• Tips&Tricks

5 สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้

  • โดย NocNoc Writer

  • 39

เฟอร์นิเจอร์ไม้ หนึ่งในวัสดุตกแต่งบ้านที่มีความหลากหลายในตัวเอง สามารถจัดวางได้หลายตำแหน่งและเข้ากับบ้านในทุกสไตล์ สีของไม้จากตัวเฟอร์นิเจอร์ให้ความรู้สึกอบอุ่น ลวดลายของไม้ทำให้บ้านมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง แต่นอกจากสีและลวดลายแล้ว ในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง โดยในวันนี้ NocNoc.com ได้นำข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้มาฝาก เพื่อทุกคนจะได้เฟอร์นิเจอร์ไม้มีคุณภาพและตรงกับความต้องการใช้งานของคุณ

1.รู้จักเนื้อไม้ก่อนเลือกซื้อ

ไม้จริง

ไม้จริง (Wood) คือเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ทำมาจากต้นไม้จริง โดยนำมาตัดประกอบเป็นเฟอร์นิเจอร์ โดยไม้ที่นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์คือ ไม้ยางพารา, ไม้แดง, ไม้ประดู่ เป็นต้น

ภาพ: ไม้จริง
ภาพ: ไม้จริง

ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ไม้จริง

  • มีลวดลายสวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละต้น ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงในแต่ละชิ้นมีความพิเศษไม่ซ้ำใคร
  • เนื้อไม้แน่น มีความแข็งแรงทนทานตามเนื้อไม้ เช่น ไม้ประดู่เป็นไม้เนื้อแข็งมีความแข็งแรงมากกว่าไม้ยางพาราซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน นอกจากนี้ความแข็งแรงยังขึ้นอยู่กับอายุของไม้ หากไม้อายุไม่มากความแข็งแรงก็จะลดลงตามไปด้วย

ข้อเสียของเฟอร์นิเจอร์ไม้จริง

  • ดูแลรักษายาก มีรอยขีดข่วนได้ง่าย ทำให้ต้องใช้กระดาษทรายในการขัดเพื่อกำจัดรอยขีดข่วนและต้องเคลือบเงาเฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนในอนาคต
  • สะสมความชื้น ทำให้เกิดการขยายตัวของไม้ แต่หากอากาศแห้งไม้ก็จะหดตัวลง ทำให้ต้องเผื่อพื้นที่ในการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อรองรับสำหรับการหดขยายตัว
  • มีโอกาสเกิดปลวก ซึ่งส่งผลให้บ้านเสียหายได้ เนื่องจากไม้เป็นอาหารของปลวก ซึ่งหลีกเลี่ยงได้ยากในการป้องกันไม่ให้ปลวกกินไม้
ภาพ: โต๊ะบาร์ไม้จริง WOKEN WOOD
ภาพ: โต๊ะบาร์ไม้จริง WOKEN WOOD

ไม้อัด

ไม้อัด (Ply wood) คือไม้ที่ผลิตโดยวิธีการนำไม้จริงมาปลอกเปลือกนอกออกตัดไม้ให้เป็นแผ่นบาง จากนั้นจึงนำแผ่นไม้ที่ได้มาอัดให้เป็นแผ่นเดียวกันกลายเป็นไม้อัด

ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ไม้อัด

  • จากกรรมวิธีอัดไม้ที่ว่างเปลือกไม้ในแนวเสี้ยนตั้งฉากซึ่งกันและกัน ทำให้ไม้อัดยึดเกาะกันได้ดีไม่ยืดหดตัวเหมือนไม้จริง คงสภาพเดิมได้นาน
  • เนื่องจากผ่านการอัดเปลือกไม้หลายชั้น ทำให้ไม้อัดมีความแข็งแรงทนทาน ไม่แตกง่าย
  • ตกแต่งสะดวก สามารถใช้ตะปูหรือสว่านเจาะปรับแต่งตามความต้องการได้ง่าย

ข้อเสียของเฟอร์นิเจอร์ไม้อัด

  • จากการอัดเปลือกไม้จำนวนหลายชั้นส่งผลให้ไม้อัดมีน้ำหนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ไม้อัดนั้นยากลำบาก
  • ถึงแม้ว่าขนาดของไม้อัดจะไม่ยืดหดเหมือนกับไม้จริง แต่ไม้อัดเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สะสมความชื้น ซึ่งโดนน้ำแล้วจะทำให้ไม้อัดพองตัวเสียรูปทรงจากเดิม

