• Tips&Tricks

กลเม็ด 7 เคล็ดลับเลือกโซฟาให้สวย ลงตัวได้ ไม่ง้ออินทีเรีย

  • โดย NocNoc Writer

  • 142

โซฟานับเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักในห้องนั่งเล่น ด้วยรูปแบบและสไตล์ที่หลากหลายของโซฟา ทำให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้สามารถบ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของคุณได้ ดังนั้นการเลือกโซฟาสักตัว จำเป็นต้องพิถีพิถัน เพื่อให้ได้โซฟาที่ใช่ วันนี้ NocNoc.com ขอนำเสนอวิธีการเลือกโซฟาแบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้โซฟาที่สวยและเข้ากับห้องนั่งเล่นของคุณ แบบไม่ต้องง้ออินทีเรีย!

ก่อนที่เราจะไปรู้เคล็ดลับการเลือกโซฟาทั้ง 7 ข้อ ไปดูกันก่อนว่าโดยทั่วไปมีการใช้วัสดุอะไรสำหรับหุ้มโซฟา และโซฟาที่เราเห็นวางขายทั่วไปมีรูปแบบใดบ้าง

ทำความรู้จักกับวัสดุที่ใช้หุ้มโซฟา

วัสดุหุ้มโซฟานับเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโซฟา เนื่องจากเป็นสิ่งที่ให้สีสัน ความสวยงาม ความสบาย รวมถึงยังบ่งบอกตัวตนเจ้าของโซฟาได้ด้วย ซึ่งวัสดุที่ใช้มีหลัก ๆ 2 ชนิด คือ หนัง และผ้า

1. หนังที่ใช้หุ้มโซฟา

1.1 หนังสัตว์

โซฟาหนังสัตว์หรือส่วนใหญ่เรียกว่าโซฟาหนังแท้ เป็นวัสดุที่มีความทนทานสูงมาก แม้จะต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดและไม่ปล่อยให้โดนแดดโดยตรงนาน ๆ หากเป็นรอยเลอะให้น้ำผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาดมาซับเบา ๆ หรือใช้น้ำยาสำหรับเครื่องหนังโดยเฉพาะ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน นับว่าคุ้มค่ากับลงทุน อีกทั้งยังมีสัมผัสที่นุ่ม สบาย ยิ่งใช้งานไปก็จะยิ่งนิ่มและสบายมากขึ้น แต่โซฟาหนังประเภทนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง

1.2 หนังเทียม

โซฟาหนังเทียมมีข้อดีที่เด่นชัดอย่างแรก คือ ราคาไม่สูงเท่าโซฟาหนังแท้ และมีสีสันที่สดใสให้เลือกหลากหลาย รวมถึงยังทำความสะอาดได้ง่าย โดยที่โซฟาประเภทนี้จะมีอายุการใช้งานไม่นานเท่าโซฟาประเภทอื่น ๆ 

2. ผ้าที่ใช้หุ้มโซฟา

2.1 ผ้าใยธรรมชาติ

จุดเด่นที่สุดของโซฟาผ้าใยธรรมชาติ คือ ให้สัมผัสที่อ่อนโยน นุ่มนวล ไม่กักความร้อนไว้ภายใน ทำให้รู้สึกสบายไม่อับชื้น อีกทั้งยังเหมาะกับการแต่งบ้านในสไตล์เรียบง่าย ให้เข้ากับธรรมชาติ แต่ข้อควรระวัง คือ เป็นวัสดุที่เก็บฝุ่นไว้เยอะมาก ต้องหมั่นทำความสะอาดและดูแลให้ดี

2.2 ผ้าใยสังเคราะห์

โซฟาผ้าใยสังเคราะห์มีลักษณะที่คล้ายกับใยธรรมชาติ แม้ผิวสัมผัสไม่นุ่มนวลเท่า แต่ข้อดี คือสามารถออกแบบลวดลาย และสีสันให้สดใสสวยงามได้มากกว่า รวมทั้งมีคุณสมบัติที่ช่วยให้เนื้อผ้าคงตัว ยับยาก ซึ่งส่งผลให้ดูแลโซฟาง่ายขึ้น

นอกจากวัสดุหุ้มโซฟาแล้ว NocNoc.com ขอพาไปรู้จักกับรูปแบบของโซฟาในสไตล์ต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกันไป เพื่อให้คุณค้นหาโซฟาที่ใช่มากที่สุด!

