youtube: youtube.com/nocnocth

.

🏠 #เรื่องบ้านเลือกจนกว่าจะชอบ #NocNoc