ไม้ปาติเกิล

ไม้ปาติเกิล (Particle Board) ผลิตจากการนำไม้มาสับชิ้นเล็กๆ จนได้เป็นขี้เลื่อย จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนที่ได้ไปผสมกาวและบีบอัดให้เกิดเป็นแผ่นจนกลายเป็นไม้ปาติเกิล โดยไม้ที่นิยมทำไม้ปาติเกิลคือ ไม้ยางพารา เนื่องจากหาได้ง่ายและเนื้อไม้ดี

ภาพ: ไม้ปาติเกิล
ภาพ: ไม้ปาติเกิล

ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาติเกิล

  • เนื่องจากไม้ปาติเกิลทำมาจากชิ้นไม้ขนาดเล็กทำให้ไม้ปาติเกิลน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่ายสะดวกในการติดตั้ง
  • ไม่มีปัญหาเรื่องการหดขยายตัวเหมือนกับไม้จริง
  • หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง

ข้อเสียของเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาติเกิล

  • สะสมความชื้น เมื่อโดนน้ำไม้ปาติเกิลจะพองตัวและเปื่อย ยุ่ย
  • อายุการใช้งานน้อย ไม่แข็งแรงเมื่อเทียบกับไม้ประเภทอื่น เนื่องจากทำมาจากเศษไม้ ทำให้มีอากาศแทรกในช่องว่างระหว่างเศษไม้ การเกาะตัวจึงไม่ยึดติดเหมือนกับไม้อัด
  • หากถอดประกอบไม้ปาติเกิลจะทำให้สูญเสียขี้เลื่อยและมีโอกาสทำให้การประกอบไม่สนิทเหมือนเดิม

ไม้เอ็มดีเอฟ

ไม้เอ็มดีเอฟ (MDF: Medium Density Fiberboard) มีกระบวนการผลิตจากการอัดเศษไม้เช่นเดียวกันกับไม้ปาติเกิล หลังจากได้แผ่นไม้จะปิดผิวไม้ด้วยแผ่นลามิเนตหรือกระดาษพลาสติก ซึ่งจะทำให้มีเนื้อสัมผัสที่ละเอียดและเรียบมากกว่าไม้ปาติเกิล

ภาพ: ไม้เอ็มดีเอฟ
ภาพ: ไม้เอ็มดีเอฟ

ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ไม้เอ็มดีเอฟ

  • การเคลือบด้วยกระดาษพลาสติกทำให้ผิวสัมผัสเรียบเนียน ตกแต่งทาสีขัดเงาได้ง่าย
  • มีน้ำหนักเบาสามารถติดตั้งและเคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์บ่อย

ข้อเสียของเฟอร์นิเจอร์ไม้เอ็มดีเอฟ

  • เมื่อได้รับความชื่นและน้ำจะทำให้แผ่นพลาสติกที่เคลือบปิดผิวหนังบวม และทำให้เนื้อไม้ข้างในเปื่อยยุ่ย
  • เนื้อไม้ที่ละเอียดแต่ไม่หนาแน่น ทำไม่เหมาะกับการใช้ตะปู เพราะพื้นสัมผัสยึดเกาะได้ไม่ดี ทำให้ดัดแปลง ซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ได้ยาก
  • ความหนาแน่นของเนื้อไม้น้อย มีความแข็งแรงต่ำ ทำให้เฟอร์นิเจอร์รับน้ำหนักได้ไม่มากและมีโอกาสชำรุดเมื่อถูกแรงกดทับจำนวนมาก

2.รู้สไตล์ที่ชอบก่อนตัดสินใจ

ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้ สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เลือกเฟอร์นิเจอร์ง่ายขึ้นคือสไตล์ของบ้าน โดยเฟอร์นิเจอร์ไม้สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์บ้านได้หลากหลาย ตามการออกแบบและสีของเฟอร์นิเจอร์

สไตล์มินิมอล

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เหมาะกับสไตล์มินิมอล คือเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีส่วนเว้าโค้งชัดเจน ขนาดที่พอดีไม่ใหญ่จนเกินไปแต่เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่อเนกประสงค์สามารถใช้งานหลายอย่างภายในของชิ้นเดียว โดยสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เหมาะกับสไตล์มินิมอลคือสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งเข้ากันกับสไตล์ของบ้านที่เน้นสีเรียบง่าย