รูปแบบของโซฟา

1. Tuxedo

สไตล์ Tuxedo เป็นโซฟาทรงเหลี่ยม ลักษณะคล้ายกล่องที่ส่วนแขนและพนักพิงสูงเท่ากัน ด้วยรูปทรงเรขาคณิตแบบนี้ ทำให้เป็นโซฟาดีไซน์เก๋ เท่ โฉบเฉี่ยว การเลือกโซฟาทักซิโด้สามารถนำไปแต่งให้เข้ากับห้องนั่งเล่นหลายสไตล์

2. Chesterfield

สไตล์ Chesterfield เป็นโซฟาที่มีลักษณะเป็นกล่องคล้ายแบบ Tuxedo แต่ให้ความหรูหรากว่ามาก เนื่องจากมีจุดเด่น คือ ความโค้งมนบริเวณขอบที่ให้ความรู้สึกนุ่นวล อีกทั้งยังมีการเย็บกระดุมลึกด้านใน ทำให้มีลวดลายที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ในสไตล์แบบลักชัวรี่

3. Camelback

สไตล์ Camelback เป็นอีกหนึ่งสไตล์ของโซฟาหรูหรา รูปทรงส่วนพนักพิง มีลักษณะคล้ายโหนกหลังอูฐ เป็นดีไซน์คลาสิกที่มีความสวยงามในทุกยุคทุกสมัย เหมาะกับการแต่งบ้านสไตล์วินเทจ ย้อนยุค ยิ่งเป็นโซฟาตัวใหญ่จะยิ่งให้ความโอ่อ่ามากขึ้น

4. Cabriole

สไตล์ Cabriole เป็นโซฟาสายหวาน ลักษณะเด่นที่สุด คือ ขาของโซฟามีลักษณะโค้งปลายคล้ายกับการเต้นบัลเล่ต์ ทำให้ดูอ่อนช้อย นุ่มนวลมาก นอกจากนี้ยังมีเอกลักษณ์ที่ส่วนแขนและพนักพิงมีความโค้งมน ยาวต่อเป็นแผ่นเดียวกัน เหมือนกำลังโอบอุ้มผู้ที่นั่งอยู่ด้วย 

5. Lawson

สไตล์ Lawson เป็นโซฟาร่วมสมัยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่วนแขนของโซฟาจะอยู่ต่ำกว่าพนักพิงด้านหลัง และโดดเด่นด้วยลักษณะที่เรียบง่าย ตัดทอนลวดลายของโซฟาสไตล์อื่น ๆ ออกไป เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย นำไปใช้แต่งบ้านได้เข้ากับทุกแนว

6. Sectional

สไตล์ Sectional เป็นเหมือนกับโซฟาอเนกประสงค์ที่เหมาะกับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ หรือบ้านที่มีสมาชิกหลายคน เนื่องจากโซฟาสไตล์นี้มีหลายรูปแบบที่ได้รับความนิยม อย่างโซฟารูปตัวแอล (L) ที่มักวางในบริเวณมุมห้องด้านในด้านหนึ่ง หรือโซฟารูปครึ่งวงกลมที่มีดีไซน์สวยแปลกตา และโซฟารูปตัวยู (U) ที่มักตั้งติดกับผนัง ช่วยเพิ่มความใกล้ชิดกับคนในครอบครัว

เมื่อรู้จักกับวัสดุหุ้มและรูปแบบต่าง ๆ ของโซฟาแล้ว คราวนี้เราก็ไปดูกันต่อเลยว่า มีกลเม็ดเคล็ดลับอะไร ที่ช่วยให้การเลือกโซฟาเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ!

7 เคล็ดลับการเลือกโซฟาง่าย ๆ แบบไม่ง้ออินทีเรีย

1. ขนาดพอดีกับห้อง

เรื่องแรกที่สำคัญในการเลือกโซฟาสักตัว คือ ขนาดโซฟาต้องเหมาะสมกับขนาดห้องนั่งเล่น ควรวัดทั้งพื้นที่ระหว่างประตู พื้นที่ทางเดิน หรือขนาดจอทีวี เพื่อให้ได้โซฟานั้นเข้ากับทุกอย่างมากที่สุด เพราะหากเราเลือกโซฟาที่สวย แต่วัดไม่ได้ขนาดแล้ว เราก็อาจไม่ได้โซฟาที่ฟิตลงตัวกับทุกมุมห้อง หากห้องมีขนาดใหญ่การเลือกซื้อโซฟาขนาดใหญ่ สามารถช่วยเติมเต็มพื้นที่ไม่ให้ห้องโล่งเกินไป เช่นเดียวกันถ้าห้องขนาดเล็กโซฟาประมาณ 2 ที่นั่งก็จะช่วยให้ห้องไม่แคบและอึดอัดได้

2. ตำแหน่งที่วาง

ภาพ: การจัดวางโซฟาในตำแหน่งที่เว้นพื้นที่ให้เดินได้สะดวก

เมื่อได้ขนาดของโซฟาที่พอดีกับห้องนั่งเล่นของคุณแล้ว สิ่งต่อไป คือ ต้องพิจารณาตำแหน่งที่วาง ซึ่งควรดูควบคู่ไปกับแปลนห้องด้วย เช่น ทางขึ้นบันได ระยะการเปิด – ปิดประตูและหน้าต่าง พื้นที่วางโต๊ะกลางหรือโต๊ะข้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้พื้นที่เผื่อสำหรับทางเดินได้สะดวก โดยควรเว้นระยะบริเวณรอบ ๆ โซฟา ประมาณ 30 นิ้ว 

3. โครงโซฟาแข็งแรง

หนึ่งในวิธีเลือกโซฟาที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น คือการเลือกโซฟาที่มีโครงสร้างทนทาน ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง รองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี อย่างเช่นไม้เนื้อแข็งหรือเหล็ก เนื่องจากมีความคงทน รับน้ำหนักได้เยอะ ช่วยให้โซฟาไม่โยกเยก

ภาพ: โซฟาที่โครงไม่แข็งแรง

หากใช้เป็นไม้เนื้ออ่อนหรือแผ่นพาร์ติเคิลบอร์ดอาจไม่ตอบโจทย์นัก เนื่องจากเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง ตัวโครงอาจเสื่อมภาพไป และทำให้โซฟาชำรุดได้ง่าย นอกจากนี้ควรมีการเลือกโซฟาที่โครงถูกปิดบังหรือหุ้มเป็นอย่างดี ไม่ยื่นออกมา เพราะอาจทำให้เดินชน หรือนั่งแล้วเท้าไปโดน ซึ่งจะไม่สะดวกสบายเลย

4. ความสบายในการนั่ง

ภาพ: โซฟาที่มีสัมผัสนุ่มนั่งสบาย

โซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สำหรับการนั่งพักผ่อน เพื่อให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า หรือให้สัมผัสที่ดีกับผู้นั่ง โดยสิ่งที่เป็นตัวกำหนดความสบาย คือวัสดุที่บรรจุอยู่ภายในเบาะ ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ขนสัตว์มีความนุ่มมาก แต่อาจไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ เนื่องจากความนุ่มที่ทำให้ลุกนั่งได้ลำบาก ต่างจากเส้นใยไฟเบอร์ที่มีลักษณะที่แน่นฟู ทำให้ไม่ยวบลงไปทั้งหมด อีกทั้งยังระบายความร้อนได้ดี ไม่กักเก็บฝุ่นด้วย