ภาพ: โต๊ะทำงานไม้จริง WOKEN WOOD ตกแต่งห้องนอนในสไตล์มินิมอล

สไตล์ทรอปิคอล

ในส่วนของสไตล์ทรอปปิคอลสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่หลากหลาย ทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงที่แสดงให้เห็นธรรมชาติของเนื้อไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้อื่นๆเช่นไม้อัดหรือไม้ปาติเกิล ซึ่งสามารถเลือกได้จากสีของไม้ โดยสีไม้ที่ใช้ในสไตล์ทรอปิคอลสามารถเลือกได้ทั้งสีอ่อนและสีเข้ม

ภาพ: โซฟาไม้จริง WOKEN WOOD ตกแต่งบ้านสไตล์ทรอปิคอล

สไตล์ลอฟท์

สำหรับสไตล์ลอฟท์ส่วนใหญ่จะเน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเหล็กเสียมากกว่า แต่หากใครที่ต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ควรเลือกไม้ที่มีสีเข้มเพื่อให้กลมกลืนกับสีของบ้าน นอกจากนี้การเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้สำหรับบ้านสไตล์ลอฟท์ควรคำนึงถึงลายไม้ที่โดดเด่น เพราะลายไม้แสดงให้เห็นถึงความเป็นสัจวัตถุ เป็นเนื้อแท้ของวัตถุตกแต่งตามหลักการแต่งบ้านของสไตล์ลอฟท์

ภาพ: ชั้นวางทีวีไม้จริง GIST THE GAP ตกแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์

สไตล์โมเดิร์น

การเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้ในสไตล์โมเดิร์น สิ่งที่ให้ความสำคัญคือการออกแบบ โดยการออกแบบต้องมีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับสไตล์โมเดิร์น เช่น มีเส้นตรงของวัตถุที่ชัดเจน, มีรูปทรงเรขาคณิตและมีลักษณะโปร่งไม่ทึบ เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของบ้านที่ต้องการความโปร่งโล่ง ส่วนสีที่ใช้ควรเป็นสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งสีโทนอ่อนเป็นสีที่ใช้เป็นหลักในบ้านสไตล์โมเดิร์น

ภาพ: เก้าอี้อาร์มแชร์ P STYLE FURNITURE ตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น

สไตล์วินเทจ

สำหรับการแต่งบ้านสไตล์วินเทจ สิ่งที่สำคัญคือลักษณะของเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งต้องเชื่อมโยงกับยุคอดีต เช่น ตู้ไม้ทรงโบราณ หรือโซฟาไม้แบบโบราณ  โดยสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้สำหรับสไตล์วินเทจขึ้นอยู่กับรสนิยมของเจ้าของบ้าน ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะตกแต่งเป็นการย้อนอดีตที่แสดงให้เห็นลายไม้สีเข้ม หรือจะทาสีอื่นทับสีไม้ก็ได้ แค่เพียงให้ย้อนยุคเท่านั้นเอง

ภาพ: โต๊ะทำงานไม้วินเทจ ASHLEY ตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจ

3.รู้จักตำแหน่งการจัดวาง

ตำแหน่งการจัดวางกับความแข็งแรงของไม้

ตำแหน่งการจัดวางจะสัมพันธ์กับความแข็งแรงของเฟอร์นิเจอร์ไม้ โดยในแต่ละพื้นที่และการใช้งานจะแตกต่างกันไปยกตัวอย่างเช่น การใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สำหรับการวางทีวี ก็ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก อย่างไม้จริงหรือไม้อัด

ตำแหน่งการจัดวางกับความสวยงาม

การเลือกเฟอร์นิเจอร์ตำแหน่งที่แสดงความสวยงามอย่างเช่น ห้องรับแขก ปัจจัยในการเลือกจะเปลี่ยนเป็น ความสวยงามแทน เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้เอ็มดีเอฟที่ขัดสีตกแต่งให้สวยงามได้ หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงที่แสดงความสวยงามของเนื้อไม้ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน

ตำแหน่งการจัดวางกับการเคลื่อนย้าย

สำหรับใครที่ชอบเคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนตำแหน่งบ่อยๆ เช่น เปลี่ยนมุมห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีน้ำหนักเบา อย่างไม้ปาติเกิล หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้เอ็มดีเอฟ เพราะจะทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก และนอกจากน้ำหนักเบาแล้วควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีลักษณะโปร่งจะทำให้เคลื่อนย้ายปรับแต่งได้เข้ากันกับหลายตำแหน่งภายในบ้าน