ภาพ: วัสดุเบาะภายในโซฟา

นอกจากนี้ยังมีวัสดุอีกหลายอย่าง เช่น โฟมขึ้นรูปที่หนาแน่น ทนทาน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบสัมผัสที่นิ่มจนเกินไป หรือ Memory Foam ที่โอบรับทุกสรีระของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ช่วยให้นั่งได้อย่างสบายไม่ปวดเมื่อย

5. วัสดุหุ้มเหมาะกับไลฟ์สไตล์

ภาพ: รอยเลอะสีเมจิกบนโซฟาผ้า

การเลือกโซฟาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์นั้น ดูได้จากหลายปัจจัย เช่น สมาชิกในบ้าน หากบ้านของคุณมีเด็กเล็กโซฟาหนังเทียมอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากหนังเทียมไม่ดูดน้ำที่อาจมาจากอาหาร ขนม หรือของเล่น เพราะหากเป็นโซฟาผ้าเมื่อเลอะน้ำแล้วอาจซึมเข้าไปจนทำความสะอาดได้ยาก

ภาพ: รอยขีดข่วนจากสัตว์บนโซฟาหนัง

หรือถ้าบ้านคุณเลี้ยงสัตว์ที่มีนิสัยชอบข่วนล่ะก็ โซฟาหนังคงจะไม่ตอบโจทย์แน่ เนื่องจากเป็นรอยได้ง่ายและเห็นชัดมาก การเลือกโซฟาผ้าอาจช่วยพรางรอยเหล่านั้นได้ดีกว่า แต่โซฟาผ้าเองก็อาจไม่เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ เนื่องจากผ้ามักเป็นที่สะสมของไรฝุ่นหรือสิ่งสกปรกนั่นเอง

6. วิธีการดูแลรักษา

ภาพ: การทำความสะอาดโซฟาหนัง

อีกหนึ่งปัจจัยที่สัมพันธ์กับไลฟ์สไตล์ของคุณ คือ วิธีการรักษาโซฟา เนื่องจากโซฟาแต่ละชนิดมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกันไป 

  • โซฟาผ้าจำเป็นต้องทำความสะอาด ดูดฝุ่นเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เป็นที่กักเก็บเชื้อโรค
  • โซฟาหนังควรขัดหรือเช็ดน้ำยาเฉพาะ ซึ่งช่วยรักษาให้หนังมันเงา วาววับได้นานขึ้น

7. ความเข้ากันกับการตกแต่ง

ภาพ: โซฟาในห้องนั่งเล่นสไตล์เรียบง่าย

เรื่องสุดท้ายในการเลือกโซฟา คือ ควรเลือกให้เข้ากันกับสไตล์ของห้องนั่งเล่น ซึ่งต้องดูองค์ประกอบทั้งสไตล์การตกแต่งที่ใช้เป็นธีมหลัก เฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น สีของห้อง หรือของตกแต่งต่าง ๆ หากคุณมีห้องนั่งเล่นสีชมพูในสไตล์มินิมอลที่ติดตั้งผ้าม่านสีชมพูเข้มแล้ว การเลือกโซฟาสไตล์วินเทจ หรือโซฟาสีชมพูอีกคงจะไม่เข้ากับห้องแน่ เลือกเป็นโซฟาโมเดิร์นสีขาวจะเข้ากว่า และยังช่วยให้โซฟาเด่นขึ้นมากด้วย

สำหรับคนที่ต้องการเลือกโซฟาตัวใหม่ให้สวย ลงตัว เข้ากับห้องนั่งเล่น สามารถเข้าไปช้อปโซฟา เฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านอื่น ๆ ได้ที่  NocNoc.com ซึ่งได้รวบรวมสินค้าและโซฟาคุณภาพดี หลายขนาด หลากสไตล์ พร้อมกับดีลสุดประหยัดให้คุณได้ช้อปตามใจอย่างสบายกระเป๋า! อีกทั้งเรายังมีบริการค้นหาช่างคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการงานช่างในบ้านของคุณ ให้ได้ผลงานที่สวยตรงใจ ไร้ปัญหาการทิ้งงาน! เพียงเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพจาก NocNoc.com เคาะจบทุกเรื่องบ้าน!