ตำแหน่งการจัดวางกับการรักษาเนื้อไม้

โดยไม้แต่ละประเภทมีความแข็งแรงทนทานที่แตกต่างกัน เช่น หากคุณนำเฟอร์นิเจอร์ไม้อัดซึ่งทนทานต่อน้ำต่ำ ไปตกแต่งบริเวณนอกบ้านที่มีความเสี่ยงจากสภาพอากาศ จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง เพราะไม้อัดจะบวมน้ำและผุพังได้ง่าย ดังนั้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้จึงต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่ตั้งกับความชื้นเป็นหลัก เพราะไม้ส่วนใหญ่ไม่ทนต่อความชื้น ซึ่งทำให้เนื้อไม้เกิดความเสียหายได้ในที่สุด

4.รู้อายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์

เฟอร์นิเจอร์ไม้มีข้อจำกัดที่อายุการใช้งาน เพราะไม้ย่อมเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ดังนั้นควรกำหนดระยะเวลาในการใช้งานผ่านการกำหนดพื้นที่ว่าพื้นที่ไหนที่ไม่ต้องการปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อย เช่น ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนหรือเตียง ให้เลือกไม้ที่มีอายุการใช้งานนานอย่างไม้จริง เพราะจะสามารถใช้งานได้นานขึ้น ไม่คอยต้องกังวลเรื่องในการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อย แต่ทั้งนี้ไม่ว่าเฟอร์นิเจอร์จะอยู่ตำแหน่งไหน ผู้ใช้งานก็สามารถยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้ เพียงมั่นทำความสะอาด คอยดูแลรักษาเรื่องความชื้นและปลวกที่กัดกินเนื้อไม้ เป็นต้น

5.รู้งบประมาณ

สำหรับงบประมาณเนื้อไม้แต่ละประเภทจะมีราคาที่แตกต่างกันไป โดยราคาสูงสุดของเฟอร์นิเจอร์ไม้อยู่ที่ไม้จริง รองลงมาคือไม้อัด ต่อมาคือไม้เอ็มดีเอฟ และราคาถูกที่สุดคือไม้ปาติเกิล

โดยการกำหนดงบประมาณสามารถพิจารณาได้จากการตั้งเป้าหมายในการซื้อ เช่น อยากใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ในระยะเวลานาน ก็ควรซื้อวัสดุที่ทนทานอย่างไม้จริงหรือไม้อัด แต่หากซื้อมาใช้แค่ชั่วคราว เช่น ใช้ตกแต่งคอนโด การเลือกใช้ไม้เอ็มดีเอฟหรือไม้ปาติเกิล ก็เพียงพอแล้วเพราะราคาไม่สูง

ในการเลือกซื้อนอกจากจะตั้งงบประมาณและตั้งเป้าหมายแล้ว สิ่งสำคัญคือการเปรียบเทียบราคาเฟอร์นิเจอร์ โดยปัจจุบันการเปรียบเทียบราคาสามารถทำได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการเดินหลายร้านแล้ว เพราะแค่คลิกเข้าเว็บ NocNoc.com  คุณก็สามารถเปลี่ยนเทียบราคาเฟอร์นิเจอร์ได้แล้ว บางทีคุณอาจจะเจอเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดี ในราคาสบายกระเป๋าก็ได้

ภาพ:ตัวอย่างการเปรียบเทียบสินค้าและราคาภายในเว็บ NocNoc.com
ภาพ:ตัวอย่างการเปรียบเทียบสินค้าและราคาภายในเว็บ NocNoc.com

สรุป

การเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้ ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ตำแหน่งการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ จากนั้นจึงศึกษาความแตกต่างรายละเอียดของไม้ที่ทำเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเลือกเฟอร์นิเจอร์สามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้งานได้ ท้ายที่สุดคืองบประมาณในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ไม้แต่ละประเภทก็มีราคาที่แตกต่างกันตามคุณภาพ

สำหรับใครที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ไม้คุณภาพเยี่ยม ราคาดี ทาง NocNoc.com  ได้รวบรวมเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านจากร้านค้าแบนด์ดังมากมาย ดีไซน์หลากหลายให้สำหรับทุกคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงบ้านให้สวยงาม เพราะเราพร้อมเป็นตัวช่วยเปลี่ยนความฝันเรื่องบ้านให้เป็นความจริง!

แต่งบ้านได้สุดอย่างฝัน ที่ NocNoc.com

บทความที่เกี่ยวข้อง